Sunday, January 31, 2016

ซาลาเปา... กับคุณค่าทางอาหาร





สวัสดีคะ ท่านผู้อ่านทุกท่านคะ ... วันนี้ทุกท่านอาจจะสงสัยใช่ไหมคะ ว่าทำไหมวันนี้แอมแปร์มาแปลกกว่าที่เคย จริง ๆ แล้วไม่มีอารัยมากหรอกคะ พอดีว่าแอมแปร์นำความรู้เล็ก ๆ น้อยเกี่ยวกับซาลาเปามาให้เพื่อนได้ทราบถึงคุณค่าทางอาหารคะ เพราะว่าแอมแปร์ชอบทานซาลาเปามาก ๆเลน เพราะทานทีไร แอมแปร์รู้สึกว่า อร่อยและก้อรู้สึกอิ่มด้วยคะ ... ลองมาติดตามดูนะคะว่าซาลาเปามีประโยชน์อย่างไร ? อย่ารอช้าเลยคะ เชิญเลยคะ แอมแปร์ไม่ห่วงอยู่แล้วววววว คะ ^^ --- >>

ในการปรุงอาหารด้วยวิธีนึ่งนั้น อาหารจะถูกปรุงให้สุกโดยใช้ไอน้ำที่เกิดจากการต้มน้ำภายใต้อาหารนั้น ทั้งนี้ทั้งนั้นอาหารจะไม่มีการสัมผัสโดยตรงกับน้ำที่ต้ม ซึ่งจะส่งผลให้คุณค่าของสารอาหารยังคงอยู่กับอาหารอย่างครบถ้วน

และที่ สำคัญในการนึ่งนั้นแทบจะไม่ต้องเติมน้ำมันลงไปในการนึ่งเลย ทำให้การนึ่งเป็นหนึ่งในวิธีการปรุงอาหารที่ดีต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก

 
เคล็ดลับที่สำคัญสำหรับการนึ่งอาหารให้รสชาติดีนั้น วัตถุดิบที่ใช้จะต้องสดมากๆ การนึ่งอาหาร จะต้องใส่น้ำต้มให้เดือดและนำอาหารที่ต้องการนึ่งวางบนจานทนความร้อนและใส่ เข้าไปในซึ้ง และปิดฝาให้สนิท


ซาลาเปาไส้หมูสับ และไส้หมูแดง


เป็นไส้ที่มีส่วนผสมของหอมกระเทียม และพริกไทดำเป็นพืชผักที่มีกลิ่นฉุนเป็นอย่างมาก แต่ก็เป็นผักมีประโยชน์หลายอย่าง เช่นกระเทียมมีผลดีต่อสุขภาพด้วยคือ ช่วยทำให้เลือดไหลเวียนได้ดี ช่วยลดคลอเลสเตอรอลในเลือด ซึ่งถ้าใครที่รับประทานกระเทียมบ่อยๆ แล้วล่ะก็ จะช่วยไม่ให้เส้นเลือดอุดตันได้

ซาลาเปาไส้ครีม


ไส้ครีมเป็นไส้ที่มีส่วนผสมสำคัญหลาย หลากที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ทั้งนมข้น นมจืด นมผง เนยเค็ม เนยจืด และไข่ไก่สด ฯลฯ ซึ่งมีสารอาหารบำรุงร่างกายได้แก่ วิตามิน A วิตามิน D วิตามิน B1 วิตามิน B2 วิตามิน B6 วิตามิน B12 แร่ธาตุแคลเซียม แร่ธาตุฟอสฟอรัส แร่ธาตุโพแทสเซียม แร่ธาตุเหล็ก แร่ธาตุไอโอดีน แร่ธาตุโซเดียม แร่ธาตุแมกนีเซียม แร่ธาตุกำมะถัน ฯลฯ

ซาลาเปาไส้สังขยาใบเตย


ใบเตยสด มีน้ำมันหอมระเหย รสหวาน กลิ่นหอม และมีสีเขียว ซึ่งเป็นสารคลอโรฟิลล์ช่วยลดอาการกระหายน้ำ บำรุงหัวใจ และช่วยทำให้สดชื่น อีกทั้งมีเกลือแร่ แคลเซียม และฟอสฟอรัส

ซาลาเปาไส้ถั่วดำ


ถั่วดำนั้นมีแร่ธาตุอาหารสำคัญ ในทางบำรุงเลือด ขับสารพิษ ขับปัสสาวะ ทำให้เลือดลมไหลเวียนสะดวก และนอกจากนี้คุณสมบัติที่โดดเด่นของถั่วดำก็คือ ช่วยบำรุงผมให้ดกดำ แข็งแรง และไม่หลุดร่วงง่าย

