ใครชอบดื่มน้ำอัดลมต้องระวังให้ดี
เพราะเครื่องดื่มที่สุดซ่านี้นี่ล่ะ
คือสาเหตุของโรคร้ายอย่างโรคมะเร็งมากมายหลายชนิด
น้ำอัดลม เครื่องดื่มยอดฮิตสุดโปรดของใครหลาย ๆ คน ที่มักจะชอบดื่มเวลาที่รู้สึกกระหาย โดยให้เหตุผลว่าดื่มน้ำอัดลมแล้วทำให้รู้สึกสดชื่น คลายร้อนได้ ซึ่งเชื่อว่าคนมีคนจำนวนไม่น้อยเลยที่รู้ว่าเจ้าน้ำอัดลมนั้นไม่ดีต่อร่าง กาย ไม่ว่าจะทำให้เกิดโรคอ้วน หรือเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน แต่รู้หรือไม่ว่านอกจากโรคเหล่านี้แล้ว การดื่มน้ำอัดลมก็ทำให้เสี่ยงกับโรคมะเร็งหลากหลายชนิดได้เช่นกันอย่างที่ วันนี้เราจะพาทุกท่านไปดูถึงความอันตรายของการดื่มน้ำอัดลมที่ทำให้เกิดโรค มะเร็งได้ จะมีสาเหตุมาจากอะไร แล้วทำให้เสี่ยงโรคมะเร็งชนิดใดบ้าง ไม่อยากให้สุขภาพพังต้องอ่านค่ะ
โรคมะเร็งมดลูก
เราทราบกันดีอยู่แล้วว่าน้ำอัดลมประกอบด้วยน้ำตาลจำนวนมาก น้ำ กับก๊าซคาร์บอนิก ซึ่งแค่เพียง 3 ส่วนผสมนี้ก็สามารถนำมาสู่โรคภัยได้แล้ว อย่างที่เราเห็นได้ชัดที่สุดก็คือโรคอ้วน การดื่มน้ำอัดลมมาก ๆ จะทำให้เราอ้วนขึ้น และความอ้วนนี่เองที่นำพาไปสู่โรคมะเร็งชนิดหนึ่งที่พบในผู้หญิง โดยเฉพาะผู้หญิงที่อยู่ในวัยหมดประจำเดือน ซึ่งเว็บไซต์ Medical Daily ได้นำเสนอผลการวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสารทางวิชาการอย่าง Cancer Epidemiology, Biomarkers & Prevention ที่เปิดเผยว่า หญิงในวัยหมดประจำเดือนที่บริโภคเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูงอย่างเช่นน้ำอัด ลมมาก ๆ จะมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคมะเร็งมดลูกชนิดที่ 1 จากมะเร็งมดลูกที่มีทั้งหมด 2 ชนิด ซึ่งมะเร็งมดลูกชนิดที่ 1 ค่อย ๆ แพร่กระจายไปอย่างช้า ๆ ต่างกับมะเร็งมดลูกชนิดที่ 2 ซึ่งมีความรุนแรงมากกว่าและทำให้เสี่ยงเสียชีวิตสูงกว่ามะเร็งมดลูกชนิดที่ 1
ทั้งนี้การเกิดโรคมะเร็งมดลูกชนิด
ที่ 1 นั้นก็มีสาเหตุมาจากปริมาณฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ผลิตออกมามากเกินไป
และสาเหตุที่จะทำให้ร่างกายของผู้หญิงผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนมากขึ้นก็เนื่อง มากจากความอ้วน
นอกจากนี้น้ำหนักที่มากเกินไปก็ยังทำให้ร่างกายผลิตอินซูลินออกมามากเกิน ความจำเป็นอีกด้วย
โรคมะเร็งเต้านม
