Sunday, July 28, 2013

ทายนิสัยจากมือถือที่ใช้




     
 มือถือแบบจอขาวดำ

            ใครใช้มือถือแบบนี้เป็นคนง่าย ๆ สบาย ๆ รักอิสระ ชอบธรรมชาติเป็นชีวิตจิตใจ มีความคิดที่เป็นเหตุเป็นผล แต่มักจะคิดว่าตัวเองด้อยกว่าคนอื่นอยู่เสมอ มีพรสวรรค์ทางด้านศิลปะทุกประเภท ทั้งการแสดง วาดรูป หรืองานขีด ๆ เขียน ๆ เนี่ยถนัดนัก ใครมีอะไรให้ช่วยเหลือทางด้านศิลปะ ก็ไหว้วานกันได้เลย

     
 มือถือแบบ PCT

            จัดเป็นมือถือรุ่นจิ๋วที่สุด และก็ประหยัดกระเป๋าเงินพ่อแม่มากที่สุดเหมือนกัน ใครที่ใช้มือถือแบบนี้จัดว่าเป็นคนหัวอ่อนอยู่ในกรอบกฎเกณฑ์ทุกอย่างโดยไม่ มีง ขี้เกรงใจ ชอบเก็บความรู้สึก แอบรักแอบปลื้ม หรือรู้สึกอะไรก็ไม่ยอมบอกใคร แถมขี้น้อยใจเป็นที่สุด คนใกล้ชิดต้องคอยเอาใจใส่กันหน่อยแล้วล่ะ

     
 มือถือแบบจอสี

            ดูเผิน ๆ เป็นคนสนุกสนาน มีมุขตลก เฮฮาปาจิงโกะตลอดเวลาเข้ากับสีสันของจอมือถือซะจริงๆ แต่ลึกๆ แล้วเป็นคนเจ้าอารมณ์ทีเดียวนะ อย่าไปขัดใจเค้าเข้าล่ะ นอกจากนั้นยังเป็นคนติดกลุ่มติดเพื่อน วันหยุดเมื่อไหร่ เป็นต้องโทรตามเพื่อนๆ รวมกลุ่มกันไปเที่ยวตลอด ขี้เหงาจริงๆเลยนะเนี่ย เอ้าเพื่อนๆก็เอาใจเค้าหน่อยก็แล้วกัน

     
 มือถือแบบเล่นเกมส์โดยเฉพาะ

            คนนี้คิดอะไรไม่ค่อยเหมือนคนอื่นเค้าเรื่องความคิดสร้างสรรค์เป็นที่หนึ่ง ใครจะขอไอเดียทำเซอร์ไพรส์หวานใจ มาถามคนนี้ได้ หัวใจพวกเขาเหมือนเด็กน้อยที่ใสสะอาดบริสุทธิ์ มองโลกในแง่ดีตลอด แต่เวลาโกรธขึ้นมา อารมณ์รุนแรงเชียวล่ะ อย่าไปทำให้โมโหนะ เดี๋ยวจะยุ่ง

     
 มือถือแบบถ่ายรูปได้

            รายนี้อินเทรนด์ตามแบบฉบับเด็กแนวเลยล่ะ เทรนด์แฟชั่นใหม่เป็นยังไงเค้ารู้หมด ชอบทำตัวเป็นจุดเด่น เชื่อมั่นในตัวเองมากถ้าคิดอะไร จะต้องเอาอย่างใจให้ได้ หากจะตกลงอะไรกับเค้า เพื่อนๆอย่าเพิ่งปวดเฮ้ดก็แล้วกัน ค่อยๆ หว่านล้อม ใช้เหตุผลคุยดีๆก็แล้วกัน อ้อ แต่เรื่องหัวใจลองรักใครแล้ว รักจริงเลยล่ะ แถมยังมีอารมณ์โรแมนติกบ่อยๆ ซะด้วย อูยยยย....น่าอิจฉาหวานใจของคนแบบนี้จริง ๆ

