อาหารหรือของว่างหลาย ๆ จานดูแล้วเหมือนจะเป็นอาหารที่เหมาะกับสาว
ๆ ไดเอท แต่เบื้องหลังของมัน อาจมีอะไรที่เราคิดผิดก็เป็นได้ และนี่คืออาหารที่หลายคนเชื่อว่า
เป็นอาหารสำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนัก แต่เอาเข้าจริง ๆ แล้วมันตรงกันข้าม!!!
1. ซีซาร์ สลัด
หลายคนเข้าใจว่า "สลัด" คือ อาหารเพื่อสุขภาพสำหรับคนต้องการไดเอท แต่ เลสลีย์ บอนซี นักโภชนาการจากมหาวิทยาลัย พิตต์เบิร์ก กลับบอกว่า ซีซาร์ สลัด เพียงถ้วยเล็ก ๆ ยังให้พลังงานมากถึง 300-400 แคลอรี แถมยังมีไขมัน 30 กรัมอีกต่างหาก ซึ่งไขมันนั้นก็มาจากน้ำสลัดนั่นเอง
คำแนะนำ : ถ้าชอบทานซีซาร์ สลัด ให้ใส่น้ำสลัดเพียง 1 ช้อนโต๊ะเท่านั้น ส่วนพาเมซานชีสใส่ลงไปแค่ 2 ช้อนโต๊ะก็พอ
1. ซีซาร์ สลัด
หลายคนเข้าใจว่า "สลัด" คือ อาหารเพื่อสุขภาพสำหรับคนต้องการไดเอท แต่ เลสลีย์ บอนซี นักโภชนาการจากมหาวิทยาลัย พิตต์เบิร์ก กลับบอกว่า ซีซาร์ สลัด เพียงถ้วยเล็ก ๆ ยังให้พลังงานมากถึง 300-400 แคลอรี แถมยังมีไขมัน 30 กรัมอีกต่างหาก ซึ่งไขมันนั้นก็มาจากน้ำสลัดนั่นเอง
คำแนะนำ : ถ้าชอบทานซีซาร์ สลัด ให้ใส่น้ำสลัดเพียง 1 ช้อนโต๊ะเท่านั้น ส่วนพาเมซานชีสใส่ลงไปแค่ 2 ช้อนโต๊ะก็พอ
2. สมูทตี้
ไม่ดีแน่ค่ะ ถ้าคุณผสมเบอร์รี่ลงในเครื่องปั่นพร้อมกับวิปปิ้งครีม 80 กรัม เพราะสมูทตี้ถ้วยนี้ จะให้พลังงานถึง 350 แคลอรีเลยทีเดียว แถมยังไม่มีโปรตีนอีกต่างหาก หรือบางถ้วยอาจจะผสมซอร์เบท ไอศกรีม และน้ำตาลเทียมเข้าไปอีก ซึ่งทำให้เครื่องดื่มถ้วยนี้ไม่ต่างไปจากมิลค์เชกเลย
คำแนะนำ : สั่งสมูทตี้แก้วเล็ก ๆ แต่เลือกส่วนผสมที่มีผลไม้สด โยเกิร์ตไขมันต่ำ นม หรือโปรตีนอื่น ๆ ในแก้วนั้น จะช่วยให้คุณได้รับสารอาหารมากขึ้นค่ะ
ไม่ดีแน่ค่ะ ถ้าคุณผสมเบอร์รี่ลงในเครื่องปั่นพร้อมกับวิปปิ้งครีม 80 กรัม เพราะสมูทตี้ถ้วยนี้ จะให้พลังงานถึง 350 แคลอรีเลยทีเดียว แถมยังไม่มีโปรตีนอีกต่างหาก หรือบางถ้วยอาจจะผสมซอร์เบท ไอศกรีม และน้ำตาลเทียมเข้าไปอีก ซึ่งทำให้เครื่องดื่มถ้วยนี้ไม่ต่างไปจากมิลค์เชกเลย
คำแนะนำ : สั่งสมูทตี้แก้วเล็ก ๆ แต่เลือกส่วนผสมที่มีผลไม้สด โยเกิร์ตไขมันต่ำ นม หรือโปรตีนอื่น ๆ ในแก้วนั้น จะช่วยให้คุณได้รับสารอาหารมากขึ้นค่ะ
3. ซูการ์ฟรี
