ล้างพิษให้ร่างกาย ไม่ใช่เรื่องที่ควรมองข้าม
สังเกตตัวเองให้ดี 9 สัญญาณเหล่านี้กำลังบอกว่าคุณต้องล้างพิษร่างกายอย่างด่วน
สารพิษที่ตกค้างอยู่ในอาหารหลายชนิดอาจไปสะสมอยู่ในร่างกาย และสร้างผลกระทบต่อสุขภาพอย่างมาก สัญญาณแรก ๆ ก็มักจะแสดงออกมาให้เห็นทางผิวหนัง และเส้นผม ได้อย่างชัดเจนเลยเชียวล่ะ ซึ่งถ้าเราไม่ล้างสารพิษเหล่านี้ออกจากร่างกาย บอกได้เลยว่าไม่ใช่เรื่องดีแน่ ๆ แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่า ร่างกายคุณต้องการล้างสารพิษเมื่อไร วันนี้กระปุกดอทคอมก็เลยขอหยิบเอา 9 สัญญาณของร่างกายที่เว็บไซต์ All woman talk บอกว่านั่นคือสิ่งที่กำลังบอกคุณว่าร่างกายต้องได้รับการล้างสารพิษแบบด่วน จี๋ ก่อนที่สารพิษที่สะสมในร่างกายจะทำร้ายสุขภาพจนคาดไม่ถึง ไปลองเช็คกันเลยค่ะ
1. ลดน้ำหนักไม่ลง
หากคุณรู้สึกว่าตัวเองไม่ว่าจะใช้วิธีไหนในการลดน้ำหนักก็ตาม ความพยายามนั้นก็ยังไม่เห็นผล นั่นแปลว่าในร่างกายของคุณกำลังเต็มไปด้วยสารพิษที่สะสมอยู่กับไขมันภายในร่างกาย ซึ่งสารพิษเหล่านี้มีชื่อว่าสารพิษลิโปฟิลิก (Lipophilic Toxin) การมีสารพิษนี้สะสมอยู่ในร่างกายมาก ๆ จะทำให้คุณพบกับความลำบากในการลดน้ำหนักแบบสุด ๆ เลยเชียวล่ะค่ะ
สารพิษที่ตกค้างอยู่ในอาหารหลายชนิดอาจไปสะสมอยู่ในร่างกาย และสร้างผลกระทบต่อสุขภาพอย่างมาก สัญญาณแรก ๆ ก็มักจะแสดงออกมาให้เห็นทางผิวหนัง และเส้นผม ได้อย่างชัดเจนเลยเชียวล่ะ ซึ่งถ้าเราไม่ล้างสารพิษเหล่านี้ออกจากร่างกาย บอกได้เลยว่าไม่ใช่เรื่องดีแน่ ๆ แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่า ร่างกายคุณต้องการล้างสารพิษเมื่อไร วันนี้กระปุกดอทคอมก็เลยขอหยิบเอา 9 สัญญาณของร่างกายที่เว็บไซต์ All woman talk บอกว่านั่นคือสิ่งที่กำลังบอกคุณว่าร่างกายต้องได้รับการล้างสารพิษแบบด่วน จี๋ ก่อนที่สารพิษที่สะสมในร่างกายจะทำร้ายสุขภาพจนคาดไม่ถึง ไปลองเช็คกันเลยค่ะ
1. ลดน้ำหนักไม่ลง
หากคุณรู้สึกว่าตัวเองไม่ว่าจะใช้วิธีไหนในการลดน้ำหนักก็ตาม ความพยายามนั้นก็ยังไม่เห็นผล นั่นแปลว่าในร่างกายของคุณกำลังเต็มไปด้วยสารพิษที่สะสมอยู่กับไขมันภายในร่างกาย ซึ่งสารพิษเหล่านี้มีชื่อว่าสารพิษลิโปฟิลิก (Lipophilic Toxin) การมีสารพิษนี้สะสมอยู่ในร่างกายมาก ๆ จะทำให้คุณพบกับความลำบากในการลดน้ำหนักแบบสุด ๆ เลยเชียวล่ะค่ะ
2. นอนไม่หลับ
เมื่อร่างกายเต็มไปด้วยสารพิษ ระดับคอร์ติซอลในร่างกายก็จะเกิดการเสียสมดุล ซึ่งฮอร์โมนคอร์ติซอลนี้ทำหน้าที่ในการควบคุมความเครียดและช่วยให้คุณหลับได้ง่ายขึ้น ซึ่งเมื่อเกิดการเสียสมดุลแล้วจะส่งผลกระทบต่อการนอนหลับอย่างมาก ทำให้คุณรู้สึกเหน็ดเหนื่อยแต่ก็นอนไม่หลับ หรือมีการนอนหลับที่ไม่ดีพอค่ะ
3. อ่อนเพลีย ไม่มีแรง
