Wednesday, February 18, 2015

ขนมหวานไทย ๆ เลือกกินอะไรดีนะ !



          ขนมไทย ๆ มีคุณค่าทางโภชนาการมากกว่าพวกขนม Junk Food แน่ แต่แคลอรีก็ไม่น้อยเหมือนกันในปริมาณ 100 กรัมเท่า ๆ กัน มาดูซิว่าอะไรน่ากลัวที่สุด

 
เม็ดขนุน 374 Kcal

          ทำมาจากถั่วเขียวกวนกับกะทิและน้ำตาล จากนั้น นำมาชุบไข่ และต้มในน้ำเชื่อม จึงมีโปรตีนจากถั่วประมาณ 10 กรัม มีแคลเซียม 116 มิลลิกรัม และมีฟอสฟอรัสถึง 210 มิลลิกรัม ถ้าอยากกินมาก ๆ เม็ดสองเม็ดก็พอไหว เพราะหนึ่งเม็ดหนักแค่ประมาณ 10 กรัมเท่านั้น
 

          Better : ลูกชุบ 284 Kcal

          ทำจากถั่วเขียวกวนคล้าย ๆ กัน แต่เปลี่ยนจากชุบไข่มาเป็นชุบวุ้นใส ๆ แทน พลังงานก็เลยหดหาย แต่คุณค่าทางโภชนาการจากถั่วยังคงอยู่ แต่ก็ควรระวังเรื่อง "สี" สักหน่อย เลือกกินลูกที่สีอ่อน ๆ ไม่ค่อยฉูดฉาด หรือใช้สีจากธรรมชาติจะดีกว่า



ฝอยทอง 440 Kcal

          แม้จะมีวิตามินเอถึงประมาณ 307 RE และฟอสฟอรัสสูงถึง 205 มิลลิกรัม แต่พลังงานก็สูงปรี้ด และคอเลสเตอรอลก็พุ่งได้ง่าย ๆ เพราะทำจากไข่แดงล้วน ๆ

 
         
Better : ทองหยอด 299 Kcal

          ในบรรดาขนมหวานตระกูล "ทอง" ทองหยอดเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะ 100 กรัม มีประมาณ 15 ลูก หรือก็คือให้พลังงานประมาณ 20 Kcal ต่อลูก ดังนั้น หากกินสัก 2-3 ลูก ให้พอหายอยากก็โอเค


ขนมลา 439 Kcal

          ขนมขึ้นชื่อของภาคใต้ชนิดนี้ทำจากแป้งข้าวเจ้าผสมน้ำผึ้ง ใน 100 กรัม มีคาร์โบไฮเดรตถึง 70.3 กรัม แต่ก็มีวิตามินบี 1 บี 2 และไนอะซิน 0.13, 2.09 และ 2.0 มิลลิกรัมตามลำดับ

 
         
Better : ขนมปลากริม 103 Kcal

          100 กรัมก็คือประมาณ 1 ถ้วยเล็ก ๆ อร่อยครบรสทั้งหวานมัน เค็ม แต่พลังงานไม่พุ่งปรี๊ดอย่างที่คิด จะเพิ่มคุณค่าทางอาหารด้วยการใส่เผือกต้ม ก็อร่อยไปอีกแบบ


ข้าวเหนียวสังขยา 270 Kcal

          ข้าวเหนียวมูนหวานมันโปะด้วยสังขยาหวาน ๆ พลังงานจะสูงก็ไม่แปลก แต่ที่น่ากังวลก็คือโซเดียมที่สูงถึง 315 มิลลิกรัม กินบ่อย ๆ ความดันโลหิตสูงอาจมาเยือนได้

 
         
Better : สังขยาฟักทอง 280 Kcal

          ถึงจะให้พลังงานมากกว่านิดหน่อย แต่เปลี่ยนจากข้าวเหนียวมาเป็นฟักทองนึ่ง ยังไงก็เฮลตี้กว่า เพราะฟักทองอุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีนที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระนั่นเอง


Did You Know? : ประโยชน์ของกะทิก็มีไม่น้อย

         
** ช่วยให้กระดูกแข็งแรง กะทิ 1 ถ้วย มีฟอสฟอรัสถึง 240 มิลลิกรัม ซึ่งสารนี้ก็มีความสำคัญต่อความแข็งแรงของกระดูกไม่แพ้แคลเซียมเลยทีเดียว

         
** ผ่อนคลายความเครียด แมกนีเซียมในกะทิช่วยบล็อกไม่ให้เซลล์ประสาททำงานมากเกินไป กล้ามเนื้อจึงคลายตัว และยังมีฤทธิ์รักษาความดันโลหิตคงที่ ช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น

         
** ลดการติดเชื้อ ในกะทิจะมีกรดไขมันชนิดหนึ่งชื่อว่า "กรดลอริก" ซึ่งเมื่อเข้าสู่ร่างกายจะเปลี่ยนเป็นสารแอนตี้ไวรัสและแอนตี้แบคทีเรีย ชื่อ "โมโนลอริน" ภูมิคุ้มกันแบคทีเรียและไวรัสของคุณจึงแข็งแรงขึ้น

แหล่งที่มา  Lisa, http://health.kapook.com/view79333.html



No comments:

Post a Comment