ผู้ชายที่ดีมักจะเคารพสิทธิ ให้เกียรติ และรักในสิ่งที่คุณเป็น ซึ่งในจุดนี้มันอาจทำให้คุณรู้สึกอยากตอบแทนสิ่งเหล่านั้น
โดยการทำให้เขาพึงพอใจและมีความสุขในระหว่างที่คบกัน มันก็ไม่ใช่เรื่องผิดหากจะคิดแบบนี้
แต่ทว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณตามใจเขามากเกินไป มันย่อมเกิดปัญหาตามมาเสมอ อย่างเช่น
เขาเอาแต่ใจตัวเองมากขึ้น หรือติดความสบายจนเสียนิสัย ถ้าคุณไม่อยากให้เกิดปัญหาแบบนี้ก็เริ่มหยุดตัวเองไม่ให้ตามใจแฟนมากเกินไป
ด้วย 8 ต่อไปนี้
1. ไม่ควรยกเลิกนัดอื่นเพื่อเขา
หากคุณมีนัดสำคัญกับครอบครัวหรือเพื่อน แต่ปรากฏว่าต่อจากนั้นไม่นานเขาก็ชวนคุณออกไปเที่ยวในวันและเวลาเดียวกัน หากเจอทางเลือกแบบนี้ คุณควรจะทำตามแผนเดิมที่วางเอาไว้ ถึงแม้การอยู่เคียงข้างเขาจะเป็นสิ่งสำคัญ และเป็นสิ่งที่คนรักที่ดีต้องทำไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ ก็ขอยกเว้นเอาไว้สักกรณี ก่อนที่คุณจะสูญเสียคนรอบข้างไปเพราะความรักที่ยังไม่แน่ไม่นอน
2. ไม่เห็นผิดเป็นถูก
การอยู่เคียงข้างคนรัก คอยสนับสนุน และเป็นกำลังใจให้กับเขาจะเป็นสิ่งที่คนรักกันพึงทำ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาทำผิดพลาด หรือเขาผิดสัญญากับคุณแม้จะเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ในเวลาแบบนี้ก็ควรจะพูดให้เขารู้สึกบ้างว่า สิ่งที่เขาทำมันทำให้คุณรู้สึกไม่มีความสุขอย่างไรบ้าง โดยตั้งอยู่บนเหตุและผลเป็นสำคัญไม่ใช่ใช้อารมณ์เพียงอย่างเดียว ไม่เช่นนั้นอาจทำให้เรื่องบานปลายกันไปใหญ่
3. ให้เขาช่วยทำงานบ้านเป็นครั้งคราว
คนส่วนใหญ่อาจจะมองว่าเรื่องงานบ้านงานครัว เป็นหน้าที่ที่ผู้หญิงจะต้องรับผิดชอบ แต่คุณก็มีสิทธิ์มีเสียงเรียกร้องให้เขาช่วยในส่วนนี้ได้เช่นกัน เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณรู้สึกว่ามันมากหรือหนักเกินกว่าที่จะสามารถรับมือคนเดียวได้ ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้พวกคุณจะแบ่งหน้าที่ให้แก่กันและกันเรียบร้อยแล้วก็ตาม เพราะอย่าลืมสิว่าเป็นคนรักกันก็ควรช่วยเหลือกัน
4. หยุดกังวลว่าเขาจะคิดอย่างไรกับสิ่งที่คุณทำ
นิสัยอย่างหนึ่งที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ควรแก้ ก็คือ การคิดไปเองฝ่ายเดียวว่าหากทำแล้วจะทำให้เขารู้สึกไม่ดี ทั้ง ๆ ที่คุณยังไม่ได้ถาม ในขณะเดียวกันเขาก็ยังไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับมันเลยก็ได้ สุดท้ายก็เป็นคุณเองที่กังวล เครียด วิตกจริตไปเอง ดังนั้น ควรหยุดคิดแทนเขาและลงมือทำไปเลย หากเห็นว่ามันเป็นเรื่องดีและคุณเองก็ชอบ ที่สำคัญหากเขารักคุณมากพอก็จะต้องเข้าใจ พร้อมกับให้เกียรติคุณได้ทำในสิ่งเหล่านั้นด้วย
5. หยุดโทษตัวเอง
การทะเลาะเบาะแว้ง และการเข้าใจผิด ถือเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนมีความรักมาก ๆ เพราะสิ่งต่าง ๆ รอบตัวมันหลากหลาย ก็เลยส่งผลให้เกิดปัญหาได้ง่าย ๆ ตามมามากมาย ซึ่งเมื่อไหร่ก็ตามที่มันเกิดขึ้นย่อมไม่ใช่ความผิดของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแน่นอน ฉะนั้น คุณจึงควรหยุดโทษว่าเป็นความผิดของตัวเองได้แล้ว และเอาเวลาเหล่านั้นไปคิดหาทางออกดีกว่า
6. เรียนรู้การให้และรับ
