แมคคาเดเมีย
เป็นพืชที่มีสรรพคุณช่วยลดไขมันในเส้นเลือดและป้องกันการเกิดลิ่มเลือดได้
เพราะภายในเมล็ดแมคคาเดเมียนั้นมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูง และไม่มีคอเลสเตอรอล นอกจากนี้ยังมีธาตุเหล็กและแมกนีเซียม
จึงทำให้ในปัจจุบันมีการนำเนื้อในของเมล็ดแมคคาเดเมียมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์หลายประเภท
เช่น อาหารขบเคี้ยว น้ำมัน แป้ง และนำมาเป็นส่วนผสมในขนมชนิดต่าง ๆ มากมาย และแมคคาเดเมียก็ไม่ได้มีประโยชน์เพียงแค่นี้
แต่ยังมีสรรพคุณและประโยชน์อีกมากมายเลยเชียวล่ะ ไปดูกันเถอะว่ามีอะไรบ้าง
1. ช่วยป้องกันโรคหัวใจ
แม้ว่าถั่วแมคคาเดเมียจะมีปริมาณไขมันอิ่มตัวสูง
แต่ไขมันชนิดนี้กลับเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เพราะเป็นไขมันอิ่มตัวเชิงเดี่ยว
ภายในแมคคาเดเมียมีไขมันชนิดนี้ถึง 17 กรัมต่อออนซ์ (1
ออนซ์ = 28.3 กรัม)
ไขมันชนิดนี้นี่ล่ะค่ะที่ดีต่อสุขภาพช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดและช่วยทำความสะอาดหลอดเลือดแดงทำให้ความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมองลดลง
นอกจากนี้ยังช่วยลดระดับของไตรกลีเซอไรด์ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจอีกด้วย
มีการรายงานถึงการศึกษาเมื่อปี 2012 ที่ตีพิมพ์ลงในสารสารการแพทย์
"Archives of Internal Medicine" ว่า ถ้าหากรับประทานถั่วแมคคาเดเมียแทนเนื้อแดงก็จะช่วยให้ความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจให้ลดน้อยลงได้ค่ะ
2. เป็นแหล่งโปรตีนที่สำคัญของร่างกาย
แมคคาเดเมียเป็นแหล่งโปรตีนที่สำคัญต่อร่างกาย
สามารถนำมาทดแทนเนื้อสัตว์ในอาหารสุขภาพ อย่างเช่นสลัด ได้เลยล่ะค่ะ
เพราะในแมคคาเดเมียมีโปรตีนที่เป็นองค์ประกอบสำคัญของกล้ามเนื้อและเนื่อเยื่อส่วนต่าง
ๆ ในร่างกาย ซึ่งนอกจากมันจะช่วยบำรุงรักษากล้ามเนื้อต่าง ๆ
ในร่างกายแล้วมันยังช่วยบำรุงเล็บ เส้นผม และผิวหนังให้มีสุขภาพดีอีกด้วย
3. มีสารต้านอนุมูลอิสระช่วยป้องกันมะเร็งและชะลอความแก่ชราได้
สารต้านอนุมูลอิสระที่อยู่ในถั่วแมคคาเดเมียอย่างฟลาโวนอยด์ซึ่งจะพบแต่ในธรรมชาติเท่านั้น
สามารถช่วยป้องกันเซลล์จากความเสียหายต่าง ๆ และปกป้องเซลล์จากสารพิษที่อยู่ในสภาพแวดล้อม
โดยฟลาโวนอยด์เหล่านี้จะเปลี่ยนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระเข้าไปซ่อมแซมเซลล์ที่เสียหายและทำลายอนุมูลอิสระต่าง ๆ
ในร่างกายซึ่งเป็นสาเหตุของโรคต่าง ๆ หรือโรคมะเร็งบางชนิด อาทิเช่น มะเร็งเต้านม
มะเร็งปากมดลูก มะเร็งปอด มะเร็งต่อมลูกหมาก และมะเร็งในกระเพาะอาหาร นอกจากนี้ในถั่วแมคคาเดเมียยังมีกรดพาลมิโทเลอิค