ซาลาเปาไส้เผือก


เผือกเป็นผักที่จัดอยู่ในอาหารหมู่ที่ 1 นั่นคือแป้ง แต่ไม่ได้หมายความว่าในเผือกไม่ได้มีแต่คาร์โบไฮเดรตอย่างเดียว เพราะยังมีวิตามินต่างๆ มากมาย และยังมีโปรตีน แร่ธาตุ รวมไปถึงธาตุฟลูออไรด์ ที่ช่วยเพิ่มพละกำลัง บำรุงสุขภาพ นอกจากนี้เผือกยังมีคุณสมบัติพิเศษอีกอย่างหนึ่งก็คือ ช่วยป้องกันฟันผุได้

ซาลาเปาไส้ผักรวม


ถือเป็นไส้ที่ประกอบด้วยสารอาหารมากมาย อาทิเช่น ถั่วพู ที่มีสารอาหารที่ให้พลังงานสูง เช่น คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน ฟอสฟอรัส วิตามินเอ วิตามินซี และ วิตามินอี ตำรายาชูกำลังสมัยโบราณบอกไว้ว่า ถั่วพูนั้น ถือเป็นพืชผักที่มีสรรพคุณเป็นยาบำรุงกำลัง และบำรุงสุขภาพได้เป็นอย่างดี แครอทเป็นพืชที่ อุดมไปด้วยวิตามินเอซึ่งก็ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง ลดความดันเลือด และยังทำให้อายุยืนยาว นอกจากนี้ยังช่วยบำรุงผิวกร้าน ทำให้กลับนุ่มมีน้ำมีนวลมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยรักษาอาการตาพร่า ตาฟาง ให้กลับสว่างสดใสด้วย เห็ดสามอย่างเมื่อรวมกันนั้นจะมีค่ากรดอะมิโนที่สามารถลดอัตราการเติบโตของ เซลล์มะเร็งได้ ทั้งยังช่วยล้างพิษที่สะสมในตับ ทั้งจากอาหารและสารเคมี เช่น พิษจากสุรา สารตกค้างในเนื้อสัตว์ สารเคมีจากเครื่องสำอาง และพิษจากสารอนุมูลอิสระ นอกจากนั้นยังล้างไขมันในตับ ทำให้ตับเเข็งแรง สร้างเม็ดเลือดแดงได้ดี การกินเห็ดสามอย่างที่ว่านี้ ก็คือเห็ดอะไรก็ตามที่ทานได้

ซาลาเปาไส้ไก่


ส่วนประกอบของไส้ไก่จะประกอบด้วยไก่ มันเทศ และหอมใหญ่ มันเทศเป็นแหล่งวิตามินบี 6 ช่วยบรรเทาอาการ ก่อนมีประจำเดือน บี 6 ยังช่วยร่างกาย ผลิตพลังงานจากอาหารได้มากขึ้น และเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง ต่อการลดน้ำหนัก มันเทศเป็นคอมเพล็กซ์คาร์โบไฮเดรตชั้นดี ให้พลังงาน และปล่อยพลังงานช้า มีกากใยมาก ไม่ก่อพิษต่อร่างกายแบบอาหารที่แปรรูปจากแป้งและน้ำตาล ทำให้อิ่มท้องอยู่ได้นาน ไม่เพิ่มเอวหรือสะโพก ทำให้ตับอ่อนคุณแข็งแรง ซึ่งช่วยให้จัดการกับน้ำหนักได้ดีขึ้น นอกจากนนั้นมันเทศ ยังมีคุณค่าทางโภชนาการ ประกอบด้วย คาร์โบไฮเดรต เส้นใย โปรตีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก วิตามินเอ(สูงมาก) วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 ไนอาซิน โพเลท วิตามินซี สารเริ่มต้นของสารแคโรทีน และเบต้าแคโรทีน เป็นแหล่งเบต้าแคโรทีนชั้นเยี่ยมกินแล้วจะได้วิตามินเอ มันเทศจึงมีส่วนช่วยบำรุงสายตา เสริมสร้างระบบคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแกร่ง ลดความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ ทั้งน้อย และใหญ่ รวมทั้งมะเร็ง