ทุก ๆ ความสัมพันธ์ควรตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเชื่อใจ ความรัก และการดูแลเอาใจใส่ ดังนั้น ถ้าหากคุณเป็นคนที่ทำและให้อยู่ฝ่ายเดียว ควรหยุดทำมันเสียตั้งแต่ตอนนี้ และกลับมาดูแลตัวเองให้เต็มที่ดีกว่า เพราะหากเขารักคุณมากพอ เขาไม่มีทางปล่อยให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเด็ดขาด หรืออย่างน้อยเขาก็ต้องตอบแทนอะไรกลับมาบ้าง ถึงแม้จะไม่เท่าที่คุณให้ไปก็ตาม
7. ไม่ควรชดใช้หนี้สินแทนเขา
หากในตอนนี้เขามีหนี้สินที่ต้องชดใช้ และหลาย ๆ ครั้งคุณก็อยากจะยื่นมือเข้าไปช่วยเขา แต่คงจะดีกว่าหากคุณมีวิธีช่วยเหลือเขาทางอื่นแทนการให้เงินช่วยเหลือ อย่างเช่น ช่วยเขาทำงาน หรือหาวิธีอื่น ๆ ที่จะช่วยสร้างรายได้เพิ่มให้กับเขา ไม่อย่างนั้นเขาก็จะงอมืองอเท้าจนติดเป็นนิสัย หรือซ้ำร้ายกว่านั้นอาจสร้างหนี้สินเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพราะคิดว่ามีคุณคอยสนับสนุนตรงนี้อยู่แล้ว ก็เลยทำตามอำเภอใจโดยไม่คิดถึงความลำบากของคุณ
8. ไม่ควรผูกมัดกับสัญญามากเกินไป
ถึงแม้พวกคุณจะมีคำมั่นสัญญาต่อกัน แต่นั่นก็ไม่ใช่เหตุผลที่จะใช้ผูกมัดความรักเอาไว้ เพราะต่างคนต่างก็มีความคิดมีหัวจิตหัวใจเป็นของตัวเอง ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามเวลาเป็นเรื่องปกติ ฉะนั้น เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณรู้สึกว่าไม่สามารถทำตามสัญญาได้ ก็ควรจะพูดคุยกับเขาตรง ๆ หรือรู้สึกหากต้องเป็นฝ่ายผิดสัญญา ถ้ามีเหตุผลที่ดีมากพอ
เป็นคนรักก็ต้องช่วยเหลือ ดูแลซึ่งกันและกัน ก็เป็นเรื่องที่ถูกที่ควรแล้ว แต่ทั้งนี้คุณเองก็ต้องใช้วิจารณญาณด้วยว่ามันเหมาะสมหรือไม่ที่จะตามใจเขา เข้าข้างเขา เพราะไม่อย่างนั้นมันจะเป็นบ่อเกิดของการสะสมนิสัยด้านลบ ที่อาจนำไปสู่การเอาแต่ใจ จนคุณไม่สามารถแก้ไขอะไรได้อีกเลย ดังนั้น ก็ตัดปัญหาด้วยการขัดใจเขาบ้างตามที่คุณเห็นสมควรดีกว่า
1. ไม่ควรยกเลิกนัดอื่นเพื่อเขา
หากคุณมีนัดสำคัญกับครอบครัวหรือเพื่อน แต่ปรากฏว่าต่อจากนั้นไม่นานเขาก็ชวนคุณออกไปเที่ยวในวันและเวลาเดียวกัน หากเจอทางเลือกแบบนี้ คุณควรจะทำตามแผนเดิมที่วางเอาไว้ ถึงแม้การอยู่เคียงข้างเขาจะเป็นสิ่งสำคัญ และเป็นสิ่งที่คนรักที่ดีต้องทำไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์ ก็ขอยกเว้นเอาไว้สักกรณี ก่อนที่คุณจะสูญเสียคนรอบข้างไปเพราะความรักที่ยังไม่แน่ไม่นอน
2. ไม่เห็นผิดเป็นถูก
การอยู่เคียงข้างคนรัก คอยสนับสนุน และเป็นกำลังใจให้กับเขาจะเป็นสิ่งที่คนรักกันพึงทำ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาทำผิดพลาด หรือเขาผิดสัญญากับคุณแม้จะเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ในเวลาแบบนี้ก็ควรจะพูดให้เขารู้สึกบ้างว่า สิ่งที่เขาทำมันทำให้คุณรู้สึกไม่มีความสุขอย่างไรบ้าง โดยตั้งอยู่บนเหตุและผลเป็นสำคัญไม่ใช่ใช้อารมณ์เพียงอย่างเดียว ไม่เช่นนั้นอาจทำให้เรื่องบานปลายกันไปใหญ่
3. ให้เขาช่วยทำงานบ้านเป็นครั้งคราว
คนส่วนใหญ่อาจจะมองว่าเรื่องงานบ้านงานครัว เป็นหน้าที่ที่ผู้หญิงจะต้องรับผิดชอบ แต่คุณก็มีสิทธิ์มีเสียงเรียกร้องให้เขาช่วยในส่วนนี้ได้เช่นกัน เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณรู้สึกว่ามันมากหรือหนักเกินกว่าที่จะสามารถรับมือคนเดียวได้ ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้พวกคุณจะแบ่งหน้าที่ให้แก่กันและกันเรียบร้อยแล้วก็ตาม เพราะอย่าลืมสิว่าเป็นคนรักกันก็ควรช่วยเหลือกัน
