เทคนิคในการกำจัดคราบ เปื้อนต่าง ๆ บนเสื้อผ้าตัวโปรด จะมาช่วยให้การกำจัดคราบสกปรกที่่แสนจะยุ่งยากเหล่านี้เป็นเรื่องง่าย
เพราะเรามีเทคนิคในการกำจัดคราบต่าง ๆ บนเสื้อผ้ามาให้ลองทำตามกันค่ะ
เชื่อว่าคงมีหลายคนที่รู้สึกรำคาญใจกับคราบบนเสื้อผ้าตัวโปรดที่ไม่ว่าอย่างไรก็
กำจัดไม่ออกสักที แม้ว่าจะลองวิธีใดก็ตาม ร่องรอยเหล่านี้ก็ยังคอยกวนใจทุกครั้งที่สวมใส่เสื้อตัวโปรด
แต่จะทำยังไงให้คราบเหล่านี้หมดไป วันนี้ปัญหารอยเปื้อนบนเสื้อผ้าที่แสนกำจัดยากจะถูกกำจัดให้หมดเกลี้ยง
ด้วยเทคนิคง่าย ๆ 10 ข้อดังต่อไปนี้ค่ะ
1. รีบกำจัดคราบทันทีเมื่อรู้ว่ามีคราบเปื้อน
เมื่อรู้ว่ามีคราบเปื้อนบนเสื้อผ้าสุดโปรดให้รีบนำไปแช่และซักออกทันที
เพราะรอยคราบที่เพิ่งเกิดใหม่ ๆ จะกำจัดออกได้ง่ายกว่า เพื่อความสะดวกและรวดเร็วต่อการกำจัดคราบ
จึงไม่ควรปล่อยทิ้งไว้นานจนคราบแห้งติดเสื้อ โดยหากอยากกำจัดคราบออกจนหมด ให้ใช้สบู่หรือผงซักฟอกทำความสะอาดแล้วขยี้จนกว่าคราบจะหายไป
และควรเลือกให้ถูกกับเนื้อผ้าด้วยจะดีมาก
2. แช่น้ำอุ่นเพื่อละลายคราบเปื้อน
เมื่อรู้ว่ามีคราบเปื้อนแล้วให้นำผ้าไปแช่ในน้ำอุ่นเพื่อให้คราบต่าง
ๆ ละลายออก จากนั้นทิ้งไว้สักพัก นำสบู่มาถูในบริเวณที่มีคราบ ขยี้ด้วยความระมัดระวังไม่แรงจนเกินไป
เมื่อกำจัดคราบออกหมดแล้วล้างด้วยน้ำสะอาดอีกที เท่านี้เสร็จเรียบร้อย และที่สำคัญควรไม่ละเลยขั้นตอนและศึกษาขั้นตอนอย่างละเอียดก่อนทำความสะอาด
เพื่อเป็นการรักษาเนื้อผ้าไม่ให้ถูกทำลาย
3. ทดลองในบริเวณที่ไม่เปื้อนก่อน
เมื่อพบว่ามีคราบบนเสื้อผ้าของคุณไม่ควรนำอุปกรณ์กำจัดคราบมาทำความสะอาดทันทีใน
บริเวณที่มีคราบ เพราะคุณไม่อาจรู้ว่าอุปกรณ์ที่นำมาทำความสะอาดจะไม่ทำลายเนื้อผ้าได้
ดังนั้นก่อนที่จะนำอุปกรณ์กำจัดคราบเหล่านี้มาทำความสะอาดเสื้อผ้า ควรทดสอบกับเสื้อผ้าในบริเวณที่ไม่เด่นชัด
เพื่อให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ทำความสะอาดเหล่านี้จะไม่ทำลายเสื้อผ้าตัวโปรด และถ้าพบว่ามีผลกระทบต่อเสื้อผ้าให้รีบเปลี่ยนอุปกรณ์ที่ใช้ทันที
4. กำจัดคราบจากบริเวณด้านหลังของรอยเปื้อน
ให้จำไว้ว่าไม่ควรกำจัดคราบบริเวณที่มีคราบทันที
เพราะจะทำให้คราบกระจายไปในส่วนอื่น ๆ ดังนั้นควรเริ่มกลับเอาด้านนอกมาซักทำความสะอาดก่อน
จากนั้นเมื่อคราบจางลงให้เริ่มกำจัดบริเวณที่มีคราบด้วยสบู่ หรือผงซักฟอก เมื่อกำจัดบริเวณคราบที่มีจนหมดเกลี้ยงแล้ว
ให้ล้างด้วยน้ำสะอาดจนหมดความลื่น จากนั้นนำไปตากในที่ที่อากาศถ่ายเท เท่านี้ก็จะได้เสื้อตัวที่เหมือนใหม่พร้อมใส่อีกครั้ง