ซาลาเปาไส้เม็ดบัวฟักทอง


ฟักทองมีสารอาหารบำรุงร่างกายมากมาย ที่สำคัญได้แก่ วิตามินบี วิตามินเอ วิตามินซี และธาตุฟอสฟอรัส ซึ่งปัจจุบันวงการแพทย์ ให้ความสนใจสารเบต้าแคโรทีน ที่มีอยู่ในเนื้อสีเหลืองของฟักทอง ที่มีส่วนช่วยลดโอกาสการเกิดมะเร็ง สามารถกระตุ้นการหลั่งอินซูลินซึ่งช่วยควบคุมระดับน้ำตาล ในเส้นเลือด ป้องกันการเกิดเบาหวาน ความดันโลหิต นอกจากนี้ยังช่วยบำรุงตับ ไต นัยน์ตา และสร้างเซลล์ใหม่ทดแทนเซลล์ที่ตายไป นอกจากนี้ฟักทองยังมีส่วนช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวพรรณมีน้ำมีนวล เหมาะสำหรับหลังคลอดบุตร ที่ขาดธาตุฟอสฟอรัส และเสี่ยงกับการเกิดหน้าท้องลาย เม็ดบัว มีสรรพคุณ บำรุงประสาท บำรุงไต รักษาอาการท้องร่วง บิดเรื้อรัง สตรีประจำเดือนมามาก

    หลังจากที่เพื่อน ๆ ทราบถึงประโยชน์ของซาลาเปาแล้ว คราวนี้เพื่อน ๆ ก็ไม่ต้องคิดมากแล้วนะคะว่าจะไม่ได้รับประโยชน์อะไรเล ... ทานเยอะ ๆนะคะ เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงนะคะ ....

(ขอขอบคุณ ข้อมูลจาก ซาลาเปสทับหลีด้วยนะคะ ผู้เป็นเจ้าของรางวัลชนะเลิศรางวัลที่ 1 โครงการการประกวดและการแข่งขันอาหารพื้นเมือง จังหวัดระนอง) ด้วยนะคะ 

บันทึกนี้เขียนโดย  
 https://www.l3nr.org/posts/453107

Friday, January 29, 2016

รู้ไหม? จานโปรดที่คุณกิน แค่จานเดียวกี่แคลอรี่?!




        เมนูอาหารตามสั่งและอาหารจานเดียวดูจะกลายเป็นจานหลักที่ทุกคนต้องกิน มาดูกันดีกว่าว่าแต่ละอย่างให้พลังงานมาก-น้อย แค่ไหน แล้วคุณจะแปลกใจที่ข้าวมันไก่ไม่ใช่ที่สุดของความอ้วน !

ข้าวราดผัดคะน้าหมูกรอบ : 670 กิโลแคลอรี่

          อาหารตามสั่งจานนี้มีผักใบเขียวเข้มอย่างคะน้าเป็นตัวเพิ่มคุณค่าทางสาร อาหารก็จริง แต่หมูกรอบก็ไม่ใช่ของเฮลตี้เลยสักนิด เปลี่ยนเป็นผัดคะน้าหมูธรรมดา จะลดลงเหลือ 580 กิโลแคลอรี่ ก็จะดีขึ้นอีกนิด

ข้าวผัดหมู : 660 กิโลแคลอรี่

          ถ้าอยากลดความอ้วนต้องงดข้าวผัด เพราะเมนูนี้ข้าวทุกเม็ดจะดูดซับน้ำมันที่ใช้ผัดเข้าไปอย่างเต็มที่และไม่มี ทางเลี่ยงได้เลย ทางเลือกเดียว สำหรับคนชอบกินอาหารจานนี้ก็คือ เปลี่ยนเมนูซะ !

ข้าวราดกะเพราไก่-ไข่ดาว : 630 กิโลแคลอรี่

          อาหารตามสั่งยอดฮิตที่หลายคนให้คำนิยามเอาไว้ว่า "เมนูสิ้นคิด" ชนิดนี้ แคลอรี่ก็สูงไม่น้อยหน้าใคร แค่ไข่ดาวฟองเดียวก็ปาเข้าไปประมาณ 125 กิโลแคลอรี่แล้ว แค่ตัดออกไปจานนี้ก็จะเหลือ 505 กิโลแคลอรี่

