แพริโดเลีย
อาการที่เห็นก้อนเมฆหรือสิ่งของที่ไม่มีชีวิตเป็นใบหน้าคน
หรือรูปร่างต่าง ๆ จริง ๆ
แล้วอาการนี้เกิดจากอะไรกันแน่
เคย มองขึ้นไปบนฟ้าแล้วเห็นก้อนเมฆเป็นรูปกระต่าย รูปใบหน้าคน หรืออย่างที่ออกข่าวเห็นก้อนเมฆเป็นรูปคนดังทั้งหลายกันไหมคะ อาการนี้ดูเหมือนจะเป็นเรื่องลี้ลับที่หาทางพิสูจน์ได้ยาก แต่ถ้ามองในมุมการแพทย์แล้วไม่ได้มีอะไรลึกลับอย่างที่คิด และวันนี้เราก็มีคำอธิบายถึงอาการมองเห็นก้อนเมฆหรือสิ่งของเป็นรูปต่าง ๆ มาบอกต่อ มารู้กันเถอะว่า แพริโดเลีย (Pareidolia) คืออาการอะไรกันแน่
เคย มองขึ้นไปบนฟ้าแล้วเห็นก้อนเมฆเป็นรูปกระต่าย รูปใบหน้าคน หรืออย่างที่ออกข่าวเห็นก้อนเมฆเป็นรูปคนดังทั้งหลายกันไหมคะ อาการนี้ดูเหมือนจะเป็นเรื่องลี้ลับที่หาทางพิสูจน์ได้ยาก แต่ถ้ามองในมุมการแพทย์แล้วไม่ได้มีอะไรลึกลับอย่างที่คิด และวันนี้เราก็มีคำอธิบายถึงอาการมองเห็นก้อนเมฆหรือสิ่งของเป็นรูปต่าง ๆ มาบอกต่อ มารู้กันเถอะว่า แพริโดเลีย (Pareidolia) คืออาการอะไรกันแน่
แพริโดเลีย (Pareidolia) คือ ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติของจิตใจ ที่ส่งผลต่อไปยังสมอง ทำให้เราเห็นท้องฟ้าหรือสิ่งของไร้ชีวิตเหมือนมีใบหน้ายิ้้มแย้ม
หรือกลายเป็นรูปร่างต่าง ๆ ซ้อนทับ และบางทีอาจได้ยินเสียงแว่วได้ด้วย ซึ่งศาสตราจารย์คัง
ลี อาจารย์ประจำคณะจิตวิทยา มหาวิทยาลัยโทรอนโต ได้อธิบายผลการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ว่า
ปรากฏการณ์แพริโดเลียเกิดขึ้นจากทักษะการจดจำใบหน้าที่มนุษย์มีติดตัวมา ตั้งแต่กำเนิด
โดยความสามารถในการระบุใบหน้านี้ยังช่วยให้มนุษย์สามารถระบุใบหน้าได้ แม้จะมีรายละเอียดเพียงเล็กน้อย
หรืออยู่ในระยะห่างพอให้เห็นได้เลือนรางอีกด้วย
ฉะนั้น เราจึงมีแนวโน้มที่จะเห็นสิ่งของ ธรรมชาติ หรือสิ่งไร้ชีวิตมีลักษณะคล้ายใบหน้าคน สัตว์ หรืออะไรก็ตามที่อยู่ในความทรงจำอันคุ้นเคย ซึ่งภาพที่เห็นเหล่านี้ก็มาจากการปรุงแต่งของสมองบวกกับจินตนาการส่วนตัวของ แต่ละบุคคลนั่นเอง
ฉะนั้น เราจึงมีแนวโน้มที่จะเห็นสิ่งของ ธรรมชาติ หรือสิ่งไร้ชีวิตมีลักษณะคล้ายใบหน้าคน สัตว์ หรืออะไรก็ตามที่อยู่ในความทรงจำอันคุ้นเคย ซึ่งภาพที่เห็นเหล่านี้ก็มาจากการปรุงแต่งของสมองบวกกับจินตนาการส่วนตัวของ แต่ละบุคคลนั่นเอง