     
 มือถือแบบจอระบบสัมผัส

            ไฮเทคโนโลยีแบบนี้ บอกได้เลยว่าออกจะเก็บตัวอยู่นะ ไม่ชอบสุงสิงกับเพื่อนเท่าไหร่ พักกลางวันทีไรไม่ค่อยมาเล่นกับเพื่อนคนอื่นๆเค้าหรอก เป็นคนทะเยอทะยาน ไม่ต้องการเป็นที่สองรองใคร ต้องเป็นที่ 1 ตลอด เพราะฉะนั้นเรื่องเรียนจึงเซียนอย่าบอกใครเลย ใครมีเพื่อนแบบนี้ หากมีปัญหาเรื่องการเรียน ก็เดินเข้าไปหาได้เลย เค้าเป็นที่พึ่งได้อย่างดีเชียวล่ะ



แหล่งที่มา  http://horoscope.kapook.com/view10564.html
เครดิตภาพ  https://www.pinterest.com/pin/87820261455961781/

Saturday, July 27, 2013

10 เคล็ดลับ หลับสบาย




        นอนเถอะค่ะ... แล้วพรุ่งนี้ทุกอย่างจะดีเอง คำพูดนี้อาจฟังดูไม่สมเหตุสมผล แต่เชื่อเถอะว่ามันจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ เพราะการหลับสนิทในช่วงที่ร่างกายต้องการพักผ่อนคือการชาร์จพลังที่ดีที่สุด ที่มอบคุณประโยชน์มหาศาลทั้งร่างกาย จิตใจ และสติปัญญา  

         น่าตกใจกับผลการวิจัยในสหรัฐอเมริกาชิ้น หนึ่งที่พบว่าเมืองนิวยอร์กทั้งเมืองล้วนเต็มไปด้วยสาวก Sleepless Society คนนอนไม่หลับมากมาย ในจำนวนนี้ยังได้หมายรวมไปถึงกลุ่มคนที่พยายามจะนอนให้หลับ และกลุ่มคนที่เทคยานอนหลับด้วย

        จากการแยกแยะวิเคราะห์พฤติกรรมและผลกระทบยืนยันว่า คนส่วนใหญ่เป็นหนุ่มสาวที่มีอายุระหว่าง 25-35 ปี ซึ่งมีความเคร่งเครียดหลักจากสภาวะกดดันเรื่องความก้าวหน้าในการงาน และค่าครองชีพ การนอนไม่หลับอันเนื่องจากไม่รู้จัก Shut Down ความคิดที่วนเวียนในสมองนี้ ยังส่งผลให้เกิดอาการซึมเศร้า หดหู่ ที่กระทบต่อประสิทธิภาพการทำงาน และความคิดสร้างสรรค์อีกด้วย และเมื่อเป็นอย่างนี้นานเข้า มันก็จะเริ่มก่อตัวเป็นวัฏจักรที่ไม่สิ้นสุด นั่นคือ เครียด-นอนไม่หลับ-หดหู่ซึมเศร้า-ขาดพลังงานและความคิดสร้างสรรค์-ผลงานไม่ น่าประทับใจ-วิตกจริต และกลับมาสู่วงจรแห่งความเครียดซ้ำซ้อน นักวิชาการทั่วโลกต่างออกมายืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า... นี่คือมหันตภัยทางจิต ของเวิร์กกิ้งแมนและวูแมนทั่วโลกแห่งปี 2008 ที่น่ากลัว

 
 9 Checks, Are You A Sleepless Society?

        ลองมาเช็กดูกันดีกว่าว่าวันนี้คุณมีอาการเข้าใกล้วงจรนอนไม่หลับแค่ไหน...คุณมีอาการแบบนี้หรือเปล่า

        • หลับตานานแล้ว แต่สมองยังไม่หยุดคิด
        • มักรู้สึกตัวระหว่างนอนหลับเป็นระยะๆ
        • ระหว่างหลับรู้สึกว่าสมองยังคิดและกังวล
        • ไม่อยากตื่นทั้งที่รู้สึกว่านอนมานานแล้ว
        • ความคิดตื้อตันไม่ทันใจ
        • ง่วงนอนระหว่างวัน
        • รู้สึกซึมเศร้าอย่างไม่มีสาเหตุ
        • ปวดหัว และอ่อนเพลียง่าย 
        • ตื่นด้วยความงัวเงียไม่แจ่มใส แม้จะอาบน้ำและแปรงฟัน