การนอนหลับอย่างเพียงพอถือเป็นวิธีที่จะช่วยทำให้ร่างกายสดชื่นในตอนเช้าได้ดีที่สุด แต่ถ้าหากว่าคุณนอนครบแปดชั่วโมงต่อคืนแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกอ่อนเพลียไม่มีเรี่ยวแรงอยู่อีกละก็ นั่นอาจจะเป็นสัญญาณว่าระดับสารพิษในร่างกายของคุณมีมากเกินไปแล้ว และรีบทำการล้างพิษเสีย เพราะสารพิษที่สะสมในร่างกายจะไปก่อกวนระบบการทำงานต่าง ๆ ในร่างกายจนทำให้เกิดการอ่อนเพลีย และทำให้ร่างกายไม่สามารถดึงพลังงานจากอาหารที่กินเข้าไปมาใช้ได้เท่าที่ควร
เมื่อร่างกายเต็มไปด้วยสารพิษ ระดับคอร์ติซอลในร่างกายก็จะเกิดการเสียสมดุล ซึ่งฮอร์โมนคอร์ติซอลนี้ทำหน้าที่ในการควบคุมความเครียดและช่วยให้คุณหลับได้ง่ายขึ้น ซึ่งเมื่อเกิดการเสียสมดุลแล้วจะส่งผลกระทบต่อการนอนหลับอย่างมาก ทำให้คุณรู้สึกเหน็ดเหนื่อยแต่ก็นอนไม่หลับ หรือมีการนอนหลับที่ไม่ดีพอค่ะ
3. อ่อนเพลีย ไม่มีแรง
การนอนหลับอย่างเพียงพอถือเป็นวิธีที่จะช่วยทำให้ร่างกายสดชื่นในตอนเช้าได้ดีที่สุด แต่ถ้าหากว่าคุณนอนครบแปดชั่วโมงต่อคืนแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกอ่อนเพลียไม่มีเรี่ยวแรงอยู่อีกละก็ นั่นอาจจะเป็นสัญญาณว่าระดับสารพิษในร่างกายของคุณมีมากเกินไปแล้ว และรีบทำการล้างพิษเสีย เพราะสารพิษที่สะสมในร่างกายจะไปก่อกวนระบบการทำงานต่าง ๆ ในร่างกายจนทำให้เกิดการอ่อนเพลีย และทำให้ร่างกายไม่สามารถดึงพลังงานจากอาหารที่กินเข้าไปมาใช้ได้เท่าที่ควร
4. ปวดหัวบ่อย ๆ
สารเติมแต่งอาหารอย่างเช่น แอสปาแตม (aspartame) และผงชูรส เป็นสารเติมแต่งอาหารที่มาพร้อมกับสารพิษตกค้าง อันเป็นสาเหตุของการปวดหัวแบบไม่มีสาเหตุ และเพราะสารเคมีในการเติมแต่งอาหารบางชนิดก็มีส่วนผสมของโลหะหนักด้วย และถ้าหากมีในร่างกายมากเกินไปก็จะไปกระตุ้นให้เกิดอาการปวดหัวบ่อย ๆ แบบไม่ทราบสาเหตุได้ ถ้ารู้สึกว่าเริ่มปวดหัวบ่อย ๆ ละก็ รีบล้างพิษตัวเองจะดีกว่านะ
5. นึกอะไรไม่ออก
ใครที่ยังคิดว่าสารให้ความหวานแทนน้ำตาลนั้นดีกว่าน้ำตาล รีบเปลี่ยนความคิดเสียเดี๋ยวนี้เลย เพราะสารให้ความหวานแทนน้ำตาลทุกชนิดส่งผลให้เกิดการตกค้างของสารพิษมากยิ่ง กว่าการรับประทานน้ำตาลเสียอีกค่ะ เพราะนอกจากจะตกค้างแล้วก็ยังทำให้เกิดระดับน้ำตาลที่แปรปรวน ส่งผลให้สมองทำงานผิดปกติแล้วคิดอะไรไม่ค่อยออก หรือรู้สึกสมองตื้อ และยิ่งถ้าหากแก้ปัญหาด้วยการดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูงเข้าไปอีกละก็จะ ยิ่งทำให้เกิดผลที่รุนแรงขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย
สารเติมแต่งอาหารอย่างเช่น แอสปาแตม (aspartame) และผงชูรส เป็นสารเติมแต่งอาหารที่มาพร้อมกับสารพิษตกค้าง อันเป็นสาเหตุของการปวดหัวแบบไม่มีสาเหตุ และเพราะสารเคมีในการเติมแต่งอาหารบางชนิดก็มีส่วนผสมของโลหะหนักด้วย และถ้าหากมีในร่างกายมากเกินไปก็จะไปกระตุ้นให้เกิดอาการปวดหัวบ่อย ๆ แบบไม่ทราบสาเหตุได้ ถ้ารู้สึกว่าเริ่มปวดหัวบ่อย ๆ ละก็ รีบล้างพิษตัวเองจะดีกว่านะ
