Sunday, October 5, 2014

10 เทคนิคง่าย ๆ กำจัดคราบบนเสื้อผ้าให้หายเกลี้ยง




            เทคนิคในการกำจัดคราบ เปื้อนต่าง ๆ บนเสื้อผ้าตัวโปรด จะมาช่วยให้การกำจัดคราบสกปรกที่่แสนจะยุ่งยากเหล่านี้เป็นเรื่องง่าย เพราะเรามีเทคนิคในการกำจัดคราบต่าง ๆ บนเสื้อผ้ามาให้ลองทำตามกันค่ะ

            เชื่อว่าคงมีหลายคนที่รู้สึกรำคาญใจกับคราบบนเสื้อผ้าตัวโปรดที่ไม่ว่าอย่างไรก็ กำจัดไม่ออกสักที แม้ว่าจะลองวิธีใดก็ตาม ร่องรอยเหล่านี้ก็ยังคอยกวนใจทุกครั้งที่สวมใส่เสื้อตัวโปรด แต่จะทำยังไงให้คราบเหล่านี้หมดไป วันนี้ปัญหารอยเปื้อนบนเสื้อผ้าที่แสนกำจัดยากจะถูกกำจัดให้หมดเกลี้ยง ด้วยเทคนิคง่าย ๆ 10 ข้อดังต่อไปนี้ค่ะ

1. รีบกำจัดคราบทันทีเมื่อรู้ว่ามีคราบเปื้อน

            เมื่อรู้ว่ามีคราบเปื้อนบนเสื้อผ้าสุดโปรดให้รีบนำไปแช่และซักออกทันที เพราะรอยคราบที่เพิ่งเกิดใหม่ ๆ จะกำจัดออกได้ง่ายกว่า เพื่อความสะดวกและรวดเร็วต่อการกำจัดคราบ จึงไม่ควรปล่อยทิ้งไว้นานจนคราบแห้งติดเสื้อ โดยหากอยากกำจัดคราบออกจนหมด ให้ใช้สบู่หรือผงซักฟอกทำความสะอาดแล้วขยี้จนกว่าคราบจะหายไป และควรเลือกให้ถูกกับเนื้อผ้าด้วยจะดีมาก

2. แช่น้ำอุ่นเพื่อละลายคราบเปื้อน

            เมื่อรู้ว่ามีคราบเปื้อนแล้วให้นำผ้าไปแช่ในน้ำอุ่นเพื่อให้คราบต่าง ๆ ละลายออก จากนั้นทิ้งไว้สักพัก นำสบู่มาถูในบริเวณที่มีคราบ ขยี้ด้วยความระมัดระวังไม่แรงจนเกินไป เมื่อกำจัดคราบออกหมดแล้วล้างด้วยน้ำสะอาดอีกที เท่านี้เสร็จเรียบร้อย และที่สำคัญควรไม่ละเลยขั้นตอนและศึกษาขั้นตอนอย่างละเอียดก่อนทำความสะอาด เพื่อเป็นการรักษาเนื้อผ้าไม่ให้ถูกทำลาย

3. ทดลองในบริเวณที่ไม่เปื้อนก่อน

            เมื่อพบว่ามีคราบบนเสื้อผ้าของคุณไม่ควรนำอุปกรณ์กำจัดคราบมาทำความสะอาดทันทีใน บริเวณที่มีคราบ เพราะคุณไม่อาจรู้ว่าอุปกรณ์ที่นำมาทำความสะอาดจะไม่ทำลายเนื้อผ้าได้ ดังนั้นก่อนที่จะนำอุปกรณ์กำจัดคราบเหล่านี้มาทำความสะอาดเสื้อผ้า ควรทดสอบกับเสื้อผ้าในบริเวณที่ไม่เด่นชัด เพื่อให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ทำความสะอาดเหล่านี้จะไม่ทำลายเสื้อผ้าตัวโปรด และถ้าพบว่ามีผลกระทบต่อเสื้อผ้าให้รีบเปลี่ยนอุปกรณ์ที่ใช้ทันที 

4. กำจัดคราบจากบริเวณด้านหลังของรอยเปื้อน

            ให้จำไว้ว่าไม่ควรกำจัดคราบบริเวณที่มีคราบทันที เพราะจะทำให้คราบกระจายไปในส่วนอื่น ๆ ดังนั้นควรเริ่มกลับเอาด้านนอกมาซักทำความสะอาดก่อน จากนั้นเมื่อคราบจางลงให้เริ่มกำจัดบริเวณที่มีคราบด้วยสบู่ หรือผงซักฟอก เมื่อกำจัดบริเวณคราบที่มีจนหมดเกลี้ยงแล้ว ให้ล้างด้วยน้ำสะอาดจนหมดความลื่น จากนั้นนำไปตากในที่ที่อากาศถ่ายเท เท่านี้ก็จะได้เสื้อตัวที่เหมือนใหม่พร้อมใส่อีกครั้ง