 10 Ways to Sleep Well 

        ใช้ชีวิตเปลี่ยนแนว เพื่อการนอนหลับที่เป็นสุขและหมดทุกข์เรื่องเครียดกังวล กับ 10 คำแนะนำเหล่านี้ 

        1. เข้านอนก่อน 4 ทุ่ม และตื่น 6 โมงเช้า เพราะนี่คือช่วงที่เหมาะสมที่สุดในการพักผ่อนร่างกาย

        2. สะสาง วางแผนสิ่งที่กังวลที่จะทำในวันต่อไปให้เรียบร้อยเพื่อลดอาการวิตกจริต และคิดซ้ำซาก

        3. บอกกับตัวเองว่าการเครียดกังวล และใช้สมองในช่วงที่ต้องนอนหลับนั้นเปล่าประโยชน์ เนื่องจากสติ สัมปชัญญะ และความอ่อนล้าของร่างกายคืออุปสรรค ดังนั้น นอนหลับให้สนิทแล้วตื่นมาคิดอย่างแจ่มใส ย่อมให้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพดีกว่า  

        4. ถ้าคุณนอนหลับยาก ควรออกกำลังกายในช่วงเย็น หรือ 4-6 ชั่วโมงก่อนนอน แต่อย่าทำใกล้เวลานอน

        5. ปรับอุณหภูมิห้องให้เย็นระหว่าง 17-25 องศาเซลเซียส แล้วจะหลับง่ายสบายบอดี้

        6. เสริมเครื่องฟอกอากาศในห้องนอนเพื่อเพิ่มปริมาณออกซิเจนที่สมดุล จะนอนหลับลึกได้ต่อเนื่อง

        7. ความมืดมิดและไร้เสียง คือเคล็ดลับที่จะทำให้หลับได้สนิทและยาวนาน

        8. ดื่มหรือรับประทานอาหารที่มีองค์ประกอบของกรด อะมิโน Tryptophan จากโปรตีน อย่างธัญพืช หรือเครื่องดื่ม Whole Grains ก่อนนอน จะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายปล่อยสาร Niacin จากวิตามินบี 5 ทำให้สมองและร่างกายผ่อนคลาย และง่วงนอนง่ายขึ้น 

        9. สร้างกิจวัตรใหม่ด้วยการเข้านอนและตื่นให้เป็นเวลาเดียวกันทุกวัน ลองทำแค่ 1 อาทิตย์ ติดต่อกัน ร่างกายก็คุ้นเคยแล้ว

        10. หลีกเลี่ยงการดื่มชา กาแฟ และช็อกโกแลตระหว่างวัน เพราะกาเฟอีนที่ผสมอยู่จะทำให้ร่างกายตื่นตัว 

        สมองคืออาวุธที่จะมีประสิทธิภาพที่สุดเมื่อถูกนำมาใช้ในเวลาที่แจ่มใสที่สุด ดังนั้น ถ้าใครยิ่งต้องการความก้าวหน้า และความเฉียบแหลม จึงยิ่งต้องบริหารอย่างมีประสิทธิภาพ นั่นคือการรู้จัก...ใช้เมื่อพร้อมถึงขีดสุด และหยุดดูแลเมื่อเต็มล้า


แหล่งที่มา  http://hilight.kapook.com/view/25639, Woman Plus
เครดิตภาพ  https://www.pinterest.com/dme0419/shabby-chic-bedrooms/

Friday, July 26, 2013

5 วิธีผ่อนคลายจิตใจง่าย ๆ ด้วยตัวคุณเอง



         ไม่ว่าคุณจะชอบนอนยาวบนชายหาด หรือเล่นกอล์ฟบนสนามหญ้า แต่สิ่งสำคัญคือ คุณต้องการเวลาพักผ่อนที่ห่างไกลจากความอึกทึกวุ่นวายในชีวิตประจำวัน ฟังดูแล้วเหมือนพูดง่ายกว่าทำ เพราะในความเป็นจริง ทุกคนล้วนแล้วแต่มีภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบด้วยกันทั้งสิ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ได้เอาเวลาส่วนใหญ่ในชีวิตคุณไปจนหมด ดังนั้น วันนี้เราจึงอยากนำเสนอ วิธีการผ่อนคลายจิตใจง่าย ๆ ที่ไม่ต้องลงทุนอะไรมากให้ลองนำไปใช้กันดูค่ะ