ข้าวมันไก่ : 596 กิโลแคลอรี่

          ไก่ไม่กี่ชิ้นที่ตบแบน ๆ มาบนหน้านั้นไม่เท่าไหร่ แต่ข้าวมันก็คือข้าวที่หุงผสมกับน้ำมันที่ได้จากไก่ แคลอรี่ก็มาจากตรงนี้แหละ ถ้าจะปรับเมนูให้ดีขึ้น ก็ต้องเปลี่ยนเป็นข้าวสวยธรรมดากับไก่ต้มไม่เอาหนัง เหลือจากนี้ประมาณ 305 กิโลแคลอรี่

เส้นใหญ่ผัดซีอิ๊วหมู : 679 กิโลแคลอรี่

          ในขั้นตอนการผลิตก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่จะมีการเคลือบน้ำมันบาง ๆ ไว้ที่เส้น เพื่อป้องกันไม่ให้เส้นติดกัน ดังนั้น ไม่น่าแปลกใจที่แคลอรี่จะพุ่งกระฉูดขนาดนี้ ถ้าลองเปลี่ยนเป็นเส้นหมี่ก็จะเหลือประมาณ 440 กิโลแคลอรี่

ข้าวขาหมู : 690 กิโลแคลอรี่

          ไม่ต้องสงสัยเลยว่าแคลอรี่มหาศาลขนาดนี้มาจากไหน ไขมันนิ่ม ๆ แสนอร่อยนั่นแหละตัวดีเลยเชียว หากอยากกินข้าวขาหมูแบบห้ามไม่ไหวก็ต้องฝืนใจสั่งแม่ค้าว่าเอาแบบเนื้อล้วน ไม่เอามันและหนัง และถ้าจะให้ดียิ่งขึ้นอีกต้องไม่ราดน้ำพะโล้หวาน ๆ ด้วยนะ อาจไม่อร่อยลิ้นเท่าไหร่ แต่จะเหลือแคลอรี่ประมาณ 430 กิโลแคลอรี่


Expert Says...

          สำหรับ สาว ๆ ที่อยากจะลดน้ำหนักโดยการควบคุมแคลอรี่ ถ้าจะให้เห็นผลที่สุด คุณปาล์มขัตติยา ประชาเดชะ นักโภชนาการจากคลับสุขภาพและความงามอาเมทิส แนะ นำให้คุณคำนวณพลังงานที่เหมาะสมต่อวัน แล้วค่อย ๆ ปรับให้กินน้อยลงวันละ 100-200 กิโลแคลอรี่ เพื่อไม่ให้ร่างกายรับภาระหนักเกินไป ซึ่งพลังงานสามารถคิดได้จากสูตร

          (10xน้ำหนัก (กก.))+(6.25xส่วนสูง (ซม.))-(5xอายุ)-161

          จาก นั้น หากคุณไม่ได้ออกกำลังกายให้นำผลที่ได้คูณด้วย 1.2 อีกครั้ง แต่หากออกกำลังกายบ้างก็คูณด้วย 1.3 จนถึง 1.7 แล้วแต่ว่ามีกิจกรรมเผาผลาญพลังงานมากน้อยแค่ไหน โดยเฉลี่ยแล้วส่วนใหญ่ควรจะคุมให้อยู่ในช่วง 1,200-1,300 กิโลแคลอรี่ ต่อวันนะคะ

          ตัวอย่างเช่น หากคุณอายุ 25 ปี มีน้ำหนัก 50 กิโลกรัม มีส่วนสูง 160 เซนติเมตร ไม่ค่อยออกกำลังกาย ลองมาคำนวณดูก็จะได้

          (10x50)+(6.25x160)-(5x25)-161=1,214 กิโลแคลอรี่ ถ้าไม่ออกกำลังกายให้คูณด้วย 1.2 ก็จะเท่ากับว่า ในหนึ่งวันคุณควรได้รับพลังงานประมาณ 1,456 กิโลแคลอรี่นั่นเอง


ขอขอบคุณข้อมูลจาก
Lisa
http://health.kapook.com/view69916.html

Thursday, January 28, 2016

20 ของว่างแคลอรีต่ำ อร่อยเต็มคำแต่ให้พลังงานไม่เกิน 100 กิโลแคลอรี




ของว่างกินแล้วไม่อ้วนเพราะให้พลังงานต่ำ แต่ละเมนูของว่างต่อไปนี้อร่อยฟิน ๆ เต็มคำ แต่ให้พลังงานไม่เกิน 100 กิโลแคลอรีเลย

