10
ตัวอย่างสิ่งต้องห้ามบนเฟซบุ๊กที่หลายคนคาดไม่ถึง ถูกแบนแบบงง ๆ
เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2557 เว็บไซต์ digitaltrends.com ได้เปิดเผย 10 ตัวอย่างสิ่งต้องห้ามบนเฟซบุ๊กที่หลายคนคาดไม่ถึง ถูกแบนแบบงง ๆ ซึ่งส่วนใหญ่มักไม่ใช่สิ่งที่สมควรจะถูกลบหรือแบนเลย มาดูกันดีกว่ามีอะไรบ้าง
1. ภาพเด็กปัสสาวะรดกำแพง
การโพสต์ภาพเด็กยืนปัสสาวะรดกำแพง, รั้ว หรือเสาไฟฟ้า ซึ่งดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่ก็มีผู้ที่โพสต์ภาพดังกล่าวและถูกลบไปแล้ว
2.
ภาพผู้ชายจูบกับผู้ชาย
ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ภาพโป๊เปลือยหรือล่อแหลม เป็นเพียงแค่ภาพผู้ชายสองคนจูบกันเท่านั้น แต่ก็เคยมีผู้ที่ลบภาพในกรณีดังกล่าวมาแล้ว โดยทางเฟซบุ๊กไม่ได้ให้เหตุผลใด ๆ ทั้งสิ้น ว่าทำรูปภาพดังกล่าวถึงถูกลบ
ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ภาพโป๊เปลือยหรือล่อแหลม เป็นเพียงแค่ภาพผู้ชายสองคนจูบกันเท่านั้น แต่ก็เคยมีผู้ที่ลบภาพในกรณีดังกล่าวมาแล้ว โดยทางเฟซบุ๊กไม่ได้ให้เหตุผลใด ๆ ทั้งสิ้น ว่าทำรูปภาพดังกล่าวถึงถูกลบ
3.
ภาพเด็กน้อยดูดนมกัน
ก่อนหน้านี้เคยมีคุณแม่โพสต์ภาพลูกชายวัย 2 ขวบที่กำลังดูดนมลูกสาววัย 5 ขวบ ซึ่งเป็นภาพของเด็กไร้เดียงสาที่คุณแม่มองเป็นเรื่อง ๆ ขำ แต่นั้นก็ทำให้เธอถูกแบนเฟซบุ๊กในทันที
ก่อนหน้านี้เคยมีคุณแม่โพสต์ภาพลูกชายวัย 2 ขวบที่กำลังดูดนมลูกสาววัย 5 ขวบ ซึ่งเป็นภาพของเด็กไร้เดียงสาที่คุณแม่มองเป็นเรื่อง ๆ ขำ แต่นั้นก็ทำให้เธอถูกแบนเฟซบุ๊กในทันที
4.
อาศัยอยู่ในสถานที่มีชื่อต้องห้าม
ชื่อเมืองหรือสถานที่บางแห่ง ใช้คำที่เหมือนกับคำต้องห้ามของเฟซบุ๊ก เช่น เมือง Effin ซึ่งระบบจะไม่รับรองคำเหล่านี้ ทำให้บุคคลที่อาศัยอยู่ในสถานที่ดังกล่าวไม่สามารถเช็กอินหรือกระทำการใด ๆ เกี่ยวกับชื่อสถานที่เหล่านี้ได้
ชื่อเมืองหรือสถานที่บางแห่ง ใช้คำที่เหมือนกับคำต้องห้ามของเฟซบุ๊ก เช่น เมือง Effin ซึ่งระบบจะไม่รับรองคำเหล่านี้ ทำให้บุคคลที่อาศัยอยู่ในสถานที่ดังกล่าวไม่สามารถเช็กอินหรือกระทำการใด ๆ เกี่ยวกับชื่อสถานที่เหล่านี้ได้
5.
ห้ามใช้ชื่อว่า Mark Zuckerberg
Mark Zuckerberg ผู้ซึ่งเป็นเจ้าของเฟซบุ๊ก และนั่นก็คือเหตุผลที่ทำให้ผู้ใช้ทั่วโลกไม่สามารถใช้ชื่อบนเฟซบุ๊กเหมือนกับเขาได้ ถึงแม้จะมีชื่อว่า Mark Zuckerberg จริง ๆ ก็ตาม
Mark Zuckerberg ผู้ซึ่งเป็นเจ้าของเฟซบุ๊ก และนั่นก็คือเหตุผลที่ทำให้ผู้ใช้ทั่วโลกไม่สามารถใช้ชื่อบนเฟซบุ๊กเหมือนกับเขาได้ ถึงแม้จะมีชื่อว่า Mark Zuckerberg จริง ๆ ก็ตาม
6.