5. นึกอะไรไม่ออก
ใครที่ยังคิดว่าสารให้ความหวานแทนน้ำตาลนั้นดีกว่าน้ำตาล รีบเปลี่ยนความคิดเสียเดี๋ยวนี้เลย เพราะสารให้ความหวานแทนน้ำตาลทุกชนิดส่งผลให้เกิดการตกค้างของสารพิษมากยิ่ง กว่าการรับประทานน้ำตาลเสียอีกค่ะ เพราะนอกจากจะตกค้างแล้วก็ยังทำให้เกิดระดับน้ำตาลที่แปรปรวน ส่งผลให้สมองทำงานผิดปกติแล้วคิดอะไรไม่ค่อยออก หรือรู้สึกสมองตื้อ และยิ่งถ้าหากแก้ปัญหาด้วยการดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูงเข้าไปอีกละก็จะ ยิ่งทำให้เกิดผลที่รุนแรงขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย
6. มีกลิ่นตัว
กลิ่นตัวไม่ใช่เรื่องตลก เพราะการที่คุณเริ่มมีกลิ่นตัวเหม็นตุ ๆ ออกมาจากร่างกาย นั่นแปลว่าในร่างกายของคุณกำลังเต็มไปด้วยสารพิษโดยเฉพาะภายในระบบทางเดิน อาหาร ดังนั้นทางที่ดีคุณควรจะรีบหาอาหารล้างพิษมารับประทาน หรือไม่ก็ลองมาใช้อาหารเสริมบางชนิดที่มีสรรพคุณในการช่วยขจัดล้างสารพิษออก จากร่างกายมาใช้ จะได้ไม่ต้องรู้สึกแย่เวลาคนเมินหน้าหนีเพราะกลิ่นตัวของคุณ
7. อารมณ์แปรปรวน
อารมณ์ที่แปรปรวนนั้นมีสาเหตุมาจากการเสียสมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย ซึ่งบางครั้งก็มาจากสารพิษที่มีชื่อว่า เซเนสโตรเจน (Xenestrogen) อันเป็นสารที่ทำหน้าที่เหมือนฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) ในร่างกาย ซึ่งโดยปกติแล้วจะอยู่ในพลาสติก การรับประทานอาหารที่บรรจุอยู่ในถ้วย หรือถุงพลาสติกที่ไม่ได้มาตรฐาน ดังนั้นเลี่ยงพลาสติกจะดีกว่าค่ะ
กลิ่นตัวไม่ใช่เรื่องตลก เพราะการที่คุณเริ่มมีกลิ่นตัวเหม็นตุ ๆ ออกมาจากร่างกาย นั่นแปลว่าในร่างกายของคุณกำลังเต็มไปด้วยสารพิษโดยเฉพาะภายในระบบทางเดิน อาหาร ดังนั้นทางที่ดีคุณควรจะรีบหาอาหารล้างพิษมารับประทาน หรือไม่ก็ลองมาใช้อาหารเสริมบางชนิดที่มีสรรพคุณในการช่วยขจัดล้างสารพิษออก จากร่างกายมาใช้ จะได้ไม่ต้องรู้สึกแย่เวลาคนเมินหน้าหนีเพราะกลิ่นตัวของคุณ
7. อารมณ์แปรปรวน
อารมณ์ที่แปรปรวนนั้นมีสาเหตุมาจากการเสียสมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย ซึ่งบางครั้งก็มาจากสารพิษที่มีชื่อว่า เซเนสโตรเจน (Xenestrogen) อันเป็นสารที่ทำหน้าที่เหมือนฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) ในร่างกาย ซึ่งโดยปกติแล้วจะอยู่ในพลาสติก การรับประทานอาหารที่บรรจุอยู่ในถ้วย หรือถุงพลาสติกที่ไม่ได้มาตรฐาน ดังนั้นเลี่ยงพลาสติกจะดีกว่าค่ะ
8. ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ
อาการปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติ และมีสาเหตุเสมอ แต่ถ้าหากอยู่ดี ๆ คุณไม่ได้ทำอะไรแค่กลับปวดกล้ามเนื้อขึ้นมา ขอบอกได้เลยว่าถึงเวลาที่คุณต้องขจัดสารพิษออกจากร่างกายแล้ว เพราะสารพิษในร่างกายจะไปกระตุ้นให้ตัวรับรู้ความเจ็บปวดที่กล้ามเนื้อทำ งานอย่างไม่มีสาเหตุ ซึ่งการขับสารพิษนั้นไม่จำเป็นต้องใช้ยาหรือรับประทานอาหารเพียงอย่างเดียว การออกกำลังกายเป็นประจำทุกวันก็สามารถช่วยให้สารพิษที่แฝงอยู่ในกล้ามเนื้อถูกขับออกมาผ่านเหงื่อได้เหมือนกัน
