Friday, August 8, 2014

นอนไม่หลับ ฟังเพลง 5 แบบ เอาอยู่




         ใครที่มีปัญหาในการนอนหลับยาก ใช้หลายวิธีแล้วก็ยังนอนไม่หลับ นับแกะเป็นพันตัวแล้วก็ยังตาสว่างอยู่ ไทยรัฐออนไลน์ มีวิธีแนะนำง่ายๆ ไม่ยาก เชื่อว่าทุกคนก็น่าจะทำได้ นั้นคือ การฟังเพลง

          ซึ่งมีเพลง 5 แบบ ที่ฟังแล้วจะทำให้คุณทั้งหลายรู้สึกผ่อนคลาย และเคลิ้มหลับไปอย่างไม่รู้ตัว

1. ฟังเพลงที่ชอบ

          การฟังเพลงที่ชอบจะเป็นเพลงไทยหรือเพลงสากล เพลงแจ๊ซ เพลงเพื่อชีวิตอะไรก็ได้ ขอให้เป็นเพลงเบาๆ หน่อย มีเนื้อหาที่จรรโลงใจ ผ่อนคลายอารมณ์ ฟังแล้วสบายใจ คนที่นอนไม่ค่อยจะหลับก็คงจะหลับได้สบายขึ้นบ้าง

 2. ฟังเพลงบรรเลง

           แต่ถ้าเกิดฟังเพลงพวกแรกแล้วก็ยังไม่ผ่อนคลาย ก็ลองฟังเพลงบรรเลงดู แต่บรรเลงแบบไหนยังไงก็ต้องลองฟังด้วยตัวเอง เพราะรสนิยมของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ไม่สามารถเอาเหตุผลมาจับได้ว่าถูกหรือผิด

3. ฟังเพลงนิวเอจ (New Age)

         เพลงนิวเอจเป็นแนวดนตรีชนิดหนึ่ง มีจุดเริ่มต้นจากงานความหลากหลายของนักดนตรียุโรปและอเมริกัน ในทศวรรษที่ 60 ที่ทำเพลงอิเล็กทรอนิกส์และอคูสติก โดยทั่วไปมีลักษณะการใช้เครื่องดนตรีพื้นฐานและความซ้ำของเมโลดี้ในธรรมชาติ การบันทึกเสียงจากธรรมชาติก็มีการนำมาใช้ในเพลง ดนตรีนิวเอจเป็นดนตรีที่ให้ความผ่อนคลาย แรงบันดาลใจ และมักใช้กับกิจกรรมต่างๆ อย่างเช่น โยคะ การนวด การทำสมาธิ การอ่านหนังสือ ซึ่งการฟังเพลงประเภทนี้ จะช่วยผ่อนคลายอารมณ์ทำให้นอนหลับสบายได้เป็นอย่างดี

4. ฟังเพลงเสียงธรรมชาติ

           ถ้าฟังเพลงอะไรก็ยังไม่ดีขึ้น แนะนำว่าให้ไปเที่ยวต่างจังหวัดบ้าง มีเวลาตอนเช้าไปฟังเสียงคลื่นทะเลที่ริมชายหาดบ้าง ฟังเสียงน้ำตกที่ไหลบ้าง และการเปิดเสียงธรรมชาติจากแผ่นซีดี มันก็คนละเรื่องกับไปฟังเสียงในธรรมชาติจริงๆ เสียงพวกนี้มันจะเข้าไปบำบัดสิ่งที่มันขาดไป

5. ฟังดนตรีภายในตัวเอง

          ถ้าฟังทั้ง 4 อย่างอิ่มตัวแล้ว ก็มาถึงขั้นสุดท้ายแล้ว ดนตรีเป็นแค่ตัวโน้มน้าวให้เราเกิดสมาธิ ซึ่งถ้าฟังมากๆ มันก็จะเสพติด กลายเป็นว่าเราไปยึดติดกับเสียงของมัน แล้วก็มาบอกว่าดีนะที่มันช่วยผ่อนคลาย ดังนั้น การฟังดนตรีเพื่อผ่อนคลายขั้นสุดยอด คือการฟังดนตรีจากภายในตัวคุณ ลองไปอยู่ในที่เงียบที่สุดว่าคุณได้ยินอะไร

         แต่ถ้าใครทั้งหลายฟังทั้ง 5 แบบแล้ว ก็ยังตาสว่างนอนไม่หลับเหมือนเดิม ไทยรัฐออนไลน์ ขอแนะนำให้เข้าไปหาแพทย์เฉพาะทาง เพราะอาจเป็นโรคที่ส่งผลเสียต่อระยะยาวได้

แหล่งที่มา  http://www.thaihealth.or.th/Content
เครดิตภาพ  https://www.pinterest.com/pin/266064290458073423/

No comments:

Post a Comment