ช่วงนี้มีสตรอเบอร์รี่ออกมาวางขายมากมาย เจ้าผลไม้หน้ากระจุ๋มกระจิ๋มสีสันสดใสนี้นอกจากจะกินอร่อยแล้ว
ยังอุดมไปด้วยประโยชน์ทั้งสารต้านอนุมูลอิสระ สารอาหารต่าง ๆ ตั้งแต่โฟเลต วิตามินซี แคลเซียม แมกนีเซียม
โปรแตสเซียม ไฟโตนิวเทรียนท์ ไฟเบอร์ ฟลาโวนอยด์ กรดฟีโนลิก กรดเอลลาจิก ฯลฯ
สตรอเบอร์รี จึงเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพด้วยสรรพคุณที่เกินพิกัด...
1. ช่วยล้างพิษที่สะสมในร่างกาย เช่น กรดยูริก สาเหตุสำคัญของโรคข้ออักเสบและโรคเกาท์
2. ช่วยให้ห่างไกลโรคต่าง ๆ ทั้งโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง มะเร็งลำไส้ นิ่วในไต สีแดงสดของสตรอเบอร์รีล้วนอุดมไปด้วยซูเปอร์ไฟเบอร์เพคติน และยังช่วยลดคอเลสเตอรอลและช่วยเคลือบทางเดินอาหารอีกด้วย
3. ช่วยส่งเสริมการทำงานของสมองโดยสารต้านอนุมูลอิสระ จะช่วยฟื้นคืนความอ่อนเยาว์ให้กับระบบประสาท
4. ช่วยดูแลสายตา สารต้านอนุมูลอิสระในสตรอเบอร์มีส่วนช่วยชะลอขบวนการเสื่อมสภาพของดวงตาได้
1. ช่วยล้างพิษที่สะสมในร่างกาย เช่น กรดยูริก สาเหตุสำคัญของโรคข้ออักเสบและโรคเกาท์
2. ช่วยให้ห่างไกลโรคต่าง ๆ ทั้งโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง มะเร็งลำไส้ นิ่วในไต สีแดงสดของสตรอเบอร์รีล้วนอุดมไปด้วยซูเปอร์ไฟเบอร์เพคติน และยังช่วยลดคอเลสเตอรอลและช่วยเคลือบทางเดินอาหารอีกด้วย
3. ช่วยส่งเสริมการทำงานของสมองโดยสารต้านอนุมูลอิสระ จะช่วยฟื้นคืนความอ่อนเยาว์ให้กับระบบประสาท
4. ช่วยดูแลสายตา สารต้านอนุมูลอิสระในสตรอเบอร์มีส่วนช่วยชะลอขบวนการเสื่อมสภาพของดวงตาได้
5. ช่วยลดความอ้วน สตรอเบอร์รีคือผลไม้เพื่อการลดน้ำหนักที่สุดแสนจะเพอร์เฟ็กต์
เพราะปริมาณ 1
ถ้วยให้พลังงานเพียง 49 แคลอรี เท่านั้น และยังอุดมด้วยไฟเบอร์ช่วยให้อิ่มท้องและช่วยระบบการขับถ่าย
6. ช่วยดูแลสุขภาพเหงือกและฟัน ช่วยรักษาแผลในปาก ช่วยดับกลิ่นปาก ทำให้ลมหายใจสดชื่น
7. ใบสดของสตรอเบอร์รี ยังสามารถนำมาโขลกแล้วนำไปประคบ ช่วยลดอาการอักเสบและบวมช้ำได้อีกด้วย
ถ้าจะให้ได้ประโยชน์จากสตรอเบอร์รีอย่างสูงสุด ควรรับประทานแบบสดแทนที่จะเป็นแบบแยม เพราะนอกจากจะไม่ได้ประโยชน์อะไร เป็นชิ้นเป็นอันแล้ว ยังจะได้น้ำตาลตัวร้ายต่อสุขภาพเป็นของแถม
6. ช่วยดูแลสุขภาพเหงือกและฟัน ช่วยรักษาแผลในปาก ช่วยดับกลิ่นปาก ทำให้ลมหายใจสดชื่น
7. ใบสดของสตรอเบอร์รี ยังสามารถนำมาโขลกแล้วนำไปประคบ ช่วยลดอาการอักเสบและบวมช้ำได้อีกด้วย
ถ้าจะให้ได้ประโยชน์จากสตรอเบอร์รีอย่างสูงสุด ควรรับประทานแบบสดแทนที่จะเป็นแบบแยม เพราะนอกจากจะไม่ได้ประโยชน์อะไร เป็นชิ้นเป็นอันแล้ว ยังจะได้น้ำตาลตัวร้ายต่อสุขภาพเป็นของแถม
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
Hair, http://health.kapook.com/view37378.html
No comments:
Post a Comment