ฟังดูเหมือนจะดีใช่ไหมล่ะ สำหรับอาหารที่ติดป้ายว่า "ซูการ์ฟรี" หรือ "ไม่มีน้ำตาล" แต่จริง ๆ แล้ว ผู้ผลิตจะเลือกใส่สารให้ความหวานที่สังเคราะห์ขึ้นมาแทนน้ำตาลลงไปในอาหาร หรือเครื่องดื่มเหล่านั้นแทน ซึ่งหากคุณสาว ๆ ทานเข้าไป ก็ไม่ต่างไปจากการทานมันฝรั่งทอดไซส์บิ๊ก หรือของหวานจานใหญ่เลยทีเดียว โดยมันฝรั่งทอดจะให้พลังงานสูงถึง 300 แคลอรี ถ้าหากคุณกำจัดพลังงานส่วนนี้ออกได้ไม่หมด รับรองว่า ความอ้วนมาเยือนอย่างไม่ต้องสงสัย
คำแนะนำ : สำรวจปริมาณแคลอรีในแต่ละวันที่คุณบริโภคเข้าไป แล้วหาทางกำจัดมันออกซะ
4. นมพร่องมันเนย
"นมพร่องมันเนย" ที่มีไขมันเพียง 1-2% ฟังดูแล้วเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพมากกว่า "นมสดธรรมดา" ที่มีไขมันประมาณ 3.25% แต่จริง ๆ แล้ว นมพร่องมันเนยที่ว่า ก็มีไขมันอิ่มตัวไม่ต่างไปจากนมสดเท่าไหร่ ลองเปรียบเทียบระหว่าง นมพร่องมันเนยหนึ่งแก้ว กับนมสด และนมไขมันต่ำหนึ่งแก้ว จะพบว่า
- นมสด 1 แก้ว (ไขมัน 3.25%) ให้พลังงาน 150 แคลอรี ไขมัน 8 กรัม ไขมันอิ่มตัว 5 กรัม
- นมพร่องมันเนย (ไขมัน 2%) ให้พลังงาน 130 แคลอรี ไขมัน 5 กรัม ไขมันอิ่มตัว 3 กรัม
- นมไขมันต่ำ หรือไม่มีไขมัน (หางนม) ให้พลังงาน 80 แคลอรี ไขมัน 0 กรัม ไขมันอิ่มตัว 0 กรัม
คำแนะนำ : ถ้าคุณชอบทานนมสด แต่ไม่อยากได้รับไขมันมากเกินไป ลองผสมนมสดกับนมพร่องมันเนย 2% แล้วดื่มดู ถ้าดื่มได้แล้ววันหลังลองเปลี่ยนเป็นนมสดผสมกับนมพร่องมันเนย 1% และสุดท้ายค่อยเปลี่ยนเป็นทานนมไขมันต่ำตามลำดับ
"นมพร่องมันเนย" ที่มีไขมันเพียง 1-2% ฟังดูแล้วเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพมากกว่า "นมสดธรรมดา" ที่มีไขมันประมาณ 3.25% แต่จริง ๆ แล้ว นมพร่องมันเนยที่ว่า ก็มีไขมันอิ่มตัวไม่ต่างไปจากนมสดเท่าไหร่ ลองเปรียบเทียบระหว่าง นมพร่องมันเนยหนึ่งแก้ว กับนมสด และนมไขมันต่ำหนึ่งแก้ว จะพบว่า
- นมสด 1 แก้ว (ไขมัน 3.25%) ให้พลังงาน 150 แคลอรี ไขมัน 8 กรัม ไขมันอิ่มตัว 5 กรัม
- นมพร่องมันเนย (ไขมัน 2%) ให้พลังงาน 130 แคลอรี ไขมัน 5 กรัม ไขมันอิ่มตัว 3 กรัม
- นมไขมันต่ำ หรือไม่มีไขมัน (หางนม) ให้พลังงาน 80 แคลอรี ไขมัน 0 กรัม ไขมันอิ่มตัว 0 กรัม