         
1. อยู่ให้ห่างจากเทคโนโลยี
         

          สำหรับบางคนแล้ว โทรศัพท์มือถือไอโฟนหรือเครื่องแบล็กเบอร์รี่ดูเหมือนจะคล้ายกับเป็นสมาชิก ในครอบครัวคนหนึ่งไปแล้ว คุณมักจะชอบเล่นเกมส์บนมือถือ ทำธุรกิจหรือคุยโทรศัพท์บนมือถือ เเต่จริง ๆ แล้วนั้น คุณไม่ได้รู้สึกผ่อนคลายเมื่อทำอย่างนั้นเลยสักนิดเดียว ดัง นั้น สิ่งสำคัญเพื่อช่วยให้คุณคลายความเครียดคือ การออกห่างจากเทคโนโลยีทั้งหลายที่ผูกคุณไว้กับภาระหน้าที่และความรับผิดชอบ ทุกอย่าง ลองปิดเสียงโทรศัพท์มือถือดูสิ หรือถ้าหากจะให้ดีไปกว่านั้น ก็ปิดโทรศัพท์ไปเลย หลังจากนั้นแล้ว คุณก็จะไม่รู้สึกเสียสมาธิไปกับข้อความหรือสัญญาณเตือนต่าง ๆ ในขณะที่คุณกำลังผ่อนคลายจิตใจอยู่
 

2. สละเวลาให้งานอาสา


          มันคงไม่มีอะไรดีเหมือนกับการมีส่วนร่วมกับกิจกรรมที่คุณรู้สึกสนใจ เพื่อที่จะเป็นการช่วยทำให้จิตใจของคุณปลอดโปร่งและเติมเเบตเตอรี่ให้ชีวิต ไม่ว่าคุณจะรับเป็นอาสาสมัครปรุงอาหารช่วยเหลือคนจน หรือ รับอุปการะสัตว์เลี้ยงสิ่งเล็ก ๆ เหล่านี้ก่อให้เกิดผลลัพธ์อันยิ่งใหญ่เสมอ และในขณะเดียวกัน กิจกรรมเหล่านี้ก็ช่วยให้คุณรู้สึกดีอีกด้วย ทั้งนี้ การสละเวลาเพื่อทำกิจกรรมต่าง ๆ จะช่วยให้คุณคลายความเครียด และช่วยย้ำเตือนตัวคุณเองด้วยว่า อะไรที่สิ่งสำคัญสำหรับคุณจริง ๆ ในชีวิต


3. ฟังเพลงโปรด


          คุณรู้หรือเปล่าว่า การฟังเพลงนั้นสามารถช่วยเพิ่มการหมุนเวียนโลหิตในร่างกาย และไม่ว่าคุณจะชอบนักร้องคนใดก็ตาม การฟังเพลงโปรดจะช่วยให้คุณอารมณ์ดีและช่วยผ่อนคลายอารมณ์ของคุณได้ โปรแกรมฟังเพลงอย่างเช่น iTunes, Spotify หรือ  Pandora ช่วยให้คุณสามารถหาเพลงโปรดของคุณได้ง่าย และประหยัดค่าใช้จ่ายอีกด้วย นอกจากนี้ การลุกขึ้นเต้นไปรอบ ๆ กับเพลงโปรดของคุณในห้องนั่งเล่น จะช่วยให้เลือดของคุณสูบฉีด และคุณก็จะรู้สึกสดชื่นและผ่อนคลายอีกด้วย
 

4. เขียนความในใจ


          คุณเคยรู้สึกไหมว่า คุณ มีความคิดอยู่เป็นล้าน ๆ อย่าง วิ่งวนไปวนวนมาในหัวของคุณเอง หากเป็นอย่างนั้นแล้วล่ะก็ ลองเขียนความคิดและความกังวลทั้งหมดของคุณใส่ลงไปในกระดาษ ซึ่งการทำแบบนี้ จะช่วยให้คุณรู้จักจัดการปัญหา และทำให้คุณรู้ว่า อะไรคือต้นเหตุที่ทำให้คุณรู้สึกไม่มีความสุข เพียงแค่คิดให้รอบคอบ แล้วโยนกระดาษแผ่นนั้นลงถังขยะ จากนั้น คุณก็บอกกับตัวเองว่า คุณเสียเวลาให้กับปัญหาเหล่านั้นมามากพอแล้ว ตอนนี้ ได้เวลาแล้วที่คุณจะก้าวต่อไป
 