          ของ ว่างสำหรับคนกำลังลดน้ำหนักต้องเป็นของว่างที่กินแล้วไม่อ้วนหรือเมนูอาหาร แคลอรีต่ำ ๆ อยู่แล้ว และหากกำลังมองหาเมนูของว่างอร่อยฟิน แต่กินแล้วไม่อ้วน วันนี้เราขอเสนอเมนูของว่างแคลอรีต่ำ ที่ให้พลังงานไม่เกิน 100 กิโลแคลอรีแน่ ๆ ถ้ากินตามนี้

1. ไอศกรีม 1/2 ถ้วย (ประมาณ 1 ลูก)

          อ่านไม่ผิดหรอกค่ะ เมนูของว่างให้พลังงานไม่เกิน 100 กิโลแคลอรีอันดับแรกคือไอศกรีมจริง ๆ แต่มีข้อแม้ว่าไอศกรีมที่จะกินต้องผลิตด้วยกระบวนการปั่นระดับต่ำ (slow-churned) เท่านั้น เพราะกระบวนการปั่นไอศกรีมแบบนี้จะให้เนื้อไอศกรีมที่นุ่มเนียน แต่ปริมาณไขมันและแคลอรีจะน้อยกว่าปกติ แถมยังได้โบนัสฟรี ๆ เป็นปริมาณแคลเซียมและโปรตีนที่แทบไม่สูญหายไปกับกระบวนการผลิตอีกด้วย

2. ป๊อปคอร์น 1 กล่องปกติ

          จะ มีอะไรเคี้ยวเพลินเท่าป๊อปคอร์นอีกคงไม่มี และรู้ไหมคะว่าป๊อปคอร์นเท่าขนาดป๊อปคอร์นกล่องเล็กในโรงภาพยนตร์ให้พลังงาน ประมาณ 100 กิโลแคลอรีเท่านั้นเอง ซึ่งจะว่าไปป๊อปคอร์นก็จัดอยู่ในกลุ่มสแน็กแคลอรีต่ำ แถมยังมีไฟเบอร์ค่อนข้างสูง ช่วยในกระบวนการย่อยอาหารได้อีกต่างหาก

3. แครกเกอร์โปะชีสแผ่นเล็ก ๆ


          มาเต็มทั้งแครกเกอร์และชีสอย่างนี้ แต่เมื่อเคาะกันจริง ๆ เมนูของว่างฟิน ๆ ที่ว่ากลับให้แคลอรีแค่ 98 กิโลแคลอรีเอง อ๊ะ ! แต่แครกเกอร์ที่จะกินรองท้องก็ควรเป็นแครกเกอร์โฮลเกรนหรือแครกเกอร์ธัญพืช ขนาดพอเหมาะประมาณ 3 ชิ้นนะคะ ร่างกายจะได้ไฟเบอร์และวิตามินเต็ม ๆ ส่วนชีสถ้าจะให้เด็ดก็ต้องเป็นชีสแคลอรีต่ำ 1 แผ่นนำมาตัดแบ่งให้เป็น 3 ชิ้น โปะหน้าแครกเกอร์แล้วก็ฟินพร้อมรับแคลเซียมและโปรตีนจากชีสได้เลย

4. อัลมอนด์ 14 เม็ด

          อัล มอนด์ 14 เม็ดให้พลังงานอยู่ที่ 98 กิโลแคลอรี กินเพลิน ๆ ระหว่างคิดงาน รถติด หรือกำลังดูหนัง หืมฟินอ่ะ อีกทั้งอัลมอนด์ยังให้ไขมันดี โปรตีนสูง และไฟเบอร์ในปริมาณที่พอสมควรเลยล่ะ

5. ส้ม 1 ผล

          ผลไม้หาได้แทบทุกฤดูอย่างส้ม กินก็ง่าย แค่ปอกเปลือกก็รับความสดชื่นจากผลไม้ซิตรัสชนิดนี้ไปได้เลย โดยส้ม 1 ผลให้พลังงานเพียง 60 กิโลแคลอรีเท่านั้น ส่วนประโยชน์อื่น ๆ ก็มีทั้งวิตามิน เกลือแร่ ไฟเบอร์ อีกทั้งส้มยังเป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลต่ำ จัดอยู่ในกลุ่มผลไม้ลดน้ำหนักด้วยล่ะ

6. ไข่ต้มสุก 1 ฟอง

          สำหรับ คนที่กำลังไดเอตและอยากสร้างกล้าม เมนูไข่ต้มนี่ล่ะตอบโจทย์ เพราะไข่ต้มสุก 1 ฟองให้โปรตีนมากถึง 6 กรัม ในขณะที่ให้พลังงานเพียง 78 กิโลแคลอรีเท่านั้น โดยนักโภชนาการก็แนะนำให้กินของว่างเมนูนี้ช่วงก่อนเที่ยง หรือบ่ายแก่ ๆ เพราะโปรตีนในไข่ต้มจะช่วยให้รู้สึกอิ่ม และช่วยลดทอนความอยากอาหารในมื้อถัดไปได้

