ร่างกายของเรานั้นเสมือนมีนาฬิกาชีวิตซ่อนอยู่ ซึ่งเป็นตัวกำหนดจังหวะเวลาในการทำกิจวัตรประจำวันต่างๆ ซึ่งคนตื่นเช้าจังหวะชีวิตก็จะต่างจากคนตื่นสาย....ทำให้คนที่ตื่นเช้าเป็นประจำจะได้ประโยชน์ดีๆ ในชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างมากมายค่ะ
คนตื่นเช้ามีแนวโน้มแฮปปี้มากกว่า
ด้วยระยะเวลา 9.00-17.00 น. เป็นช่วงเวลาที่ร่างกายจะตื่นตัว
กระปรี้กระเปร่า ทำให้เราใช้ชีวิตได้อย่างเต็มประสิทธิภาพกว่า คนที่ตื่นเช้าจึงอารมณ์ดี
มีความสุขกว่ากันเยอะเลยล่ะค่ะ
คุณภาพของงานดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ร่างกายและสมองของเราต้องการพักผ่อนที่เพียงพอ
เพื่อการทำงานที่เต็มประสิทธิภาพมากที่สุด ดังนั้นคนที่นอนเร็ว ตื่นเช้า
พักผ่อนเพียงพอ จึงมีสมองและร่างกายที่พร้อมรับข้อมูลข่าวสาร
และสามารถประมวลผลได้ดีกว่านั่นเอง
สมองปลอดโปร่ง
พร้อมรับทุกสถานการณ์
คนที่ตื่นเช้ามักจะได้เริ่มต้นกิจวัตรประจำวันก่อนใคร
ซึ่งได้กำไรชีวิตมากกว่าเห็นๆ แถมการได้ตื่นมารับอากาศบริสุทธิ์ในยามเช้า
จะมีสมองที่ปลอดโปร่ง ร่างกายได้รับออกซิเจนเต็มที่พร้อมรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ
ได้ดีกว่า
พัฒนาทัศนคติด้านดี
เพราะสมองที่พร้อมประมวลข้อมูลอย่างเต็มที่มากกว่ากระตือรือร้นต่อสิ่งต่างๆ
มากกว่า เป็นผลให้สามารถแก้ไขปัญหาที่พบเจอได้อย่างชาญฉลาด สุขุม
และมีทัศนคติที่ดีต่อปัญหา
ชีวิตโดยรวมจะดีขึ้นมาก
อย่างน้อยเราก็มีเวลาทำสิ่งดีๆ
ในตอนเช้ามากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย ทานอาหารเช้า ใช้ชีวิตอย่างมีระบบระเบียบกว่าที่เคย
ไม่ต้องเร่งรีบ และมีเวลาชีวิตที่มากขึ้นอีกด้วย หรืออย่างน้อยๆ
เราก็ได้เห็นภาพพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามเป็นประจำทุกวัน ที่สำคัญได้เห็นถนนโล่งๆ
และการจราจรที่ไม่ติดขัดอย่างตอนสาย สบายใจสุดๆ ค่ะ
ลดความเสี่ยงโรคซึมเศร้า
เมื่อร่างกายพักผ่อนเพียงพอ
ระบบต่างๆ จะทำงานปกติ สุขภาพกายดี ไม่เจ็บไข้ สุขภาพก็จะรื่นรมย์
ข้อมูลบางส่วนจาก http:/www.huffingtonpost.com
เอกสารของเทสโก้โลตัส
เครดิตภาพ https://www.pinterest.com/sharonsossamon/winnie-the-pooh/
เครดิตภาพ https://www.pinterest.com/sharonsossamon/winnie-the-pooh/
No comments:
Post a Comment