เว็บไซต์ Telegraph ยังได้นำเสนอผลการศึกษาของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดที่แสดงให้เห็นว่าการดื่มน้ำ อัดลมจะทำให้เด็กผู้หญิงมีความเสี่ยงโรคมะเร็งเต้านมมากขึ้น โดยการดื่มน้ำอัดลมแค่เพียงวันละ 1.5 กระป๋อง ก็สามารถเพิ่มความเสี่ยงได้แล้ว นอกจากนี้ยังทำให้เด็กผู้หญิงโตเป็นสาวไวเกินควรอีกด้วย
โดยในการศึกษาได้ทำการศึกษากับ
เด็กอายุระหว่าง 9-14 ปี กว่า 5,583
คน พบว่าเด็กที่ดื่มน้ำอัดลมมากกว่า 1.5 กระป๋องต่อวัน
จะมีประจำเดือนเร็วขึ้นราว ๆ 2.7 เดือน เมื่อเทียบกับเด็กที่ดื่มน้ำอัดลม
2 กระป๋องต่อสัปดาห์ นั่นก็เป็นเพราะว่าเมื่อน้ำตาลจำนวนมากเข้าสู่ร่างกาย
ทำให้เกิดโรคอ้วน และเมื่อเด็กผู้หญิงเป็นโรคอ้วน ร่างกายก็จะหลั่งอินซูลินและฮอร์โมนเพศหญิงเพิ่มขึ้นกว่าปกติทำให้เด็ก
ผู้หญิงเป็นประจำเดือนครั้งแรกเร็วขึ้นกว่าเดิม และฮอร์โมนเพศหญิงที่มากเกินไปก็ส่งผลให้เกิดความเสี่ยงโรคมะเร็งเต้านม
เพิ่มขึ้นถึง 5% ค่ะ
โรคมะเร็งต่อมลูกหมาก
เว็บไซต์ Men's Journal ยังได้นำเสนอรายงานล่าสุดของมหาวิทยาลัย Johns Hopkins ที่ได้เปิดเผยว่าการดื่มน้ำอัดลมโดยเฉพาะในกลุ่มน้ำอัดลมที่มีสีดำนั้น สามารถทำให้ผู้ชายเกิดความเสี่ยงโรคมะเร็งต่อมลูกหมากได้ เพราะในน้ำเชื่อมที่ทำให้น้ำอัดลมมีสีดำนั้นจะมีสารชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า 4-MEI หรือ 4-methylimidazole ซึ่งมีการศึกษาพบว่าสารชนิดนี้ก่อให้เกิดมะเร็งในหนูที่ใช้ในการทดลองสารดัง กล่าว โดยเมื่อนำน้ำอัดลมที่มีสีดำมาวัดปริมาณสารดังกล่าวก็พบว่ามีสารนี้อยู่มาก ถึง 352.5 มิลลิกรัม ทั้งที่มีกฎหมายเตือนแล้วว่าในน้ำอัดลมจะต้องไม่มีสาร 4-MEI มากกว่า 29 มิลลิกรัม ซึ่งปริมาณที่มากขนาดนี้สามารถทำให้ผู้ชายเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก ได้ค่ะ
เว็บไซต์ Men's Journal ยังได้นำเสนอรายงานล่าสุดของมหาวิทยาลัย Johns Hopkins ที่ได้เปิดเผยว่าการดื่มน้ำอัดลมโดยเฉพาะในกลุ่มน้ำอัดลมที่มีสีดำนั้น สามารถทำให้ผู้ชายเกิดความเสี่ยงโรคมะเร็งต่อมลูกหมากได้ เพราะในน้ำเชื่อมที่ทำให้น้ำอัดลมมีสีดำนั้นจะมีสารชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า 4-MEI หรือ 4-methylimidazole ซึ่งมีการศึกษาพบว่าสารชนิดนี้ก่อให้เกิดมะเร็งในหนูที่ใช้ในการทดลองสารดัง กล่าว โดยเมื่อนำน้ำอัดลมที่มีสีดำมาวัดปริมาณสารดังกล่าวก็พบว่ามีสารนี้อยู่มาก ถึง 352.5 มิลลิกรัม ทั้งที่มีกฎหมายเตือนแล้วว่าในน้ำอัดลมจะต้องไม่มีสาร 4-MEI มากกว่า 29 มิลลิกรัม ซึ่งปริมาณที่มากขนาดนี้สามารถทำให้ผู้ชายเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก ได้ค่ะ