คำแนะนำ : ถ้าคุณชอบทานนมสด แต่ไม่อยากได้รับไขมันมากเกินไป ลองผสมนมสดกับนมพร่องมันเนย 2% แล้วดื่มดู ถ้าดื่มได้แล้ววันหลังลองเปลี่ยนเป็นนมสดผสมกับนมพร่องมันเนย 1% และสุดท้ายค่อยเปลี่ยนเป็นทานนมไขมันต่ำตามลำดับ
5. กาแฟลาเต้
แม้ว่าคุณจะใช้นมพร่องมันเนยในกาแฟลาเต้ของคุณ แต่หากคุณยังตบท้ายด้วยวิปครีมบนหน้ากาแฟ กาแฟแก้วนี้ก็ยังให้พลังงานสูงถึง 580 แคลอรี และมีไขมันอิ่มตัวถึง 15 กรัมต่อช็อกโกแลต มอคคา 20 ออนซ์ (567 กรัม) อีกต่างหาก แน่นอนว่า พลังงานของกาแฟแก้วนี้เลวร้ายกว่ากันชีสเบอร์เกอร์ 1/4 ชิ้นเสียอีก
คำแนะนำ : หากขาดลาเต้ไม่ได้ แนะนำว่า ควรใช้หางนมผสมแทน และห้ามใส่วิปปิ้งครีม ซึ่งจะช่วยลดพลังงานลงไปได้ถึง 130 แคลอรี และลดไขมันตัวร้ายลงไปได้อีกประมาณ 2 ใน 3 (แต่จริง ๆ ก็ยังเป็นเครื่องดื่มที่ให้พลังงานมากอยู่ดีนะจ๊ะ)
6. มัฟฟิน
หลายคนเลือกทาน "มัฟฟิน" เป็นอาหารเช้า เพราะเมื่อเทียบกับโดนัทแล้วอาจจะดูดีกว่า แต่รู้ไหมคะ จริง ๆ มัฟฟินก็มีน้ำตาลผสมอยู่ในแป้งเค้กที่ใช้ทำมัฟฟินไม่น้อยเลยล่ะ โดยมัฟฟิน 1 กล่อง ให้แคลอรีได้ถึง 500 แคลอรี กับน้ำตาลอีก 11 ช้อนชา
คำแนะนำ : ถ้าอยากทานมัฟฟินจริง ๆ ก็คงต้องเดินหามัฟฟินที่ระบุไว้ชัดเจนเลยว่าจำกัดปริมาณแคลอรี หรือไม่ก็หามัฟฟินที่ทำให้โฮลเกรนจะดีกว่าค่ะ
หลายคนเลือกทาน "มัฟฟิน" เป็นอาหารเช้า เพราะเมื่อเทียบกับโดนัทแล้วอาจจะดูดีกว่า แต่รู้ไหมคะ จริง ๆ มัฟฟินก็มีน้ำตาลผสมอยู่ในแป้งเค้กที่ใช้ทำมัฟฟินไม่น้อยเลยล่ะ โดยมัฟฟิน 1 กล่อง ให้แคลอรีได้ถึง 500 แคลอรี กับน้ำตาลอีก 11 ช้อนชา
คำแนะนำ : ถ้าอยากทานมัฟฟินจริง ๆ ก็คงต้องเดินหามัฟฟินที่ระบุไว้ชัดเจนเลยว่าจำกัดปริมาณแคลอรี หรือไม่ก็หามัฟฟินที่ทำให้โฮลเกรนจะดีกว่าค่ะ
7. โยเกิร์ตไขมันต่ำ
ไม่น่าเชื่อว่า โยเกิร์ตไขมันต่ำ ก็ติดโผอาหารที่คนเข้าใจผิดว่าทานแล้วผอมกับเขาด้วย นั่นก็เพราะโยเกิร์ตไขมันต่ำบางแบรนด์เติมน้ำตาลฟรักโตส ซูโครส และน้ำตาลเทียมลงไปมากกว่า 30 กรัม โดยที่คนไม่ค่อยสนใจจะอ่านฉลาก เพราะเห็นป้าย "ไขมันต่ำ" ก็เผลอหยิบใส่ตะกร้าทันทีเลย
คำแนะนำ : รู้ไหมว่า หากคุณเลือกทานโยเกิร์ตไขมันต่ำ 6 ออนซ์ (ประมาณ 170 มิลลิลิตร) คุณอาจได้รับน้ำตาลถึง 20 กรัม และพลังงานอีก 90-130 แคลอรีอย่างไม่ตั้งใจ ฉะนั้น หลีกเลี่ยงน้ำตาลง่าย ๆ ด้วยการทานโยเกิร์ตไร้ไขมัน และไม่ผสมผลไม้
