Sunday, March 1, 2015

วิธีอดอาหารโดยกินแต่ผลไม้




ผักนั้นอาจจะมีรสชาติที่จืดชืดและไม่อร่อยสำหรับใครหลายๆ คน หากไม่นำไปปรุงรสชาติให้ดีขึ้น แต่ผลไม้นั้นเราสามารถกินเปล่าๆ โดยที่ไม่ต้องนำไปปรุงกับอะไรเลย ก็สามารถกินได้อย่างเอร็ดอร่อย

ถึงแม้ว่าผลไม้จะมีประโยชน์ต่อสุขภาพเนื่องจากมีวิตามินเยอะ แต่ผลไม้บางชนิดก็มีน้ำตาลสูง โดยเฉพาะผลไม้สุกไม่ว่าจะเป็น มะม่วงสุก มะละกอสุก ซึ่งผลไม้เหล่านี้เป็นผลไม้ที่มีรสหวานทำให้เมื่อกินไปแล้วก็เปล่าประโยชน์เพราะว่าเราก็ยังได้รับน้ำตาลเข้าสู่ร่างกายอยู่ดี

ดังนั้น แม้ว่าการกินผลไม้จะเป็นวิธีการลดน้ำหนักที่ได้ผล แต่เราก็ควรเลือกชนิดของผลไม้และช่วงเวลาสักนิด เพราะนอกจากน้ำตาลแล้ว บางทีผลไม้บางชนิดก็มีส่วนประกอบของแป้งผสมอยู่ด้วย
 

ผลไม้ที่ให้พลังงานต่ำและเหมาะสำหรับการลดน้ำหนัก ได้แก่
 
ฝรั่ง

คงไม่มีใครไม่รู้จักฝรั่ง เพราะว่าเป็นผลไม้พื้นบ้านของไทยที่ราคาถูก หากินง่าย และมีหลากหลายพันธุ์
มีรสชาติที่หวานนิดๆ และกรอบอร่อย และที่สำคัญเหมาะกับคนที่กำลังอยู่ในช่วงลดความอ้วนเป็นที่สุด

ฝรั่ง 1 กิโลกรัม จะให้พลังงานเพียง 240 กิโลแคลอรีเท่านั้น ซึ่งถือว่าน้อยมาก จึงเหมาะที่สุดสำหรับการลดน้ำหนัก และถึงแม้ว่าฝรั่งจะเป็นผลไม้ที่มีแคลอรี่ต่ำเพียงใด แต่ก็ห้ามกินเกิน 3 กิโลกรัมต่อวัน และที่สำคัญไม่ควรจะกินควบคู่ไปกับเครื่องจิ้มต่างๆ เพราะเครื่องจิ้มเหล่านั้น มักจะมีส่วนผสมของน้ำตาลและเกลือ ซึ่งทำให้เราอ้วนได้

แตงโม

บางคนอาจจะกลัวการกินแตงโม เพื่อการลดความอ้วนเพราะแตงโมเป็นผลไม้ที่ค่อนข้างจะมีรสหวาน แต่ในความจริงนั้น แตงโมเป็นผลไม้ที่มีแคลอรี่น้อย 

แตงโม 1 กิโลกรัมจะให้พลังงานเพียง 60 กิโลแคลอรี่เท่านั้น ซึ่งแตงโมลูกขนาดย่อมๆ ก็น้ำหนักประมาณ 2 กิโลกรัม

สาเหตุที่แตงโมเป็นผลไม้ที่สามารถใช้ลดความอ้วนได้ดีก็เพราะเป็นผลไม้ที่มีน้ำมาก หรือประมาณ 93%ของส่วนประกอบทั้งหมด แต่ก็มีข้อเสียก็คือทำให้หิวเร็วและปัสสาวะบ่อยๆ


ส้ม

คนไทยเรามักจะคุ้นเคยกับผลไม้ประเภท "ส้ม" ดี ไม่ว่าจะเป็น ส้มเขียวหวาน ส้มสายน้ำผึ้ง ส้มบางมด
และก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่ชื่นชอบการกินส้มไม่ว่าจะเป็นแบบผลไม้ หรือในลักษณะของน้ำส้มคั้น

ความจริงถ้าจะกินส้มให้ได้ประโยชน์จริงๆ นั้น ควรจะกินทั้งกาก เพราะจะช่วยทำให้ระบายท้องได้ดี แม้ว่าส้มจะมีรสอร่อย แต่ส้มก็เป็นผลไม้ชนิดหนึ่งที่ให้ความหวานพอสมควร 

ส้ม 1 กิโลกรัม จะให้พลังงาน 340 กิโลแคลอรี่ ซึ่งถือว่าค่อนข้างจะมากสักหน่อยสำหรับการลดความอ้วน ฉะนั้นถ้าเราเลือกส้มเป็นผลไม้ที่กินเพื่อลดความอ้วน ก็ไม่ควรกินเกินวันละ 2 กิโลกรัม ไม่เช่นนั้นก็อาจจะไม่ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ

 
ชมพู่

ชมพู่เป็นผลไม้ที่มีหลากหลายพันธุ์ ซึ่งแต่ละพันธุ์ก็มีรสชาติ และความหวานอร่อยที่แตกต่างกันออกไป
ในเรื่องของการลดน้ำหนักหรือการควบคุมน้ำหนักนั้น แน่นอนว่า เราจะต้องเลือกชมพู่พันธุ์ที่หวานน้อยที่สุด เพื่อที่จะให้พลังงานน้อยที่สุด เพื่อการลดน้ำหนักอย่างได้ผลเป็นที่น่าพึงพอใจ
 
ชมพู่ที่หวานไม่มากไม่น้อยจนเกินไป 1 กิโลกรัม จะให้พลังงานประมาณ 120 กิโลแคลอรี่ ซึ่งคนปกตินั้น จะกินชมพู่ได้ประมาณ 3 กิโลกรัมต่อวัน แต่ถ้ากินได้มากกว่านั้นได้ก็ไม่เป็นไร แต่อย่างไรก็ดี ก็ไม่ควรกินเกินวันละ 6 กิโลกรัม

 
ผลไม้ อื่น ๆ

ความจริงก็มีผลไม้อื่นๆ ที่มีไว้สำหรับลดความอ้วนเหมือนกัน แม้ว่าผลไม้ที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้จะเป็นผลไม้ที่ค่อนข้างจะให้พลังงานสูง แต่เราก็สามารถที่จะนำมากินได้ในปริมาณที่พอดี
 
ผลไม้อื่นๆ ที่นำมากินได้เมี่อเราอดอาหารชนิดอื่นก็ได้แก่

กล้วยน้ำว้า

  
(ไม่เกินหนึ่งหวีครึ่งต่อวัน)

กล้วยหอม 


(ไม่เกินครึ่งหวีต่อวัน)

กล้วยไข่


(ไม่เกินหนึ่งหวีครึ่งต่อวัน)

ขนุนแกะเม็ด 


(ไม่เกิน 7 ขีดต่อวัน)

ผลไม้ประเภทกล้วยนี้เป็นผลไม้ที่มีเกลือแร่ต่างๆ เพื่อเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง นอกจากให้พลังงานแล้วยังให้สารอาหารอื่นๆ กับร่างกายของเราอีกด้วย

แหล่งที่มา:  http://www.allfashion.in.th


No comments:

Post a Comment