มีของใช้ไม่กี่ชิ้นที่เป็นของใช้ส่วนตัวของเราจริง
ๆ ชนิดที่ใครหน้าไหนก็มาใช้ร่วมกับเราไม่ได้ ซึ่งสาเหตุหลัก ๆ ก็คงจะเป็นเรื่องของสุขอนามัย
และความสะอาดนั่นเอง แต่บางคนก็หวงของเพราะเป็นของรักของโปรด เป็นแรร์ไอเทมที่หาจากที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว
แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม เว็บไซต์ Huffington Post เขาก็แนะนำมาว่า 10 ของใช้ต่อไปนี้คุณควรหวงไว้สุด ๆ และอย่าได้แชร์ให้ใครใช้ร่วมเลยเชียว
1. สบู่ก้อน
เคยมีผลงานวิจัยเมื่อปี ค.ศ. 1988 และ ปี 2006 ที่เผยข้อมูลตรงกันว่า สบู่ก้อนเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคชั้นดี แถมยังเป็นแหล่งเชื้อโรคที่มนุษย์ไว้ใจ จนทำให้เชื้อโรคกระจายตัวมาสู่เราได้อย่างง่ายดาย เนื่องมาจากสบู่ก้อนมักจะถูกใช้ร่วมกันหลายมือ ทำให้สบู่มีความชื้นอยู่ตลอดเวลา ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย และอีกสารพัดสิ่งสกปรกมารวมตัวกันอยู่บนก้อนสบู่หอม ๆ ดูสะอาด ก้อนนี้ของเรา และทุกครั้งที่เราสัมผัสสบู่ หรือนำมาล้างมือ เชื้อโรคที่ลอยนวลอยู่บนสบู่ก็จะเกาะติดผิวเราหนึบหนับเลยล่ะค่ะ
เคยมีผลงานวิจัยเมื่อปี ค.ศ. 1988 และ ปี 2006 ที่เผยข้อมูลตรงกันว่า สบู่ก้อนเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคชั้นดี แถมยังเป็นแหล่งเชื้อโรคที่มนุษย์ไว้ใจ จนทำให้เชื้อโรคกระจายตัวมาสู่เราได้อย่างง่ายดาย เนื่องมาจากสบู่ก้อนมักจะถูกใช้ร่วมกันหลายมือ ทำให้สบู่มีความชื้นอยู่ตลอดเวลา ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย และอีกสารพัดสิ่งสกปรกมารวมตัวกันอยู่บนก้อนสบู่หอม ๆ ดูสะอาด ก้อนนี้ของเรา และทุกครั้งที่เราสัมผัสสบู่ หรือนำมาล้างมือ เชื้อโรคที่ลอยนวลอยู่บนสบู่ก็จะเกาะติดผิวเราหนึบหนับเลยล่ะค่ะ
2. หมวก และหวี
หมวกทุกชนิด และหวี หรือแปรงเป็นของใช้ที่ควรจะเป็นของส่วนตัวสุด ๆ เช่นกัน เพราะถ้าใช้ร่วมกันหลายคน หนังกำพร้าบริเวณหนังศีรษะ และรังแคคงปนกันมั่วไปหมด อย่างนี้โรคผิวหนังก็แพร่กระจายได้ตามสบายเลยนะคะ ดังนั้นคงดีกว่าถ้าจะใช้หมวก และหวีของใครของมันเอง
หมวกทุกชนิด และหวี หรือแปรงเป็นของใช้ที่ควรจะเป็นของส่วนตัวสุด ๆ เช่นกัน เพราะถ้าใช้ร่วมกันหลายคน หนังกำพร้าบริเวณหนังศีรษะ และรังแคคงปนกันมั่วไปหมด อย่างนี้โรคผิวหนังก็แพร่กระจายได้ตามสบายเลยนะคะ ดังนั้นคงดีกว่าถ้าจะใช้หมวก และหวีของใครของมันเอง
3. โรลออนระงับกลิ่นกาย