5. ระมัดระวังในการใช้น้ำยากำจัดคราบ

            ควรล้างสารทำความสะอาดบนเสื้อผ้าให้หมดจดก่อนที่จะนำไปตากแดด เพราะอุปกรณ์กำจัดคราบบางชนิดเป็นสารติดไฟง่าย ถ้าเราทำความสะอาดไม่หมดและยังมีสารเหล่านี้ติดอยู่บนเสื้อผ้า อาจเป็นสาเหตุให้เกิดไฟไหม้ได้เช่นกัน ดังนั้นถ้าไม่อยากให้เกิดอันตรายอย่าลืมควรล้างทำความสะอาดเสื้อผ้าด้วยน้ำ สะอาดให้เรียบร้อยนะคะ

6. ระวังเรื่องการใช้สารฟอกขาว

            ระมัดระวังในการเลือกสารฟอกขาวมาทำความสะอาดเพราะถ้าเลือกสารฟอกขาวที่ไม่ดี แทนที่จะทำให้เสื้อผ้าไร้รอยคราบ อาจทำให้เสื้อผ้าของคุณมีรอยด่างเพิ่มมากขึ้น แถมยังกำจัดยากกว่าเดิม

7. อย่านำน้ำยากำจัดคราบผสมรวมกัน

            คงมีหลายคนที่ไม่รู้ว่าจะเลือกใช้อุปกรณ์กำจัดคราบชนิดไหนดี หรือไม่รู้ว่าแบบไหนที่ดีต่อเสื้อผ้าของคุณ เพราะมีหลายแบบให้เลือกใช้ จนบางครั้งก็เอามาผสมและใช้รวมกัน ซึ่งแน่นอนว่าจะส่งผลเสียกับเสื้อผ้า ดังนั้นไม่ควรใช้อุปกรณ์กำจัดคราบรวมกัน ควรเลือกใช้อย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น

8. ล้างทำความสะอาดน้ำยากำจัดคราบให้สะอาด

            ล้างทำความสะอาดน้ำยาทำความสะอาดเหล่านี้ให้หมดเกลี้ยง เพราะถ้าล้างไม่สะอาดแล้วเมื่อคุณนำไปสวมใส่จะทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว ควรแน่ใจว่าล้างน้ำสะอาดสัก 2-3 รอบเพื่อให้ขจัดสารจากน้ำยาทำความสะอาดให้หมดไป แล้วค่อยนำไปตากในที่โล่งที่ที่มีแดดส่องถึง

9. ใช้ความอดทนในการกำจัดคราบ

            ในการกำจัดคราบบนเสื้อผ้าแต่ละครั้งต่างก็ต้องใช้เวลาเพื่อให้น้ำยาได้ทำงาน ได้ดี หรือถ้าครั้งแรกในการกำจัดคราบยังมีร่องรอยหลงเหลือ ก็ให้ทำซ้ำ ซึ่งวิธีการต่าง ๆ เหล่านี้ต่างต้องใช้ความอดทน จึงไม่ควรรีบร้อนจนเกินไปจนทำให้ผ้าได้รับความเสียหายในขณะที่กำจัดคราบหรือ ทำความสะอาด

10. คราบบางอย่างไม่อาจถูกกำจัด

            ถึงแม้จะลองวิธีการกำจัดคราบต่าง ๆ มากมาย แต่ก็จะมีรอยคราบบางอย่างที่ไม่สามารถกำจัดออก ดังนั้นให้จำไว้ว่าถ้าคุณได้พยายามมาจนครบทุกวิธีแล้วแต่ก็ยังไม่สามารถ กำจัดคราบที่น่ารำคาญเหล่านี้ได้ อย่างน้อยรอยคราบเหล่านี้ก็จางลงและไม่เด่นชัดมากนัก

            คราวนี้ไม่ว่าจะเป็นคราบเปื้อนจากซอสมะเขือเทศ หรือคราบเปื้อนต่าง ๆ บนเสื้อผ้าตัวโปรด ก็ไม่ต้องกังวลอีกต่อไปแล้วนะคะ เพียงแค่ทำตามเทคนิคง่าย ๆ เหล่านี้ คราบที่เคยทิ้งรอยกวนใจไว้ ก็จะหายไปหมดเกลี้ยงค่ะ

ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

No comments:

Post a Comment