ไม่น่าเชื่อว่า โยเกิร์ตไขมันต่ำ ก็ติดโผอาหารที่คนเข้าใจผิดว่าทานแล้วผอมกับเขาด้วย นั่นก็เพราะโยเกิร์ตไขมันต่ำบางแบรนด์เติมน้ำตาลฟรักโตส ซูโครส และน้ำตาลเทียมลงไปมากกว่า 30 กรัม โดยที่คนไม่ค่อยสนใจจะอ่านฉลาก เพราะเห็นป้าย "ไขมันต่ำ" ก็เผลอหยิบใส่ตะกร้าทันทีเลย
คำแนะนำ : รู้ไหมว่า หากคุณเลือกทานโยเกิร์ตไขมันต่ำ 6 ออนซ์ (ประมาณ 170 มิลลิลิตร) คุณอาจได้รับน้ำตาลถึง 20 กรัม และพลังงานอีก 90-130 แคลอรีอย่างไม่ตั้งใจ ฉะนั้น หลีกเลี่ยงน้ำตาลง่าย ๆ ด้วยการทานโยเกิร์ตไร้ไขมัน และไม่ผสมผลไม้
8. มัลติเกรน
เวลาที่คุณเห็นป้าย "มัลติเกรน" หรือ "เซเว่นเกรน" บนถุงขนมปัง พาสต้า หรือวาฟเฟิล ขอให้คุณลองพลิกถุงอ่านฉลากที่เขียนบอกเรื่องสารอาหารให้แน่ใจเสียก่อนค่ะ เพราะบางทีส่วนผสมของผลิตภัณฑ์นั้นอาจทำมาจาก ธัญพืชที่ผ่านการขัดสีแล้ว อย่างเช่นแป้งขัดขาวเสียเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งจะขัดเอาไฟเบอร์ และสารอาหารดี ๆ ออกไปเกือบหมดแล้ว
คำแนะนำ : มองหาผลิตภัณฑ์ที่เขียนว่า "โฮลเกรน 100%" หรือเลือกผลิตภัณฑ์ที่ระบุว่า มีไฟเบอร์มาก ๆ แทน
9. น้ำมันมะกอกชนิด Light
การที่บนฉลากของขวดน้ำมันมะกอกเขียนว่า "Light" ไม่ได้หมายความว่า ปริมาณแคลอรีและไขมันจะน้อยไปกว่าน้ำมันมะกอกประเภทอื่น ๆ เพราะคำว่า "Light" หมายถึง แต่งสีและกลิ่นน้อยลงต่างหาก หาได้หมายถึงไขมันและแคลอรีไม่
คำแนะนำ : อาหารที่เขียนบนฉลากว่า "Light" อาจให้แคลอรีต่าง ๆ กัน ดังนั้นแล้วก่อนซื้อต้องเปรียบเทียบฉลากของแต่ละยี่ห้อให้ดีก่อนค่ะ
10. อาหารที่มีส่วนผสมโอเมก้า-3
เดี๋ยวนี้เรามักเห็นอาหารหลายประเภท เช่น โยเกิร์ต นม ไข่ ซีเรียล โฆษณาว่า เติมโอเมก้า-3 ลงไป แต่ต้องดูให้ดีว่า โอเมก้า-3 ที่ว่าเป็นตัว EPA หรือ DHA ที่เรารู้จักกันดีว่ามีคุณสมบัติปกป้องหัวใจหรือเปล่า เพราะยังมีโอเมก้า-3 ตัวอื่นอีก หรือว่าอาจจะเป็นตัวเดียวกันแต่เติมลงไปในปริมาณเล็กน้อย ซึ่งให้คุณค่าไม่เท่ากับการรับประทานปลาแซลมอนหนึ่งคำที่ให้โอเมก้า-3 สูงมาก ๆ
คำแนะนำ : ถ้าอยากได้ประโยชน์จากโอเมก้า-3 จริง ๆ หันมาทานปลาแซลมอนดีกว่าค่ะ
การที่บนฉลากของขวดน้ำมันมะกอกเขียนว่า "Light" ไม่ได้หมายความว่า ปริมาณแคลอรีและไขมันจะน้อยไปกว่าน้ำมันมะกอกประเภทอื่น ๆ เพราะคำว่า "Light" หมายถึง แต่งสีและกลิ่นน้อยลงต่างหาก หาได้หมายถึงไขมันและแคลอรีไม่