5. ออกไปสัมผัสธรรมชาติ


          คุณออกไปเดินเรื่อยเปื่อยโดยไม่มีจุดหมาย ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่กันหรือ? การออกไปเดินเล่นเพื่อสัมผัสกับธรรมชาติ สูดอากาศบริสุทธิ์ โดยเฉพาะในที่ที่มีใบไม้เขียวชะอุ่ม จะช่วยให้คุณรู้สึกกระปรี้กระเปร่า และช่วยให้คุณได้มีเวลาครุ่นคิดว่า อะไรคือความสุขง่าย ๆ ในชีวิตของคุณ หากคุณมีสุนัข ก็อย่าลืมพาเขาออกไปเดินเล่นด้วย ซึ่งนั่นเป็นการพาสุนัขไปออกกำลังกายอีกทางหนึ่ง แล้วรู้ไหมว่า สัตว์เลี้ยงนั้นมีอิทธิพลที่ทำให้เรารู้สึกสงบได้ ดังนั้น การออกไปเดินเล่นกับสัตว์เลี้ยงก็ทำให้เกิดประโยชน์ทั้งสองฝ่าย และช่วยให้คุณค้นพบความสงบในจิตใจอีกทางหนึ่ง

          อ่านแล้วเป็นอย่างไรบ้างคะ เห็นไหมว่า การมีความสุขเริ่มได้ง่าย ๆ จากการลงมือทำอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เราทำเป็นประจำอยู่แล้ว เพียงแค่นี้ จิตใจเราก็จะสงบแล้วค่ะ


แหล่งที่มา  http://health.kapook.com/view35176.html


Wednesday, July 24, 2013

เคล็ดลับง่าย ๆ ในการเติมความสดชื่นให้กับชีวิต




        ในชีวิตมนุษย์ส่วนใหญ่แล้ว แต่ละคนจะมีกิจกรรม และหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติซ้ำ ๆ เป็นประจำทุกวัน ทั้งเรื่องการงานและเรื่องส่วนตัว ซึ่งแทบไม่เปลี่ยนจากเดิมมากนัก ต่อให้ผ่านไปกี่ปี ต่างก็ยังติดอยู่กับวังวนเดิม ๆ ซึ่งโคจรชีวิตลักษณะนี้ ทำให้ไฟในตัวเราค่อย ๆ มอดไหม้ลง จนกลายเป็นใช้ชีวิตอยู่ไปวัน ๆ แบบไร้จุดหมาย ซึ่งมันคงเป็นการใช้ชีวิตที่น่าเบื่อมาก

          ทว่า...เราจะพลิกชีวิตแบบซังกะตายให้กลับมามีชีวิตที่สดใส และมีแรงจูงใจต่อได้อย่างไรล่ะ? วันนี้กระปุกดอทคอมได้นำเคล็ดลับดี ๆ ในการจุดไฟให้กับชีวิตตัวเองมาฝากกันครับ

 
  ออกไปใช้ชีวิตอยู่ในสถานที่ที่แตกต่างจากเดิม

          ลองหัดใช้ชีวิตนอกกรอบในแบบที่ตัวเองไม่เคยได้สัมผัสดูบ้าง โดยการออกเดินทางไปต่างประเทศหรือต่างจังหวัด ในสถานที่ซึ่งความเจริญยังมีไม่มาก เพื่อสัมผัสบรรยากาศแบบเรียบง่าย ซึมซับชีวิตความเป็นอยู่จากคนพื้นเมือง และเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ให้มากที่สุด โดยการหางานทำหรือเป็นอาสาสมัครช่วยเหลือคน เพื่อค้นหาความต้องการที่แท้จริงของตัวเอง แล้วคุณจะได้มุมมองใหม่ ๆ ในการใช้ชีวิตมากขึ้น