(palmitoleic) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระอีกชนิดหนึ่ง
สารชนิดนี้จะไปช่วยป้องกันไม่ให้เกิดริ้วรอยแห่งวัย
ทำให้ผิวนุ่มชุ่มชื้นและอ่อนเยาว์อีกด้วยล่ะ
4. ช่วยลดน้ำหนัก
คนส่วนใหญ่มักหลีกเลี่ยงการรับประทานถั่วแมคคาเดเมียเพราะคิดว่าเป็นถั่วที่มีไขมันสูง
แต่ที่จริงแล้วไขมันที่อยู่ในถั่วชนิดนี้เป็นไขมันอิ่มตัวเชิงเดี่ยวที่ช่วยในการลดน้ำหนักได้ด้วย
แถมยังมีโอเมก้า 7 ซึ่งเป็นไขมันที่ใช้ในการสร้างเอนไซม์และควบคุมการเผาผลาญไขมันรวมทั้งลดความอยากอาหาร
และมีกรดพาลมิโทลีอิค (palmitoleic) ซึ่งจะไปกระตุ้นการเผาผลาญไขมันในร่างกายและช่วยลดการสะสมของไขมัน
ถ้าใครที่กำลังคิดจะลดความอ้วนแต่กลัวว่าถั่วแมคคาเดเมียจะทำให้อ้วนล่ะก็
เปลี่ยนความคิดแล้วรีบหามารับประทานเดียวนี้เลยค่ะ
5. มีไฟเบอร์สูงช่วยในระบบขับถ่ายและป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่
แมคคาเดเมียมีไฟเบอร์ถึง
7% ซึ่งในไฟเบอร์นั้นประกอบด้วยคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนและไฟเบอร์ที่ละลายน้ำและไม่ละลายน้ำอีกหลายชนิด
ซึ่งไฟเบอร์นี่ล่ะที่จะช่วยทำให้เราอิ่มไวขึ้น
ช่วยในการย่อยอาหารและลดอาการท้องผูก นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันโรคต่าง ๆ อาทิเช่น
โรคเบาหวาน และโรคหัวใจ แถมยังช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งในลำไส้ใหญ่
โรคผนังถุงลำไส้ใหญ่อักเสบ นิ่วในไตและนิ่วในถุงน้ำดีได้อีกด้วยค่ะ
6. ช่วยให้กระดูกแข็งแรง
แร่ธาตุต่าง ๆ
ที่อยู่ในแมคคาเดเมียต่างก็เป็นแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
อย่างเช่นฟอสฟอรัสซึ่งมีส่วนในการบำรุงกระดูกและฟัน ช่วยในการเผาผลาญอาหาร
ช่วยดูดซึมและขนส่งสารอาหารไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
แคลเซียมช่วยบำรุงให้กระดูกและฟันแข็งแรง
หรือแมงกานีสที่ช่วยในสร้างเนื้อเยื่อกระดูกใหม่ นอกจากนี้ยังมีกรดไขมันโอเมก้า 3
ซึ่งช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนและลดความรุนแรงของโรคไขข้ออักเสบอีกด้วย
ยิ่งถ้าคุณเป็นผู้หญิงที่มีความเสี่ยงในการเป็นโรคกระดูกพรุนมากกว่าเพศชายล่ะก็
การรับประทานแมคคาเดเมียจะยิ่งทำให้คุณได้รับแมงกานีสเพียงพอต่อร่างกาย
ในแต่ละวันผู้ชายจะต้องได้รับแมงกานีส เฉลี่ยวันละ 2.3 มิลลิกรับ
ในผู้หญิงต้องได้รับ 1.8 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งในถั่วแมคคาเดเมีย
1 ออนซ์ (28.3 กรัม)
นั้นมีปริมาณแมงกานีสถึง 1.2 มิลลิกรัม ตีเป็น 52% ของแมงกานีสที่ผู้ชายควรได้รับต่อวัน และ 67% ของแมงกานีสที่ผู้หญิงควรได้รับต่อวันเลย