7. ขนมปังโฮลวีทผสมลูกเกด 1 แผ่น

          นับเป็นเมนูของว่างหรืออาหารเช้าที่เข้าท่ามาก ๆ ขนมปังโฮลวีทผสมลูกเกด 1 แผ่นบาง ๆ ให้คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนที่จะช่วยให้อิ่มอยู่ท้องได้นาน ส่วนลูกเกดที่ซ่อนอยู่ในเนื้อขนมปังก็อุดมไปด้วยวิตามินและไฟเบอร์ ที่สำคัญเมนูนี้ยังให้พลังงานเพียง 80 กิโลแคลอรีเท่านั้น

8. กาแฟร้อน 1 แก้ว

          รู้สึก อยากดื่มกาแฟก็ดื่มได้ค่ะ แต่ขอเป็นกาแฟดำนะ เพราะให้พลังงานอยู่ที่แก้วละ 55 กิโลแคลอรี แต่ได้รับคาเฟอีนช่วยปลุกความสดชื่นอย่างเต็มที่ ทว่าพยายามหลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟในช่วงบ่ายแก่ ๆ ด้วยนะคะ ไม่อย่างนั้นอาจนอนไม่หลับเอาได้

9. เบเบี้แครอท 8 ชิ้น

          เบบี้แครอท 8 ชิ้นให้พลังงานเพียงแค่ 40 กิโลแคลอรีเท่านั้น นั่นก็หมายความว่าคุณยังสามารถเติมความอร่อยให้เมนูนี้ด้วยน้ำสลัดซัลซาร์ ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะเข้าไปได้อีก  รับรองแคลอรีไม่เกิน 100 กิโลแคลอรีแน่ แถมยังจะได้รับวิตามินเอช่วยบำรุงสายตาจากเบบี้แครอท ไฟเบอร์ เกลือแร่ และแคโรทีนอยด์แบบจัดหนักจัดเต็ม

10. แอปเปิลเขียว 6 ชิ้น จิ้มเนยถั่ว

          แอ ปเปิลเขียวสไลด์บาง ๆ 6 ชิ้น จิ้มกินคู่กับเนยถั่วประมาณ 2 ช้อนโต๊ะปาด ๆ ทั้งหมดนี้ให้พลังงานเพียงแค่ 90 กิโลแคลอรี แต่ที่ได้มากไปกว่านั้นคือโปรตีนจากเนยถั่ว และไฟเบอร์ พร้อมทั้งวิตามินจากแอปเปิลเขียวนั่นเอง

11. ไอศกรีมกล้วยหอมราดโยเกิร์ต

          กล้วยหอมครึ่งลูกจัดการนำมาเสียบไม้ไอศกรีม จากนั้นละเลงโยเกิร์ตไขมันต่ำลงไปบนผลกล้วยสัก 1 ช้อนโต๊ะบาง ๆ เสร็จแล้วนำไปแช่แข็งและรอจนกว่ากล้วยหอมจะแข็งตัวกลายเป็นไอศกรีม เมนูนี้ให้ทั้งคาร์โบไฮเดรตคลีน ๆ วิตามินบี ไฟเบอร์ จากกล้วยหอม รวมทั้งโปรตีนจากโยเกิร์ต ในขณะที่ให้พลังงานเพียงแค่ 79 กิโลแคลอรีเท่านั้น

12. แตงกวา 1 ลูก

          อีก หนึ่งตัวช่วยดี ๆ ของคนที่ต้องการลดน้ำหนัก โดยแตงกวา 1 ผลย่อม ๆ ให้พลังงานแค่ 16 กิโลแคลอรีเท่านั้น อีกทั้งแตงกวายังมีน้ำมาก กากใยสูง ช่วยเพิ่มความสดชื่นได้เป็นอย่างดี

13. เกรปฟรุต

          ผลไม้ตระกูลส้ม ที่มีรสเปรี้ยวนำ ผลเกรปฟรุตขนาดกลาง 1 ผล ให้พลังงานประมาณ 42 กิโลแคลอรี มีสารต้านอนุมูลอิสระช่วยลดคอเลสเตอรอล และยังช่วยเรื่องการเผาผลาญไขมันได้อีกด้วย