โพสต์ภาพลดน้ำหนัก
มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งที่โพสต์ภาพของตนหลังลดน้ำหนักได้สำเร็จ แต่กลับถูกลบออกจากเฟซบุ๊กแบบงง ๆ โดยทางเฟซบุ๊กให้เหตุผลว่า ภาพนั้นดูเหมือนภาพโฆษณาขายผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนัก
มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งที่โพสต์ภาพของตนหลังลดน้ำหนักได้สำเร็จ แต่กลับถูกลบออกจากเฟซบุ๊กแบบงง ๆ โดยทางเฟซบุ๊กให้เหตุผลว่า ภาพนั้นดูเหมือนภาพโฆษณาขายผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนัก
7. วิดีโอให้กำเนิดลูกที่ร่างกายไม่สมบูรณ์
อีกหนึ่งสิ่งที่คาดไม่ถึงว่าจะถูกลบจากเฟซบุ๊ก นั่นก็คือคลิปวิดีโอของครอบครัวที่ให้กำเนิดลูกน้อยแต่ร่างกายไม่สมบูรณ์ และมีชีวิตอยู่ได้เพียง 8 ชั่วโมงเท่านั้น ถือเป็นสิ่งที่น่าแปลกใจมากว่าเหตุใดทางเฟซบุ๊กถึงต้องลบออก
อีกหนึ่งสิ่งที่คาดไม่ถึงว่าจะถูกลบจากเฟซบุ๊ก นั่นก็คือคลิปวิดีโอของครอบครัวที่ให้กำเนิดลูกน้อยแต่ร่างกายไม่สมบูรณ์ และมีชีวิตอยู่ได้เพียง 8 ชั่วโมงเท่านั้น ถือเป็นสิ่งที่น่าแปลกใจมากว่าเหตุใดทางเฟซบุ๊กถึงต้องลบออก
8. ภาพที่ (บังเอิญ) เหมือนภาพล่อแหลม
ภาพถ่ายของหญิงสาวในอ่างอาบน้ำที่เห็นเพียงแค่หัวและข้อศอก แต่เนื่องจากข้อศอกในภาพดังกล่าวกลับดูเหมือนหน้าอกของเธอ ทำให้ภาพถูกลบออกจากเฟซบุ๊กในทันที
9.
ภาพวาดศิลปะแม่ให้นมลูกน้อย
ภาพวาดศิลปะที่เป็นภาพของแม่กำลังให้นมลูก ถูกเฟซบุ๊กลบภาพดังกล่าวออกถึง 3 ครั้ง ในขณะที่ภาพวาดอื่น ๆ ซึ่งมีความโป๊เปลือยกลับไม่ถูกลบ
ภาพวาดศิลปะที่เป็นภาพของแม่กำลังให้นมลูก ถูกเฟซบุ๊กลบภาพดังกล่าวออกถึง 3 ครั้ง ในขณะที่ภาพวาดอื่น ๆ ซึ่งมีความโป๊เปลือยกลับไม่ถูกลบ
10.
ใช้ชื่อแปลก
บุคคลที่มีชื่อแปลก (ในมุมมองของเฟซบุ๊ก) ซึ่งไม่เหมือนชื่อคนทั่วไป จะเป็นชื่อที่ถูกห้ามตั้งเป็นชื่อเฟซบุ๊ก เช่น Elmo Keep, Steve Webb, Hiroko Yoda และ Rowena Gay รวมทั้งผู้ที่มีนามสกุลว่า Arab ด้วย
บุคคลที่มีชื่อแปลก (ในมุมมองของเฟซบุ๊ก) ซึ่งไม่เหมือนชื่อคนทั่วไป จะเป็นชื่อที่ถูกห้ามตั้งเป็นชื่อเฟซบุ๊ก เช่น Elmo Keep, Steve Webb, Hiroko Yoda และ Rowena Gay รวมทั้งผู้ที่มีนามสกุลว่า Arab ด้วย
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เข้าข่ายทั้ง 10 ดังกล่าว
ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ, วิดีโอ หรืออะไรก็ตาม ไม่จำเป็นว่าจะต้องถูกลบหรือแบนจากเฟซบุ๊กไปเสียทั้งหมด
ทั้งนี้อาจขึ้นอยู่กับความบังเอิญด้วยว่าทางเฟซบุ๊กจะมาเห็นหรือมีคนรายงานไปยังเฟซบุ๊กหรือไม่
ซึ่งยังไม่มีใครทราบแน่ชัดว่ามาตรฐานการคัดกรองเนื้อหาของเฟซบุ๊กนั้นมีราย ละเอียดเบื้องลึกเป็นอย่างไรกันแน่
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก digitaltrends.com
และจากอินเตอร์เน็ต
No comments:
Post a Comment