คำแนะนำ : อาหารที่เขียนบนฉลากว่า "Light" อาจให้แคลอรีต่าง ๆ กัน ดังนั้นแล้วก่อนซื้อต้องเปรียบเทียบฉลากของแต่ละยี่ห้อให้ดีก่อนค่ะ
10. อาหารที่มีส่วนผสมโอเมก้า-3
เดี๋ยวนี้เรามักเห็นอาหารหลายประเภท เช่น โยเกิร์ต นม ไข่ ซีเรียล โฆษณาว่า เติมโอเมก้า-3 ลงไป แต่ต้องดูให้ดีว่า โอเมก้า-3 ที่ว่าเป็นตัว EPA หรือ DHA ที่เรารู้จักกันดีว่ามีคุณสมบัติปกป้องหัวใจหรือเปล่า เพราะยังมีโอเมก้า-3 ตัวอื่นอีก หรือว่าอาจจะเป็นตัวเดียวกันแต่เติมลงไปในปริมาณเล็กน้อย ซึ่งให้คุณค่าไม่เท่ากับการรับประทานปลาแซลมอนหนึ่งคำที่ให้โอเมก้า-3 สูงมาก ๆ
คำแนะนำ : ถ้าอยากได้ประโยชน์จากโอเมก้า-3 จริง ๆ หันมาทานปลาแซลมอนดีกว่าค่ะ
11.ชามะนาว
สารต้านอนุมูลอิสระในชามะนาวไม่ได้ช่วยให้ชามะนาวกลายเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ แต่อย่างใด เพราะในชามะนาวหนึ่งแก้วมีน้ำตาลสูงมาก โดยชามะนาว 1 ขวด ขนาด 20 ออนซ์ (591 มิลลิลิตร) มีน้ำตาลสูงถึง 59 กรัม และให้พลังงานมากถึง 200 แคลอรี
คำแนะนำ : เลิกดื่มชาที่มีส่วนผสมของน้ำตาลมาก ๆ อย่างชามะนาวดีกว่าค่ะ แล้วหันมาเลือกทานน้ำมะนาว หรือชาสมุนไพร หรือชาเบอร์รี่ที่มีรสชาติหวาน แต่ไม่มีน้ำตาลแทนดีกว่าค่ะ
สารต้านอนุมูลอิสระในชามะนาวไม่ได้ช่วยให้ชามะนาวกลายเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ แต่อย่างใด เพราะในชามะนาวหนึ่งแก้วมีน้ำตาลสูงมาก โดยชามะนาว 1 ขวด ขนาด 20 ออนซ์ (591 มิลลิลิตร) มีน้ำตาลสูงถึง 59 กรัม และให้พลังงานมากถึง 200 แคลอรี
คำแนะนำ : เลิกดื่มชาที่มีส่วนผสมของน้ำตาลมาก ๆ อย่างชามะนาวดีกว่าค่ะ แล้วหันมาเลือกทานน้ำมะนาว หรือชาสมุนไพร หรือชาเบอร์รี่ที่มีรสชาติหวาน แต่ไม่มีน้ำตาลแทนดีกว่าค่ะ
12. ป๊อปคอร์น
ป๊อปคอร์นแบบถุงที่ทำกินง่าย ๆ เพียงแค่อุ่นไมโครเวฟ ไม่นานก็ได้ขนมสุดอร่อยออกมาให้เคี้ยวเล่นกันแล้ว แต่ทว่า ป๊อปคอร์นถุงเล็ก ๆ ถุงนั้นกลับมีไขมันอิ่มตัวมากถึง 9 กรัม แถมยังมีไขมันทรานส์อีกตั้ง 6 กรัม
คำแนะนำ : เลือกทานป๊อปคอร์นไขมันต่ำ และไม่มีไขมันทรานส์ดีกว่าค่ะ โดยอ่านฉลากบนถุงให้ถี่ถ้วนเสียก่อน ถ้ากลัวไม่อร่อย เราอนุญาตให้คุณโรยพาเมซาน ชีส หรือเกลือลงไปได้เล็กน้อย