14. กล้วยน้ำว้า 1 ผล

          กล้วย น้ำว้าสุก 1 ผลให้พลังงานประมาณ 60 กิโลแคลอรี แต่ทีเด็ดของกล้วยน้ำว้าคือประโยชน์ทางโภชนาการที่มาทั้งวิตามินบี 1 และบี 2 คอยช่วยเร่งการเผาผลาญน้ำตาลและไขมัน มีคาร์โบไฮเดรตชนิดดีต่อร่างกาย มีไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำได้ พอตกเข้าไปในระบบย่อยอาหารจึงดูดซับน้ำ พองตัวและช่วยทำให้ท้องรู้สึกอิ่มได้นานขึ้น

          อีกทั้งโพแทสเซียม และแมกนีเซียมที่อัดแน่นอยู่ในกล้วย ยังช่วยฟื้นฟูร่างกายจากความเหนื่อยล้า ช่วยในการขับโซเดียมอันเป็นหนึ่งในตัวการที่จะทำให้ความดันเลือ­­­ดสูงออก ทางปัสสาวะ และส่งผลในด้านลดการบวมของร่างกายได้อีกต่างหาก

15. ขนมปังอบกรอบ 4 แผ่นเล็ก

          ใครที่ติดขนมปังอบกรอบมาก ๆ ไม่กินไม่ได้ อนุโลมให้กินได้วันละ 4 ชิ้นเล็ก ๆ บาง ๆ เพราะจะให้พลังงานประมาณ 80 กิโลแคลอรี ซึ่งปริมาณขนมปังกรอบเท่านี้คงจะพอให้ร่างกายได้รับคาร์โบไฮเดรตไปเติม น้ำตาลในเลือด ซึ่งก็น่าจะช่วยลดความรู้สึกหิวระหว่างวันได้นะ

16. ขนุน 2 ยวง

          ขนุน สุก 2 ยวงให้พลังงานอยู่ที่ 60 กิโลแคลอรี แต่มาพร้อมกับประโยชน์ดี ๆ อีกเป็นกระบุง ทั้งช่วยบำรุงผิวพรรณ ป้องกันมะเร็ง ลดความดันโลหิต และประโยชน์ของขนุนอีกตามนี้ ประโยชน์ของขนุนที่เราไม่เคยรู้ บำรุงผิวพรรณ ป้องกันมะเร็งก็ได้

17. คุกกี้ข้าวโอ๊ต 1 ชิ้น

          เติมไฟเบอร์และน้ำตาลให้ร่างกายด้วยคุกกี้ข้าวโอ๊ต 1 ชิ้นขนาดพอเหมาะ พอให้รู้สึกหายอยากขนมหวานลงไปได้บ้าง โดยคุกกี้ข้าวโอ๊ต 1 ชิ้นจะให้พลังงานอยู่ที่ราว ๆ 65 กิโลแคลอรี นั่นแปลได้ว่าคุณต้องจำกัดปริมาณการกินคุกกี้ให้ได้แค่เพียงชิ้นเดียวจริง ๆ นะจ๊ะ

18. ชมพู่ 2-3 ผล

          ผล ไม้รสชาติหวาน ๆ อย่างชมพู่ให้พลังงานที่ราว ๆ 60 กิโลแคลอรีต่อชมพู่ 2-3 ผล ส่วนประโยชน์อื่น ๆ ที่ได้ก็เหมือนเบสิกของผลไม้ทั่วไปค่ะ ไฟเบอร์ วิตามิน และความสดชื่นแบบคลีน ๆ นั่นเอง

19. ถั่วลิสงต้ม 1 ช้อนโต๊ะ

          ถั่วเป็นของว่างที่มีโปรตีนค่อนข้างสูง เกือบเทียบเท่าโปรตีนจากเนื้อสัตว์เลยทีเดียว และหากใครต้องการกินถั่วต้มเป็นสแน็ก งานนี้ขอให้โควตาเพียง 1 ช้อนโต๊ะเท่านั้นค่ะ เพราะปริมาณถั่วต้มที่ว่าจะให้พลังงานราว ๆ 45 กิโลแคลอรี