กลิ่นตัวของแต่ละคนมีต้นเหตุมาจากเชื้อแบคทีเรียที่ติดมากับเหงื่อ และโรลออนระงับกลิ่นกายก็เข้าไประงับเชื้อแบคทีเรียเหล่านี้ก่อนที่ร่างกายจะขับเหงื่อออกมา แต่ถึงแม้เวลาที่เราใช้โรลออนถูใต้วงแขน สิ่งที่ติดมาอาจจะไม่ใช่เชื้อแบคทีเรีย แต่ก็เป็นสะเก็ดผิวหนัง แป้ง และโลชั่นที่เราชโลมผิวลงไป ดังนั้นของแบบนี้อย่าใช้ร่วมกับใครเลยดีกว่า
กลิ่นตัวของแต่ละคนมีต้นเหตุมาจากเชื้อแบคทีเรียที่ติดมากับเหงื่อ และโรลออนระงับกลิ่นกายก็เข้าไประงับเชื้อแบคทีเรียเหล่านี้ก่อนที่ร่างกายจะขับเหงื่อออกมา แต่ถึงแม้เวลาที่เราใช้โรลออนถูใต้วงแขน สิ่งที่ติดมาอาจจะไม่ใช่เชื้อแบคทีเรีย แต่ก็เป็นสะเก็ดผิวหนัง แป้ง และโลชั่นที่เราชโลมผิวลงไป ดังนั้นของแบบนี้อย่าใช้ร่วมกับใครเลยดีกว่า
4. กรรไกรตัดเล็บ
เราไม่ควรใช้กรรไกรตัดเล็บร่วมกับใครอย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะกรรไกรตัดเล็บ และอุปกรณ์ตัดเล็บทุกชนิดในซาลอน เพราะเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่า กรรไกรตัดเล็บจะสะสมเชื้อโรคจากที่ไหนมาบ้าง ที่สำคัญเวลาที่เราตัดเล็บ เราอาจจะเผลองับเนื้อตัวเองไปด้วย เปิดโอกาสให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายเราได้อย่างง่ายดายเลยล่ะ
เราไม่ควรใช้กรรไกรตัดเล็บร่วมกับใครอย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะกรรไกรตัดเล็บ และอุปกรณ์ตัดเล็บทุกชนิดในซาลอน เพราะเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่า กรรไกรตัดเล็บจะสะสมเชื้อโรคจากที่ไหนมาบ้าง ที่สำคัญเวลาที่เราตัดเล็บ เราอาจจะเผลองับเนื้อตัวเองไปด้วย เปิดโอกาสให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายเราได้อย่างง่ายดายเลยล่ะ
5. มาสคาร่า และลิปสติก
ในกรณีนี้ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า หากเพื่อนของคุณมีอาการป่วยเป็นไข้หวัด หรือโรคตาอักเสบ และตาแดง ก็ไม่ควรให้เพื่อนยืมมาสคาร่า หรือลิปสติกแท่งโปรดของคุณไปใช้ เพราะคุณอาจจะติดเชื้อจากเขาได้ แต่โดยปกติแล้วเครื่องสำอางเกือบทุกชนิดที่ใส่วัตถุกันเสีย และเครื่องสำอางชนิดน้ำส่วนมาก มักจะสามารถใช้ร่วมกันได้ เพราะวัตถุกันเสียจะช่วยต้านเชื้อแบคทีเรีย ลดความเสี่ยงการติดเชื้อได้บางส่วนอยู่แล้ว
