เศรษฐกิจแบบนี้จะขยับตัวทำอะไรก็ ต้องรัดเข็มขัดกระเป๋าสตางค์กันให้ดี
ๆ ฟุ่มเฟือยไปเรื่อยอาจจะกระเป๋าฉีกเอาได้ง่าย ๆ เนอะ แต่ถึงแม้จะประหยัดกันแค่ไหน
บางครั้งก็ยังเผลอกินอาหารเหลือกันบ้างล่ะ ไม่เป็นไรค่ะ
เพราะเราสามารถนำอาหารที่กินเหลือมาทำประโยชน์ต่อไปได้อีก อย่างผลไม้หรือแม้กระทั่งเปลือกของผักและผลไม้เองก็สามารถนำมาทำประโยชน์ได้
อีกหลายอย่างเลย เอาล่ะ ! มาดูกันดีกว่า ว่าเราจะนำเปลือกผักและเปลือกผลไม้ไปทำอะไรได้บ้างน้า
1. กำจัดคราบสกปรก
หลังจากบีบมะนาวปรุงรสอาหารกันไปเรียบร้อยแล้ว อย่าเพิ่งทิ้งซีกมะนาวลงถังขยะนะคะ เพราะเราจะนำมาขัดทำความสะอาดคราบเปื้อนในครัวกัน เริ่มแรกก็โรยเกลือหรือเบกกิ้งโซดาลงไปบนคราบก่อน จากนั้นก็ใช้เปลือกมะนาวครึ่งซีกขัดถูคราบสกปรกได้เลย ขัดจนคราบสกปรกหลุดออกจนหมด แล้วก็ใช้ฟองน้ำชุบน้ำเช็ดทำความสะอาดอีกที แต่วิธีนี้มีข้อแม้ว่าห้ามใช้กับพื้นผิวอ่อนบาง เช่น พื้นหินอ่อนเด็ดขาดเลยนะจ๊ะ
2. ทำความสะอาดหม้อต้มกาแฟ
หม้อต้มกาแฟที่ผ่านการใช้งานมายาวนาน คงจะมีคราบกาแฟติดอยู่ไม่น้อย และคราบกาแฟเหล่านี้ก็กำจัดออกยากด้วยสิ แต่ถึงจะยากแค่ไหนก็ยังพอมีวิธีทำความสะอาดค่ะ เพียงแค่ใส่ก้อนน้ำแข็งลงไปในหม้อต้มกาแฟ ตามด้วยเกลือ และเปลือกมะนาวหลาย ๆ ซีก ครบถ้วนแล้วก็จัดการเขย่าหม้อต้มกาแฟให้สนุกไปเลย วนไปวนมาให้ส่วนผสมที่ใส่ลงไปกลั้วหม้อต้มกาแฟให้ทั่วก็ดี เท่านี้หม้อต้มกาแฟก็จะกลับมาสะอาดใสไร้คราบแล้วล่ะ
3. ขจัดคราบชา
กาต้มชาที่มีคราบชาติดอยู่เต็มไปหมดก็กำจัดคราบเหล่านี้ได้ไม่ยาก เริ่มแรกให้เติมน้ำสะอาดลงไปในกาต้มชาให้เต็ม ตามด้วยเปลือกมะนาว 1 กำมือ เสร็จแล้วก็จัดการต้มให้น้ำเดือด พอเดือดจัดก็ถอดปลั๊ก ปล่อยให้เย็นอีก 1 ชั่วโมง เสร็จแล้วเทน้ำออก แล้วก็นำไปล้างให้สะอาดด้วยวิธีปกติ
4. ย้อมผ้า
หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าเปลือกทับทิมเป็นส่วนประกอบสำคัญของการย้อมผ้าอย่าง หนึ่งเลย วิธีทำก็ไม่ยาก แค่หาหม้อต้มขนาดใหญ่พอที่จะใส่ผ้าได้ทั้งตัว นำมาตั้งไฟ ต้มน้ำให้เดือด ใส่เปลือกทับทิมลงไปเยอะ ๆ หน่อย ต้มจนเดือดอีกครั้งแล้วก็ทิ้งไว้ข้ามคืน วันต่อมาให้เคี่ยวน้ำที่ต้มเอาไว้อีกรอบ จนได้สีที่ต้องการ ก็ช้อนกากเปลือกทับทิมออก แล้วใส่ผ้าที่ต้องการย้อมเข้าไปแทน ก่อนจะใส่ผ้าลงไปให้นำไปชุบน้ำให้ชื้นด้วย จากนั้นก็ตั้งเคี่ยวต่อไปอีก 1 ชั่วโมง แล้วก็ปิดไฟ ตั้งทิ้งไว้อีก 1 คืน วันรุ่งขึ้นค่อยนำผ้าออกมาซักด้วยน้ำเย็น ช่วงแรก ๆ อาจจะมีสีตกอยู่บ้าง ฉะนั้นควรจะแยกผ้าซักด้วยนะคะ