7. สร้างเสริมประสาทและสมองให้แข็งแรง
การรับประทานถั่วแมคคาเดเมียจะทำให้ระบบประสาทแข็งแรง
ลดการเกิดตะคริวอันเนื่องมาจากการทำงานที่ผิดปกติของกล้ามเนื้อ
โดยเฉพาะแร่ทองแดงในแมคคาเดเมีย แร่ธาตุที่ช่วยในการสร้างสารสื่อประสาท
ซึ่งเป็นสารที่เซลล์สมองใช้เพื่อส่งสัญญาณทางเคมีไปยังประสาท เพื่อควบคุมส่วนต่าง
ๆ ของร่างกาย และยังมีโพแทสเซียม ซึ่งช่วยในการทำงานของสมอง ช่วยบำรุงประสาท
และช่วยลดความเครียดได้
8. ช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็กเข้าสู่ร่างกาย
ถั่วแมคคาเดเมียมีปริมาณของธาตุเหล็กสูงถึง
13% ของความต้องการในแต่ละวันของมนุษย์ และมีถึงเกือบ 6%
ของสารอาหารที่ควรได้รับในแต่ละวันของผู้หญิงที่อายุต่ำกว่า 50
ปี นอกจากนี้ยังมีทองแดงซึ่งเป็นแร่ธาตุสำคัญที่ช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมธาตุเหล็กไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยปกติแล้วคนเราจะต้องได้รับแร่ ทองแดงในปริมาณ 900 ไมโครกรัมต่อวัน
แต่ในถั่วแมคคาเดเมีย 1 ออนซ์ (28.3 กรัม)
มีแร่ทองแดงสูงถึง 214 ไมโครกรัมหรือตีเป็น 24% ของทั้งหมดที่ควรได้รับต่อวัน ซึ่งถ้าหากได้รับแร่ทองแดงไม่เพียงพอก็จะทำให้ไม่สามารถดูดซึมธาตุเหล็กที่จำเป็นต่อการผลิตเซลล์เม็ดเลือดและอาจทำให้เป็นโรคโลหิตจางได้ค่ะ
9. ช่วยป้องกันการเป็นต้อกระจก
ถั่วแมคคาเดเมียเพียง
1 ออนซ์ (28.3 กรัม)
มีปริมาณของวิตามินบี 1 ถึง 0.34 มิลลิกรัม
คิดเป็น 28% ของทั้งหมดที่ผู้ชายควรได้รับต่อวัน
และในผู้หญิงคิดเป็น 31% ซึ่งการศึกษาในปี 2005 ที่ตีพิมพ์ลงในวารสารทางการแพทย์ "Archives of
Ophthalmology" ได้รายงานว่าการรับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินบี
1 จะช่วยทำให้โอกาสที่เลนส์แก้วตาจะพัฒนาไปในทางที่ผิดปกติจนกลายเป็นต้อกระจกลดลง
10. ไม่มีโซเดียม
เหมาะกับผู้เป็นโรคความดันโลหิตสูง
ในถั่วแมคคาเดเมียไม่มีโซเดียมซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคความดันโลหิตสูง
การบริโภคโซเดียมมากจนเกินไปจะทำให้ระดับน้ำในร่างกายลดน้อยลง
และหัวใจก็ต้องสูบฉีดเลือดมากขึ้นเป็นพิเศษ ทำให้เกิดภาวะความดันโลหิตสูงได้
11. มีวิตามินบีสูง
วิตามินบี 6
ที่มีในถั่วแมคคาเดเมียมีประโยชน์ช่วยให้คาร์โบไฮเดรตถูกเผาผลาญอย่างมีประสิทธิภาพ
และช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโต ลดความเครียด และชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์
นอกจากนี้วิตามินบี 1 ยังดีต่อสุขภาพหัวใจและระบบภูมิคุ้มกันอีกด้วย
เครดิตภาพ https://www.pinterest.com/pin/380906080957619724/
No comments:
Post a Comment