ลองทำกิจกรรมที่สร้างความตื่นตัวให้กับตนเอง

          การทำอะไรที่ท้าทายหรือเสี่ยงตาย บางครั้งสิ่งที่ได้กลับมา นอกเหนือจากความตื่นเต้น เร้าใจแล้ว ยังทำให้คุณได้ตระหนักถึงคุณค่าของชีวิตอีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น การโดดบันจี้ จัมพ์ เชื่อว่าวินาทีที่คุณขึ้นไปยืนอยู่จุดสูงสุดด้านบน ก่อนที่จะกระโดดลงมา เป็นช่วงเวลาที่ทำให้ได้ทบทวนถึงสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิต จนเมื่อตัดสินใจโดดลงมาได้สำเร็จแล้ว เมื่อนั้นคุณจะรู้จักความหมายของชีวิตได้ดีขึ้น
ค้นหาว่าตัวเองชอบและไม่ชอบทำอะไร

          หากสังเกตดูให้ดี ๆ ส่วนใหญ่คนเรามักทำในสิ่งที่ตัวเองชอบได้ดีเป็นพิเศษ ถึงแม้อาจไม่เคยมีพื้นฐานในเรื่องนั้นมาก่อนก็ตาม เพราะเราใส่ทั้งความสุขและความใส่ใจลงไปในเนื้องาน จึงไม่แปลกที่มันจะออกมาดี แต่ถ้ารู้ตัวว่าไม่ชอบทำสิ่งไหน ก็อย่าฝืนทำให้เสียเวลาเลย เพราะอาจยังมีคนอื่นที่สามารถทำหน้าที่แทนเราได้ดีกว่า แถมเป็นการเปิดโอกาสให้เขาได้ทำในสิ่งที่เขารักอีกด้วย 
อาจถึงเวลาต้องเปลี่ยนงานแล้วล่ะ

          หากงานที่คุณทำไม่ได้กระตุ้นไฟในตัวคุณ หรือทำไปก็ไม่มีคนเห็นความสำคัญ บางทีมันคงถึงเวลาที่คุณควรต้องมองหางานใหม่ซะแล้วล่ะ เราเชื่อว่ายังมีสิ่งที่เหมาะสมกับความต้องการคุณอยู่ข้างหน้า ซึ่งอาจเป็นการเปลี่ยนสายงานใหม่ เพื่อลองทำอะไรที่แตกต่าง หรือลองทำงานพาร์ท - ไทม์ (Part - Time) ดู หากเบื่อกับบทบาทมนุษย์เงินเดือน เพราะคุณอาจค้นพบความสามารถใหม่ ๆ ในตัวเอง ที่คุณไม่เคยรู้มาก่อนก็ได้


ตกหลุมรักสิ!

          "โลกหมุนด้วยความรัก" คำกล่าวที่ว่านี้ คงไม่เกินจริงไปนัก เพราะความรักเป็นเสมือนแรงขับเคลื่อนให้ชีวิตคนเราดำรงอยู่ได้ เรื่องนี้คนมีคู่คงรู้ดี แต่ใช่ว่าคนไม่มีคู่จะปราศจากความรัก เพียงแค่ยังไม่เจอคนที่ใช่มากกว่า แต่หากบังเอิญมีใครสักคนที่เข้ามาสร้างความปั่นป่วนให้กับใจของคุณได้ อย่าลืมเปิดใจลองพิจารณาดูล่ะ เพราะเธออาจเป็นคนที่เข้ามาเปลี่ยนโลกสีเทา ๆ ของคุณ ได้กลายเป็นสีชมพูเหมือนกับคนอื่นไงล่ะ

          และนี้ คงเป็นเพียงคำแนะนำเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เรานำมาเล่าสู่กันฟังในวันนี้ ซึ่งความจริงแล้ว ยังมีเคล็ดลับการเติมเต็มความสดชื่นให้กับตัวคุณอีกมาก ถ้าหากเพื่อน ๆ คนไหน มีวิธีเจ๋ง ๆ ก็อย่าลืมนำมาแชร์กันบ้างล่ะ เรื่องราวดี ๆ จะมีคุณค่ามากกว่าเดิม หากแบ่งปันให้คนอื่นได้สัมผัส :)



แหล่งที่มา  http://men.kapook.com/view39998.html
เครดิตภาพ  http://www.lovethispic.com/image/17614/pink-rose-cupcakes---lemonade