ในกรณีนี้ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า หากเพื่อนของคุณมีอาการป่วยเป็นไข้หวัด หรือโรคตาอักเสบ และตาแดง ก็ไม่ควรให้เพื่อนยืมมาสคาร่า หรือลิปสติกแท่งโปรดของคุณไปใช้ เพราะคุณอาจจะติดเชื้อจากเขาได้ แต่โดยปกติแล้วเครื่องสำอางเกือบทุกชนิดที่ใส่วัตถุกันเสีย และเครื่องสำอางชนิดน้ำส่วนมาก มักจะสามารถใช้ร่วมกันได้ เพราะวัตถุกันเสียจะช่วยต้านเชื้อแบคทีเรีย ลดความเสี่ยงการติดเชื้อได้บางส่วนอยู่แล้ว
6. มีดโกนหนวด
อย่าลืมว่า คนที่ใช้ของมีคมทุกชนิดย่อมมีโอกาสเสียเลือดให้ของชิ้นนั้น โดยที่โดนบาด หรือพลาดกรีดคมมีดเข้าเนื้อตัวเอง และเมื่อเป็นอย่างนี้ เราก็ไม่ควรเสี่ยงใช้ของมีคมอย่างมีดโกนหนวดร่วมกับใครทั้งสิ้น หรือแม้จะมั่นใจว่ามีดโกนชิ้นนั้นไม่เคยเปื้อนเลือดใครมาเลย แต่ยังไงมีดโกนหนวดก็เป็นของใช้ที่สัมผัสผิวของเราอย่างแนบชิดที่สุด ซึ่งไม่ว่าจะด้วยกรณีอะไร ก็ไม่ควรใช้มีดโกนร่วมกับใครอยู่ดีนะคะ
อย่าลืมว่า คนที่ใช้ของมีคมทุกชนิดย่อมมีโอกาสเสียเลือดให้ของชิ้นนั้น โดยที่โดนบาด หรือพลาดกรีดคมมีดเข้าเนื้อตัวเอง และเมื่อเป็นอย่างนี้ เราก็ไม่ควรเสี่ยงใช้ของมีคมอย่างมีดโกนหนวดร่วมกับใครทั้งสิ้น หรือแม้จะมั่นใจว่ามีดโกนชิ้นนั้นไม่เคยเปื้อนเลือดใครมาเลย แต่ยังไงมีดโกนหนวดก็เป็นของใช้ที่สัมผัสผิวของเราอย่างแนบชิดที่สุด ซึ่งไม่ว่าจะด้วยกรณีอะไร ก็ไม่ควรใช้มีดโกนร่วมกับใครอยู่ดีนะคะ
7. แก้วน้ำ และหลอดดูด
การใช้แก้วน้ำ หรือหลอดดูดร่วมกันก็ไม่ต่างอะไรกับการแลกเปลี่ยนน้ำลายซึ่งกันและกันเท่าไร ซึ่งพอพูดแบบนี้แล้วหลายคนก็เริ่มรู้สึกขยาดบ้างแล้วใช่ไหมล่ะ และทันตแพทย์ก็ยังชี้แจงเพิ่มเติมอีกด้วยว่า การสัมผัสน้ำลายของกันและกัน อาจเป็นสาเหตุของโรคคออักเสบ โรคเริม โรคคางทูม และเยื่อหุ้มสมองอักเสบได้ด้วยนะ
การใช้แก้วน้ำ หรือหลอดดูดร่วมกันก็ไม่ต่างอะไรกับการแลกเปลี่ยนน้ำลายซึ่งกันและกันเท่าไร ซึ่งพอพูดแบบนี้แล้วหลายคนก็เริ่มรู้สึกขยาดบ้างแล้วใช่ไหมล่ะ และทันตแพทย์ก็ยังชี้แจงเพิ่มเติมอีกด้วยว่า การสัมผัสน้ำลายของกันและกัน อาจเป็นสาเหตุของโรคคออักเสบ โรคเริม โรคคางทูม และเยื่อหุ้มสมองอักเสบได้ด้วยนะ
8. แปรงสีฟัน
แม้เราจะค่อนข้างแน่ใจว่า คงไม่มีใครใช้แปรงสีฟันร่วมกัน แต่ก็ยังอยากจะเตือนให้รู้กันสักหน่อยว่า เรื่องของช่องปากเป็นสิ่งที่ต้องระวังในทุกกรณี เพราะช่องปากแต่ละคนก็มีเชื้อโรค และแบคทีเรียสะสมอยู่มาก ซึ่งหากว่าคุณแชร์แปรงสีฟันร่วมกับใคร ก็แน่นอนว่า ขนแปรงสีฟันจะนำพาเชื้อโรคจากปากของคนอื่น เข้ามาในร่างกายของคุณ เปิดโอกาสให้คุณติดเชื้อโดยไม่ต้องสงสัยเลยล่ะค่ะ
