หากกำลังรักษาอาการป่วยด้วยยาปฏิชีวนะอยู่
อย่าเผลอกินอาหารเหล่านี้เชียว
ไม่อย่างนั้นคุณอาจได้รับสิทธิ์ป่วยต่ออย่างไม่ต้องสงสัย
เคยได้ยินไหมคะว่าห้ามกินยาบางอย่างพร้อมกับเครื่องดื่มบางชนิด เพราะเครื่องดื่มเหล่านั้นอาจไปลดทอนความสามารถของตัวยา ทำให้ร่างกายได้รับการรักษาจากยาแบบตก ๆ หล่น ๆ ซึ่งนอกจากเครื่องดื่มบางชนิดแล้ว ยังมีอาหารอีกบางส่วนตามที่ Health Me Up เขาเตือนมาว่า ถ้ากินยาปฏิชีวนะอยู่ เลี่ยงด่วนเลยอาหาร 5 อย่างนี้
เคยได้ยินไหมคะว่าห้ามกินยาบางอย่างพร้อมกับเครื่องดื่มบางชนิด เพราะเครื่องดื่มเหล่านั้นอาจไปลดทอนความสามารถของตัวยา ทำให้ร่างกายได้รับการรักษาจากยาแบบตก ๆ หล่น ๆ ซึ่งนอกจากเครื่องดื่มบางชนิดแล้ว ยังมีอาหารอีกบางส่วนตามที่ Health Me Up เขาเตือนมาว่า ถ้ากินยาปฏิชีวนะอยู่ เลี่ยงด่วนเลยอาหาร 5 อย่างนี้
1. อาหารและเครื่องดื่มที่มีกรดผสมอยู่
อาหารและเครื่องดื่ม เช่น ผลไม้รสเปรี้ยว, ช็อกโกแลต, น้ำอัดลม, โซดา และอาหารที่มีส่วนผสมของมะเขือเทศอย่างซอสมะเขือเทศ จะส่งผลให้ร่างกายดูดซึมเคมีจากตัวยาได้น้อยลง จากที่อาการป่วยจะหายเพราะยาเหล่านี้ เชื้อโรคและแบคทีเรียเลยได้ลอยนวลต่ออีกหน่อย
อาหารและเครื่องดื่ม เช่น ผลไม้รสเปรี้ยว, ช็อกโกแลต, น้ำอัดลม, โซดา และอาหารที่มีส่วนผสมของมะเขือเทศอย่างซอสมะเขือเทศ จะส่งผลให้ร่างกายดูดซึมเคมีจากตัวยาได้น้อยลง จากที่อาการป่วยจะหายเพราะยาเหล่านี้ เชื้อโรคและแบคทีเรียเลยได้ลอยนวลต่ออีกหน่อย
2. ผลิตภัณฑ์จากนม
แคลเซียม จากผลิตภัณฑ์ประเภทนมจะเข้าไปขัดขวางร่างกายให้ดูดซึมยาปฏิชีวนะได้อย่าง ลำบากมากยิ่งขึ้น แต่มีผลิตภัณฑ์จากนมเพียงอย่างเดียวที่สามารถกินร่วมกับการกินยาปฏิชีวนะได้ ซึ่งก็คือ โยเกิร์ต นั่นเองค่ะ เพราะโยเกิร์ตเป็นผลิตภัณฑ์จากนมที่มีโพรไบโอติกส์อยู่ และโพรไบโอติกส์ตัวนี้นี่แหละที่จะช่วยกระตุ้นให้กระเพาะผลิตแบคทีเรียชนิดดีออกมาต่อสู้กับเชื้อโรคร้าย สาเหตุของอาการป่วยกระเสาะกระแสะ อีกทั้งโพรไบโอติกส์ยังช่วยป้องกันอาการท้องเสียซึ่งเป็นผลข้างเคีียงจากการกินยาปฏิชีวนะในบางคนได้ด้วย
แคลเซียม จากผลิตภัณฑ์ประเภทนมจะเข้าไปขัดขวางร่างกายให้ดูดซึมยาปฏิชีวนะได้อย่าง ลำบากมากยิ่งขึ้น แต่มีผลิตภัณฑ์จากนมเพียงอย่างเดียวที่สามารถกินร่วมกับการกินยาปฏิชีวนะได้ ซึ่งก็คือ โยเกิร์ต นั่นเองค่ะ เพราะโยเกิร์ตเป็นผลิตภัณฑ์จากนมที่มีโพรไบโอติกส์อยู่ และโพรไบโอติกส์ตัวนี้นี่แหละที่จะช่วยกระตุ้นให้กระเพาะผลิตแบคทีเรียชนิดดีออกมาต่อสู้กับเชื้อโรคร้าย สาเหตุของอาการป่วยกระเสาะกระแสะ อีกทั้งโพรไบโอติกส์ยังช่วยป้องกันอาการท้องเสียซึ่งเป็นผลข้างเคีียงจากการกินยาปฏิชีวนะในบางคนได้ด้วย
3. แคลเซียมและธาตุเหล็ก
แคลเซียมและธาตุเหล็กชนิดที่เป็นวิตามินเสริมสำหรับร่างกายเป็นอาหารที่ควรเลี่ยงในขณะที่รับประทานยาปฏิชีวนะเช่นกันค่ะ เพราะทั้งสองธาตุนี้อาจเข้าไปขัดขวางการดูดซึมยาปฏิชีวนะได้ ทว่าหากจำเป็นต้องรับธาตุเหล็กและแคลเซียมเพื่อบำรุงร่างกายจริง ๆ อย่างน้อยควรกินอาหารเสริมเหล่านี้หลังรับประทานยาปฏิชีวนะไปแล้ว 3 ชั่วโมง