โรคมะเร็งตับอ่อน
น้ำอัดลมไม่เพียงแต่ทำให้เกิดความเสี่ยงโรคมะเร็งทั้ง 3 ชนิดที่บอกกันไปก่อนหน้านี้ แต่เว็บไซต์ WebMD ยังได้เปิดเผยการศึกษาของศูนย์การแพทย์ Georgetown ในเมืองวอชิงตันดีซี ซึ่งตีพิมพ์ในวารสารวิชาการ Cancer Epidemiology, Biomarkers & Prevention ของสถาบันวิจัยโรคมะเร็งในสหรัฐฯ ว่า การดื่มน้ำอัดลมมากกว่า 2 แก้วต่อสัปดาห์สามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งตับอ่อนถึง 87% เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ดื่มน้ำอัดลม
โดยในการศึกษาใช้เวลากว่า 14 ปีในเพื่อติดตามนิสัยในการรับประทานอาหารและสาเหตุที่ทำให้เกิดมะเร็ง โดยพบว่ามีมากกว่า 140 เคสของผู้ป่วยโรคมะเร็งตับอ่อน ที่มีความเกี่ยวข้องกับการดื่มน้ำอัดลม
เห็นไหมล่ะคะว่าการดื่มน้ำอัดลมนั้นเป็นอันตรายต่อสุขภาพขนาดไหน เมื่อเทียบกับความรู้สึกสดชื่นที่ได้รับจากน้ำอัดลม ไม่คุ้มกันเลยเชียวล่ะ ฉะนั้นใครที่ยังติดน้ำอัดลมอยู่ ก็ได้เวลาลดปริมาณการดื่มน้ำอัดลมลงได้แล้วนะคะ เปลี่ยนมาดื่มน้ำเปล่าจะดีกว่า มีประโยชน์กว่ากันเยอะ และทำให้สดชื่นได้เหมือนกันอีกด้วยนะ
น้ำอัดลมไม่เพียงแต่ทำให้เกิดความเสี่ยงโรคมะเร็งทั้ง 3 ชนิดที่บอกกันไปก่อนหน้านี้ แต่เว็บไซต์ WebMD ยังได้เปิดเผยการศึกษาของศูนย์การแพทย์ Georgetown ในเมืองวอชิงตันดีซี ซึ่งตีพิมพ์ในวารสารวิชาการ Cancer Epidemiology, Biomarkers & Prevention ของสถาบันวิจัยโรคมะเร็งในสหรัฐฯ ว่า การดื่มน้ำอัดลมมากกว่า 2 แก้วต่อสัปดาห์สามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งตับอ่อนถึง 87% เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ดื่มน้ำอัดลม
โดยในการศึกษาใช้เวลากว่า 14 ปีในเพื่อติดตามนิสัยในการรับประทานอาหารและสาเหตุที่ทำให้เกิดมะเร็ง โดยพบว่ามีมากกว่า 140 เคสของผู้ป่วยโรคมะเร็งตับอ่อน ที่มีความเกี่ยวข้องกับการดื่มน้ำอัดลม
เห็นไหมล่ะคะว่าการดื่มน้ำอัดลมนั้นเป็นอันตรายต่อสุขภาพขนาดไหน เมื่อเทียบกับความรู้สึกสดชื่นที่ได้รับจากน้ำอัดลม ไม่คุ้มกันเลยเชียวล่ะ ฉะนั้นใครที่ยังติดน้ำอัดลมอยู่ ก็ได้เวลาลดปริมาณการดื่มน้ำอัดลมลงได้แล้วนะคะ เปลี่ยนมาดื่มน้ำเปล่าจะดีกว่า มีประโยชน์กว่ากันเยอะ และทำให้สดชื่นได้เหมือนกันอีกด้วยนะ
http://health.kapook.com/view115881.html
No comments:
Post a Comment