4. หยุดกังวลว่าเขาจะคิดอย่างไรกับสิ่งที่คุณทำ
นิสัยอย่างหนึ่งที่ผู้หญิงส่วนใหญ่ควรแก้ ก็คือ การคิดไปเองฝ่ายเดียวว่าหากทำแล้วจะทำให้เขารู้สึกไม่ดี ทั้ง ๆ ที่คุณยังไม่ได้ถาม ในขณะเดียวกันเขาก็ยังไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับมันเลยก็ได้ สุดท้ายก็เป็นคุณเองที่กังวล เครียด วิตกจริตไปเอง ดังนั้น ควรหยุดคิดแทนเขาและลงมือทำไปเลย หากเห็นว่ามันเป็นเรื่องดีและคุณเองก็ชอบ ที่สำคัญหากเขารักคุณมากพอก็จะต้องเข้าใจ พร้อมกับให้เกียรติคุณได้ทำในสิ่งเหล่านั้นด้วย
5. หยุดโทษตัวเอง
การทะเลาะเบาะแว้ง และการเข้าใจผิด ถือเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนมีความรักมาก ๆ เพราะสิ่งต่าง ๆ รอบตัวมันหลากหลาย ก็เลยส่งผลให้เกิดปัญหาได้ง่าย ๆ ตามมามากมาย ซึ่งเมื่อไหร่ก็ตามที่มันเกิดขึ้นย่อมไม่ใช่ความผิดของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแน่นอน ฉะนั้น คุณจึงควรหยุดโทษว่าเป็นความผิดของตัวเองได้แล้ว และเอาเวลาเหล่านั้นไปคิดหาทางออกดีกว่า
6. เรียนรู้การให้และรับ
ทุก ๆ ความสัมพันธ์ควรตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเชื่อใจ ความรัก และการดูแลเอาใจใส่ ดังนั้น ถ้าหากคุณเป็นคนที่ทำและให้อยู่ฝ่ายเดียว ควรหยุดทำมันเสียตั้งแต่ตอนนี้ และกลับมาดูแลตัวเองให้เต็มที่ดีกว่า เพราะหากเขารักคุณมากพอ เขาไม่มีทางปล่อยให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเด็ดขาด หรืออย่างน้อยเขาก็ต้องตอบแทนอะไรกลับมาบ้าง ถึงแม้จะไม่เท่าที่คุณให้ไปก็ตาม
7. ไม่ควรชดใช้หนี้สินแทนเขา
หากในตอนนี้เขามีหนี้สินที่ต้องชดใช้ และหลาย ๆ ครั้งคุณก็อยากจะยื่นมือเข้าไปช่วยเขา แต่คงจะดีกว่าหากคุณมีวิธีช่วยเหลือเขาทางอื่นแทนการให้เงินช่วยเหลือ อย่างเช่น ช่วยเขาทำงาน หรือหาวิธีอื่น ๆ ที่จะช่วยสร้างรายได้เพิ่มให้กับเขา ไม่อย่างนั้นเขาก็จะงอมืองอเท้าจนติดเป็นนิสัย หรือซ้ำร้ายกว่านั้นอาจสร้างหนี้สินเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพราะคิดว่ามีคุณคอยสนับสนุนตรงนี้อยู่แล้ว ก็เลยทำตามอำเภอใจโดยไม่คิดถึงความลำบากของคุณ
8. ไม่ควรผูกมัดกับสัญญามากเกินไป
ถึงแม้พวกคุณจะมีคำมั่นสัญญาต่อกัน แต่นั่นก็ไม่ใช่เหตุผลที่จะใช้ผูกมัดความรักเอาไว้ เพราะต่างคนต่างก็มีความคิดมีหัวจิตหัวใจเป็นของตัวเอง ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามเวลาเป็นเรื่องปกติ ฉะนั้น เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณรู้สึกว่าไม่สามารถทำตามสัญญาได้ ก็ควรจะพูดคุยกับเขาตรง ๆ หรือรู้สึกหากต้องเป็นฝ่ายผิดสัญญา ถ้ามีเหตุผลที่ดีมากพอ
เป็นคนรักก็ต้องช่วยเหลือ ดูแลซึ่งกันและกัน ก็เป็นเรื่องที่ถูกที่ควรแล้ว แต่ทั้งนี้คุณเองก็ต้องใช้วิจารณญาณด้วยว่ามันเหมาะสมหรือไม่ที่จะตามใจเขา เข้าข้างเขา เพราะไม่อย่างนั้นมันจะเป็นบ่อเกิดของการสะสมนิสัยด้านลบ ที่อาจนำไปสู่การเอาแต่ใจ จนคุณไม่สามารถแก้ไขอะไรได้อีกเลย ดังนั้น ก็ตัดปัญหาด้วยการขัดใจเขาบ้างตามที่คุณเห็นสมควรดีกว่า
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
No comments:
Post a Comment