13.โคลสลอว์
ผักกะหล่ำอาจเป็นตัวช่วยชั้นเลิศในการลดน้ำหนัก แต่กะหล่ำที่อยู่ในโคลสลอว์กลับเป็นศัตรูตัวร้ายของการไดเอทเลยล่ะค่ะ เพราะในโคลสลอว์หนึ่งถ้วยเล็ก (4.5 ออนซ์ ประมาณ 127.5 กรัม) ให้แคลอรีมากถึง 260 แคลอรี และมีไขมันอีก 21 กรัม ซึ่งมาจากมายองเนสนั่นเอง
คำแนะนำ : ถ้าอดใจไม่ไหว อยากทานโคลสลอว์ คงต้องหาร้านที่มีเมนูโคลสลอว์แบบที่ดีต่อสุขภาพแล้วล่ะค่ะ แต่ถ้าจะทำเองที่บ้าน ก็ให้เลือกใช้มายองเนสไขมันต่ำ หรือผสมกับโยเกิร์ตไม่มีไขมันแทน
14. กล้วยฉาบ
กล้วยฉาบ ขนมที่ดูไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะไม่มีน้ำมัน แต่กลับทำให้คุณอ้วนได้ง่าย ๆ เพราะในกล้วยฉาบ 1 ออนซ์ ( 28 กรัม) ให้แคลอรีถึง 145 แคลอรี ไขมันอีก 9 กรัม และเป็นไขมันอิ่มตัวอีก 8 กรัม ฟังดูแล้วพอ ๆ กับแฮมเบอร์เกอร์เลยทีเดียว
คำแนะนำ : ทานกล้วยธรรมดา ๆ ดีกว่า เพราะไม่มีไขมัน ซึ่งกล้วย 4 ผล จะให้พลังงานประมาณ 100 แคลอรี
กล้วยฉาบ ขนมที่ดูไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะไม่มีน้ำมัน แต่กลับทำให้คุณอ้วนได้ง่าย ๆ เพราะในกล้วยฉาบ 1 ออนซ์ ( 28 กรัม) ให้แคลอรีถึง 145 แคลอรี ไขมันอีก 9 กรัม และเป็นไขมันอิ่มตัวอีก 8 กรัม ฟังดูแล้วพอ ๆ กับแฮมเบอร์เกอร์เลยทีเดียว
คำแนะนำ : ทานกล้วยธรรมดา ๆ ดีกว่า เพราะไม่มีไขมัน ซึ่งกล้วย 4 ผล จะให้พลังงานประมาณ 100 แคลอรี
15.แซนด์วิช แครกเกอร์
แซนด์วิช แครกเกอร์ บางยี่ห้อเขียนว่า ทำมาจากโฮลเกรน ซึ่งหากคุณอ่านฉลากดี ๆ ก็อาจจะพบว่า โฮลเกรนที่ว่านั้นเป็นเพียงส่วนผสมเล็กน้อยเท่านั้นเอง แต่ส่วนผสมหลักอาจจะเป็นแป้งสาลี ซึ่งเป็นแป้งขัดขาวประเภทหนึ่งที่ผู้บริโภคอาจถูกหลอกเอาได้
คำแนะนำ : ทานได้ แต่ในปริมาณที่พอเหมาะค่ะ หรือถ้ากลัวอดใจไม่ไหว ก็เก็บแครกเกอร์ไขมันต่ำ และเนยถั่วไว้ใต้ลิ้นชักโต๊ะทำงานของคุณซะ หากหิวเมื่อไหร่ก็หยิบออกมาทานแทนค่ะ
ดูจากรายชื่อข้างต้นแล้ว แหม...เป็นอาหารที่สาว ๆ ส่วนใหญ่ชอบกันทั้งนั้นจริง ๆ นะเนี่ย รู้อย่างนี้แล้วก็เลือกทานกันหน่อยนะจ๊ะ ความหวังที่จะมีหุ่นเพรียวสวยจะได้ไม่ล่มสลายโดยไม่รู้ตัวยังไงล่ะ ><
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
No comments:
Post a Comment