9. ท้องผูก
การขับถ่ายของเสียเป็นวิธีขับสารพิษในร่างกายที่เรียกว่าได้ประสิทธิภาพมากที่สุด แต่ถ้าหากสารพิษที่อยู่ในร่างกายมีมากเกินไป สารพิษที่ขจัดออกไม่หมดอาจทำให้ร่างกายดูดซึมเอาสารพิษกลับเข้าสู่กระแสเลือด และแน่นอนว่าจะทำให้คุณเกิดอาการท้องผูกได้อีกด้วย ดังนั้นควรจะหมั่นดื่มน้ำบ่อย ๆ และรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูง เพื่อที่ร่างกายจะได้สามารถขับเอาสารพิษในร่างกายออกมาได้ และมีระบบขับถ่ายที่เป็นปกติค่ะ
สารพิษในร่างกายไม่สามารถเกิดขึ้นได้ด้วยตัวเอง ดังนั้นหากไม่อยากรู้สึกไม่สบายตัวเพราะสารพิษที่สะสมอยู่ในร่างกายละก็ ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และหลีกเลี่ยงอาหารที่เต็มไปด้วยสารเติมแต่งจะดีที่สุดเลย แล้วก็ควรหาสูตรเครื่องดื่มหรืออาหารล้างสารพิษให้ร่างกายมาทำรับประทาน อย่างน้อยเดือนละครั้ง เพื่อให้ร่างกายสะอาด และระบบการทำงานในร่างกายเป็นปกติค่ะ
อาการปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติ และมีสาเหตุเสมอ แต่ถ้าหากอยู่ดี ๆ คุณไม่ได้ทำอะไรแค่กลับปวดกล้ามเนื้อขึ้นมา ขอบอกได้เลยว่าถึงเวลาที่คุณต้องขจัดสารพิษออกจากร่างกายแล้ว เพราะสารพิษในร่างกายจะไปกระตุ้นให้ตัวรับรู้ความเจ็บปวดที่กล้ามเนื้อทำ งานอย่างไม่มีสาเหตุ ซึ่งการขับสารพิษนั้นไม่จำเป็นต้องใช้ยาหรือรับประทานอาหารเพียงอย่างเดียว การออกกำลังกายเป็นประจำทุกวันก็สามารถช่วยให้สารพิษที่แฝงอยู่ในกล้ามเนื้อถูกขับออกมาผ่านเหงื่อได้เหมือนกัน
9. ท้องผูก
การขับถ่ายของเสียเป็นวิธีขับสารพิษในร่างกายที่เรียกว่าได้ประสิทธิภาพมากที่สุด แต่ถ้าหากสารพิษที่อยู่ในร่างกายมีมากเกินไป สารพิษที่ขจัดออกไม่หมดอาจทำให้ร่างกายดูดซึมเอาสารพิษกลับเข้าสู่กระแสเลือด และแน่นอนว่าจะทำให้คุณเกิดอาการท้องผูกได้อีกด้วย ดังนั้นควรจะหมั่นดื่มน้ำบ่อย ๆ และรับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูง เพื่อที่ร่างกายจะได้สามารถขับเอาสารพิษในร่างกายออกมาได้ และมีระบบขับถ่ายที่เป็นปกติค่ะ
สารพิษในร่างกายไม่สามารถเกิดขึ้นได้ด้วยตัวเอง ดังนั้นหากไม่อยากรู้สึกไม่สบายตัวเพราะสารพิษที่สะสมอยู่ในร่างกายละก็ ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และหลีกเลี่ยงอาหารที่เต็มไปด้วยสารเติมแต่งจะดีที่สุดเลย แล้วก็ควรหาสูตรเครื่องดื่มหรืออาหารล้างสารพิษให้ร่างกายมาทำรับประทาน อย่างน้อยเดือนละครั้ง เพื่อให้ร่างกายสะอาด และระบบการทำงานในร่างกายเป็นปกติค่ะ
แหล่งที่มา http://health.kapook.com/view125051.html
No comments:
Post a Comment