แคลเซียมและธาตุเหล็กชนิดที่เป็นวิตามินเสริมสำหรับร่างกายเป็นอาหารที่ควรเลี่ยงในขณะที่รับประทานยาปฏิชีวนะเช่นกันค่ะ เพราะทั้งสองธาตุนี้อาจเข้าไปขัดขวางการดูดซึมยาปฏิชีวนะได้ ทว่าหากจำเป็นต้องรับธาตุเหล็กและแคลเซียมเพื่อบำรุงร่างกายจริง ๆ อย่างน้อยควรกินอาหารเสริมเหล่านี้หลังรับประทานยาปฏิชีวนะไปแล้ว 3 ชั่วโมง
4. อาหารที่มีไฟเบอร์สูง
อาหารที่อุดมไปด้วยไฟเบอร์ยังคงดีต่อสุขภาพของเราอยู่ค่ะ โดยเฉพาะกับคนที่อยู่ในช่วงไดเอต ทว่าหากคุณกำลังกินยาปฏิชีวนะก็ขอให้เลี่ยงอาหารที่มีไฟเบอร์สูงไปก่อน เนื่องจากอาหารที่อุดมไปด้วยไฟเบอร์เหล่านี้จะช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานอย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งไม่ทันใจตัวยาปฏิชีวนะเขาล่ะสิ ดังนั้นแทนที่ตัวยาจะถูกดูดซึมไปรักษาจุดนั้นจุดนี้ที่เกิดอาการป่วย ก็กลับต้องติดแหง็กอยู่ในกระบวนการย่อย ในขณะที่ฤทธิ์ของยาก็แผ่วลงทุกวินาที
อาหารที่อุดมไปด้วยไฟเบอร์ยังคงดีต่อสุขภาพของเราอยู่ค่ะ โดยเฉพาะกับคนที่อยู่ในช่วงไดเอต ทว่าหากคุณกำลังกินยาปฏิชีวนะก็ขอให้เลี่ยงอาหารที่มีไฟเบอร์สูงไปก่อน เนื่องจากอาหารที่อุดมไปด้วยไฟเบอร์เหล่านี้จะช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานอย่างค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งไม่ทันใจตัวยาปฏิชีวนะเขาล่ะสิ ดังนั้นแทนที่ตัวยาจะถูกดูดซึมไปรักษาจุดนั้นจุดนี้ที่เกิดอาการป่วย ก็กลับต้องติดแหง็กอยู่ในกระบวนการย่อย ในขณะที่ฤทธิ์ของยาก็แผ่วลงทุกวินาที
5. เครื่องดื่มแอลกออฮอล์
อันที่จริงแล้วแอลกอฮอล์ก็ไม่ได้ขัดขวางการทำงานของยาปฏิชีวนะซะทีเดียวหรอกนะคะ เพียงแต่ว่าแอลกอฮอล์จะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ก่อให้เกิดแผลในกระเพาะและอาการคลื่นเหียนเวียนศีรษะ และที่แน่นอนเลยก็คือ แอลกอฮอล์เป็นสาเหตุให้เรานอนไม่ค่อยหลับ ดังนั้นหากต้องกินยาปฏิชีวนะเพื่อรักษาอาการป่วยอยู่ละก็ ทางที่ดีงดดื่มไปสักพักก่อนดีกว่า เอาไว้ร่างกายฟิตเปรี๊ยะเมื่อไรค่อยว่ากัน
อันที่จริงแล้วแอลกอฮอล์ก็ไม่ได้ขัดขวางการทำงานของยาปฏิชีวนะซะทีเดียวหรอกนะคะ เพียงแต่ว่าแอลกอฮอล์จะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ก่อให้เกิดแผลในกระเพาะและอาการคลื่นเหียนเวียนศีรษะ และที่แน่นอนเลยก็คือ แอลกอฮอล์เป็นสาเหตุให้เรานอนไม่ค่อยหลับ ดังนั้นหากต้องกินยาปฏิชีวนะเพื่อรักษาอาการป่วยอยู่ละก็ ทางที่ดีงดดื่มไปสักพักก่อนดีกว่า เอาไว้ร่างกายฟิตเปรี๊ยะเมื่อไรค่อยว่ากัน
นอกจากการรับประทานยาปฏิชีวนะรักษาอาการป่วย และพยายามหลีกเลี่ยงอาหาร 5 ชนิดที่เตือนไปแล้ว หากคุณกำลังป่วยอยู่ก็ควรพักผ่อนให้เต็มที่ จะได้หายป่วยไว ๆ เนอะ
แหล่งที่มา http://health.kapook.com/view121227.html
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
No comments:
Post a Comment