5. ทำน้ำสต็อกผัก
เราสามารถทำน้ำสต็อกจากเปลือกผลไม้ได้ด้วย โดยนำเปลือกมันฝรั่ง หอมใหญ่ เปลือกแครอท และเปลือกผลไม้อื่นๆ มาต้มจนเดือด เท่านี้ก็จะได้น้ำสต็อกผักเอาไว้ปรุงอาหารกันแล้ว เหมาะกับช่วงกินเจสุด ๆ เลยเนอะ
เราสามารถทำน้ำสต็อกจากเปลือกผลไม้ได้ด้วย โดยนำเปลือกมันฝรั่ง หอมใหญ่ เปลือกแครอท และเปลือกผลไม้อื่นๆ มาต้มจนเดือด เท่านี้ก็จะได้น้ำสต็อกผักเอาไว้ปรุงอาหารกันแล้ว เหมาะกับช่วงกินเจสุด ๆ เลยเนอะ
6. เพิ่มความกรอบให้มันฝรั่งอบ
ถ้าอยากกินมันฝรั่งอบแบบกรอบนอกนุ่มในให้ผสมน้ำมะนาวกับน้ำมันมะกอกเข้าด้วย กัน แล้วก็นำมาราดเปลือกมันฝรั่งให้ทั่ว ใช้มีดปาดมันฝรั่งออกเล็กน้อย แล้วก็นำไปอบในเตาอบที่อุณภูมิ 400 องศา รอจนมันฝรั่งสุกจนมีสีน้ำตาลอ่อน ๆ ก็นำออกมารับประทานได้เลยจ้า
ถ้าอยากกินมันฝรั่งอบแบบกรอบนอกนุ่มในให้ผสมน้ำมะนาวกับน้ำมันมะกอกเข้าด้วย กัน แล้วก็นำมาราดเปลือกมันฝรั่งให้ทั่ว ใช้มีดปาดมันฝรั่งออกเล็กน้อย แล้วก็นำไปอบในเตาอบที่อุณภูมิ 400 องศา รอจนมันฝรั่งสุกจนมีสีน้ำตาลอ่อน ๆ ก็นำออกมารับประทานได้เลยจ้า
7. ป้องกันความชื้นในโหลน้ำตาล
คุณแม่บ้านคงเจอปัญหาน้ำตาลติดก้นขวดเพราะความชื้นกันบ่อย ๆ แต่ต่อไปนี้ไม่ต้องทนหงุดหงิดกับปัญหานี้อีกต่อไปแล้วล่ะ เพราะเพียงแค่ใส่เปลือกมะนาวลงไปในโหลน้ำตาล เท่านี้ก็จะช่วยไล่ความชื้นในโหลน้ำตาลได้หมดจด
8. ทำผงสกัดจากมะนาวหรือส้ม
เปลือกส้มหรือเปลือกมะนาวที่เหลืออยู่ในครัว ให้นำไปตากแห้งประมาณ 3-4 วัน จากนั้นก็นำมาบดหรือปั่นให้เป็นผงละเอียด แล้วก็เก็บเอาไว้ในขวดสะอาด เอาไว้โรยอาหารที่อยากได้กลิ่นส้ม กลิ่นมะนาว หรือจะเอาใส่ถุงแล้วไปเก็บในตู้เสื้อผ้า เพื่อลดกลิ่นอับก็ได้ค่ะ
นอกจากประโยชน์เหล่านี้แล้ว ผลไม้และเปลือกผลไม้ชนิดอื่น รวมไปถึงเศษอาหารต่าง ๆ ก็สามารถนำมาทำปุ๋ยหมัก เอาไว้บำรุงต้นไม้ ดอกไม้ และพืชผักในสวนของเราให้งอกงามได้อีกด้วยนะคะ เห็นไหมล่ะว่ายังมีอีกตั้งหลายวิธีที่จะนำของเหลือใช้มาเพิ่มประโยชน์ให้ คุ้มค่าได้อีกครั้ง
เครดิตภาพ http://beautyinbirmingham.com/2015/10/13/how-to-eat-fruit-what-you-never-knew/
No comments:
Post a Comment