แม้เราจะค่อนข้างแน่ใจว่า คงไม่มีใครใช้แปรงสีฟันร่วมกัน แต่ก็ยังอยากจะเตือนให้รู้กันสักหน่อยว่า เรื่องของช่องปากเป็นสิ่งที่ต้องระวังในทุกกรณี เพราะช่องปากแต่ละคนก็มีเชื้อโรค และแบคทีเรียสะสมอยู่มาก ซึ่งหากว่าคุณแชร์แปรงสีฟันร่วมกับใคร ก็แน่นอนว่า ขนแปรงสีฟันจะนำพาเชื้อโรคจากปากของคนอื่น เข้ามาในร่างกายของคุณ เปิดโอกาสให้คุณติดเชื้อโดยไม่ต้องสงสัยเลยล่ะค่ะ
9. ต่างหู
ต่างหูจัดว่าเป็นเครื่องประดับที่เข้าลึกไปถึงเนื้อหนังของเรา ดังนั้นจึงไม่สมควรใช้ร่วมกับใครทั้งนั้น เพราะแม้ว่าต่างหูจะไม่คมพอที่จะดื่มเลือดของเราได้ แต่เชื้อโรคและเชื้อแบคทีเรียที่สะสมอยู่ในต่างหู ก็อาจจะทำร้ายคุณได้ หากไม่ได้ทำความสะอาดต่างหูก่อนจะนำมาสวมใส่ และคงจะดีไม่น้อย หากคุณจะทำความสะอาดต่างหูของตัวเองให้หมดจด ก่อนจะนำมาสวมใส่นะจ๊ะ
ต่างหูจัดว่าเป็นเครื่องประดับที่เข้าลึกไปถึงเนื้อหนังของเรา ดังนั้นจึงไม่สมควรใช้ร่วมกับใครทั้งนั้น เพราะแม้ว่าต่างหูจะไม่คมพอที่จะดื่มเลือดของเราได้ แต่เชื้อโรคและเชื้อแบคทีเรียที่สะสมอยู่ในต่างหู ก็อาจจะทำร้ายคุณได้ หากไม่ได้ทำความสะอาดต่างหูก่อนจะนำมาสวมใส่ และคงจะดีไม่น้อย หากคุณจะทำความสะอาดต่างหูของตัวเองให้หมดจด ก่อนจะนำมาสวมใส่นะจ๊ะ
10. หูฟัง
เดี๋ยวนี้มองไปทางไหนก็มักจะเห็นคนเสียบหูฟังติดหูกันเป็นแถว ซึ่งผลการวิจัยเมื่อปี ค.ศ. 2008 ก็เผยว่า เคยมีรายงานคนไข้ติดเชื้อที่ช่องหูเพราะใช้หูฟังร่วมกับผู้อื่นมาแล้ว แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนเลยว่า เชื้อโรค และเชื้อไวรัสสามารถแพร่กระจายผ่านหูฟังได้ด้วย รู้อย่างนี้แล้วก็พยายามเลี่ยงการใช้หูฟังร่วมกับใครดีกว่าเนอะ หรือถ้าจำเป็นจริง ๆ ก็ต้องทำความสะอาดหูฟังให้ดีก่อนใช้งานด้วย
เดี๋ยวนี้มองไปทางไหนก็มักจะเห็นคนเสียบหูฟังติดหูกันเป็นแถว ซึ่งผลการวิจัยเมื่อปี ค.ศ. 2008 ก็เผยว่า เคยมีรายงานคนไข้ติดเชื้อที่ช่องหูเพราะใช้หูฟังร่วมกับผู้อื่นมาแล้ว แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนเลยว่า เชื้อโรค และเชื้อไวรัสสามารถแพร่กระจายผ่านหูฟังได้ด้วย รู้อย่างนี้แล้วก็พยายามเลี่ยงการใช้หูฟังร่วมกับใครดีกว่าเนอะ หรือถ้าจำเป็นจริง ๆ ก็ต้องทำความสะอาดหูฟังให้ดีก่อนใช้งานด้วย
อย่าง ไรก็ตาม เพื่อความปลอดภัยของสุขภาพของคุณเอง ก็ไม่ควรใช้ของส่วนตัวทั้ง 10 ชิ้นนี้ร่วมกับใครนะคะ ไม่อย่างนั้นอาจเสี่ยงติดเชื้อ ป่วยโดยไม่รู้ตัวกันเลยทีเดียว
เครดิตภาพ https://www.pinterest.com/pin/72339137735257821/
No comments:
Post a Comment