โดยหากจะอธิบายตามหลักการแพทย์ลึกไปอีกนิด
ผลการวิจัยจาก University of Toronto, Beijing Jiaotong University, Xidian
University และสถาบัน Automation Chinese Academy of
Sciences ก็ค้นพบว่า ปรากฏการณ์แพริโดเลีย (Pareidolia) จะเกิดที่บริเวณสมองส่วนหน้า และสมองส่วนการมองเห็น (Visual
Cortex) โดยสมองส่วนหน้าจะส่งข้อมูลไปยังประสาทส่วนหลังของสมองส่วนการมองเห็น
จากนั้นสมองส่วนการมองเห็นจะทบทวนความทรงจำ และพยายามตีความสิ่งเร้า (สิ่งที่มองเห็น ณ ขณะนั้น) ออกมาเป็นภาพที่ใกล้เคียงความคุ้นเคยมากที่สุด
ทั้งนี้จิตแพทย์ยังได้กล่าวไว้ว่า ในบางคนอาจมีประสบการณ์เห็นก้อนเมฆหรือของต่าง
ๆ เป็นรูปหน้าคนหรือรูปร่างแปลก ๆ ค่อนข้างบ่อยกว่าคนอื่น ซึ่งก็ไม่ได้หมายความว่าคนเหล่านี้จะมีความผิดปกติทางสมองหรือจิตใจแต่อย่าง
ใด ทว่าอาจเป็นเพราะสมองของพวกเขามีความสามารถในการเชื่อมโยงข้อมูลต่าง ๆ ที่พิเศษกว่าคนอื่นก็เท่านั้น
ซึ่งดูแล้วเหมือนจะเป็นข้อดีของการทำงานของสมองอยู่ไม่น้อยนะคะ
และนอกจากภาพที่เห็นแล้ว บางคนอาจได้ยินเสียงแว่ว ๆ ด้วยในบางครั้ง ซึ่งปรากฏการณ์นี้นักจิตวิทยาก็ได้อธิบายว่า อาจเป็นเพราะสมองเรียกคืนความทรงจำจากเสียงดนตรีหรือเสียงที่เราได้ยินซ้ำ ๆ จนสมองเก็บเสียงนั้นไว้ในส่วนลึกของความทรงจำ ทำให้เสียงนั้นพร้อมจะรีเพลย์อีกครั้งเมื่อเจอเสียงกระตุ้นเร้าอื่น ๆ
และนอกจากภาพที่เห็นแล้ว บางคนอาจได้ยินเสียงแว่ว ๆ ด้วยในบางครั้ง ซึ่งปรากฏการณ์นี้นักจิตวิทยาก็ได้อธิบายว่า อาจเป็นเพราะสมองเรียกคืนความทรงจำจากเสียงดนตรีหรือเสียงที่เราได้ยินซ้ำ ๆ จนสมองเก็บเสียงนั้นไว้ในส่วนลึกของความทรงจำ ทำให้เสียงนั้นพร้อมจะรีเพลย์อีกครั้งเมื่อเจอเสียงกระตุ้นเร้าอื่น ๆ
อย่าง ไรก็ตาม การมองเห็นก้อนเมฆหรือสิ่งของต่าง ๆ เป็นรูปร่างแปลก ๆ ยังอาจเกิดจากการโน้มน้าวด้วยนะคะ เช่น ตอนแรกก็ไม่ได้คิดว่าสิ่งของเหมือนรูปอะไร ทว่าพอมีคนมาไกด์ว่าเหมือนรูปนั้นรูปนี้ก็เห็นคล้อยตามทันที เป็นต้น
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
Dailymail
livescience
http://health.kapook.com/view139647.html
No comments:
Post a Comment