5. ระมัดระวังในการใช้น้ำยากำจัดคราบ
ควรล้างสารทำความสะอาดบนเสื้อผ้าให้หมดจดก่อนที่จะนำไปตากแดด
เพราะอุปกรณ์กำจัดคราบบางชนิดเป็นสารติดไฟง่าย ถ้าเราทำความสะอาดไม่หมดและยังมีสารเหล่านี้ติดอยู่บนเสื้อผ้า
อาจเป็นสาเหตุให้เกิดไฟไหม้ได้เช่นกัน ดังนั้นถ้าไม่อยากให้เกิดอันตรายอย่าลืมควรล้างทำความสะอาดเสื้อผ้าด้วยน้ำ
สะอาดให้เรียบร้อยนะคะ
6. ระวังเรื่องการใช้สารฟอกขาว
ระมัดระวังในการเลือกสารฟอกขาวมาทำความสะอาดเพราะถ้าเลือกสารฟอกขาวที่ไม่ดี
แทนที่จะทำให้เสื้อผ้าไร้รอยคราบ อาจทำให้เสื้อผ้าของคุณมีรอยด่างเพิ่มมากขึ้น
แถมยังกำจัดยากกว่าเดิม
7. อย่านำน้ำยากำจัดคราบผสมรวมกัน
คงมีหลายคนที่ไม่รู้ว่าจะเลือกใช้อุปกรณ์กำจัดคราบชนิดไหนดี
หรือไม่รู้ว่าแบบไหนที่ดีต่อเสื้อผ้าของคุณ เพราะมีหลายแบบให้เลือกใช้ จนบางครั้งก็เอามาผสมและใช้รวมกัน
ซึ่งแน่นอนว่าจะส่งผลเสียกับเสื้อผ้า ดังนั้นไม่ควรใช้อุปกรณ์กำจัดคราบรวมกัน ควรเลือกใช้อย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น
8. ล้างทำความสะอาดน้ำยากำจัดคราบให้สะอาด
ล้างทำความสะอาดน้ำยาทำความสะอาดเหล่านี้ให้หมดเกลี้ยง
เพราะถ้าล้างไม่สะอาดแล้วเมื่อคุณนำไปสวมใส่จะทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว ควรแน่ใจว่าล้างน้ำสะอาดสัก
2-3 รอบเพื่อให้ขจัดสารจากน้ำยาทำความสะอาดให้หมดไป แล้วค่อยนำไปตากในที่โล่งที่ที่มีแดดส่องถึง
9. ใช้ความอดทนในการกำจัดคราบ
ในการกำจัดคราบบนเสื้อผ้าแต่ละครั้งต่างก็ต้องใช้เวลาเพื่อให้น้ำยาได้ทำงาน
ได้ดี หรือถ้าครั้งแรกในการกำจัดคราบยังมีร่องรอยหลงเหลือ ก็ให้ทำซ้ำ ซึ่งวิธีการต่าง
ๆ เหล่านี้ต่างต้องใช้ความอดทน จึงไม่ควรรีบร้อนจนเกินไปจนทำให้ผ้าได้รับความเสียหายในขณะที่กำจัดคราบหรือ
ทำความสะอาด
10. คราบบางอย่างไม่อาจถูกกำจัด
ถึงแม้จะลองวิธีการกำจัดคราบต่าง
ๆ มากมาย แต่ก็จะมีรอยคราบบางอย่างที่ไม่สามารถกำจัดออก ดังนั้นให้จำไว้ว่าถ้าคุณได้พยายามมาจนครบทุกวิธีแล้วแต่ก็ยังไม่สามารถ
กำจัดคราบที่น่ารำคาญเหล่านี้ได้ อย่างน้อยรอยคราบเหล่านี้ก็จางลงและไม่เด่นชัดมากนัก
คราวนี้ไม่ว่าจะเป็นคราบเปื้อนจากซอสมะเขือเทศ หรือคราบเปื้อนต่าง ๆ บนเสื้อผ้าตัวโปรด
ก็ไม่ต้องกังวลอีกต่อไปแล้วนะคะ เพียงแค่ทำตามเทคนิคง่าย ๆ เหล่านี้
คราบที่เคยทิ้งรอยกวนใจไว้ ก็จะหายไปหมดเกลี้ยงค่ะ
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
No comments:
Post a Comment