20. มะขามคลุกน้ำตาล 6 เม็ด

          เมนู นี้น่าจะเป็นของโปรดของใครหลายคนโดยเฉพาะเหล่าหนุ่มสาวชาวออฟฟิศ เพราะกินแล้วตื่นดีใช่ไหมคะ อีกทั้งมะขามหวานยังช่วยในเรื่องการขับถ่าย แถมยังอุดมไปด้วยวิตามินซี ประโยชน์ดี ๆ แบบนี้แต่ต้องจำกัดปริมาณการรับประทานอยู่ที่ครั้งละไม่เกิน 6 เม็ด ซึ่งจะให้พลังงานประมาณ 10 แคลอรี และแม้ตัวเลขพลังงานจะน้อยเหลือเกิน แต่ที่เราต้องจำกัดให้กินได้เท่านี้เพราะกังวลเรื่องน้ำตาลที่คลุกอยู่ใน มะขามหวานนั่นเองค่ะ

          สำหรับคนที่กำลังมองหาของ ว่างที่กินแล้วไม่อ้วนอยู่ เราหวังว่า 20 เมนูของว่างแคลอรีไม่เกิน 100 นี้คงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคุณ ๆ นะคะ ;)


ขอขอบคุณข้อมูลจาก
Kcal.Memo8.com
inmyworld
WebMd
everyday health
http://health.kapook.com/view140116.html

Wednesday, January 27, 2016

วิจัยชี้ เพื่อนในเฟซบุ๊ก หาคนจริงใจได้เพียง 14 จาก 150 คนเท่านั้น




         ผลการวิจัยจากมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด ชี้ เพื่อนในเฟซบุ๊ก หาคนจริงใจได้เพียง 14 จาก 150 คน ส่วนที่เหลืออาจไม่ได้สนใจตัวเราหรือปัญหาที่เราต้องเผชิญ

          ในขณะที่ผู้คนในยุคโซเชียลมองหามิตรภาพใหม่ ๆ ผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ และใช้เฟซบุ๊กเป็นช่องทางในการสานสัมพันธ์กับคนรอบตัว บางครั้งมิตรภาพที่ได้มาอาจไม่ยั่งยืนอย่างที่หวังไว้ เมื่อล่าสุดวันที่ 22 มกราคม 2559 เว็บไซต์อินดิเพนเดนท์ ได้มีรายงานถึงผลวิจัยชิ้นใหม่จากมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด ที่บ่งชี้ว่า เพื่อนในเฟซบุ๊กนั้นช่างหาคนที่จริงใจกับเราได้น้อยเสียเหลือเกิน

          โดย โรบิน ดุนบาร์ ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาเชิงวิวัฒนาการ จากมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด ได้ทำการวิจัยเพื่อค้นหาความเชื่อมโยงระหว่างการมีเพื่อนจำนวนมากในเฟซบุ๊ก และการมีเพื่อนแท้ พบว่าเพื่อนในเฟซบุ๊กส่วนมากนั้นไม่ได้ให้ความสนใจเกี่ยวกับตัวเรา หรือมีความเห็นใจต่อปัญหาของเราสักเท่าไรนัก ผู้ที่มีเพื่อนในเฟซบุ๊กหลายร้อยคน อาจมีเพื่อนแค่ 14 คนโดยเฉลี่ยเท่านั้นที่มีความจริงใจกับเรา

          จากการศึกษาพบว่า หากค่าเฉลี่ยของผู้ที่ถูกศึกษามีเพื่อนในเฟซบุ๊ก 150 คน จะมีเพียง 14 คนเท่านั้นที่เข้ามาแสดงความเห็นใจเมื่อเกิดเหตุไม่ถูกต้องกับเพื่อน หรือนับได้ว่ามีเพื่อนเพียง 27% ในเฟซบุ๊กเท่านั้นที่นับว่าเป็นเพื่อนแท้ ขณะที่หลายคนอาจถูกจำนวนเพื่อนในเฟซบุ๊กลวงให้คิดว่าตัวเองอาจมีเพื่อนสนิท เพิ่มขึ้น

          ทั้งนี้ โรบินยังชี้ว่า โซเชียลเน็ตเวิร์กมีข้อจำกัดด้านความคิด ชนิดที่ข้อดีของการสื่อสารผ่านสื่อออนไลน์ไม่สามารถเอาชนะได้ ซึ่งนั่นยังสะท้อนว่ามิตรภาพที่แท้จริงจะต้องมีการปฏิสัมพันธ์กันแบบเผชิญหน้าเป็นครั้งคราว เพื่อรักษาความสัมพันธ์ระหว่างกัน


http://fbguide.kapook.com/view140187.html
เครดิตภาพ  https://www.pinterest.com/pin/574068283722210707/