1. อย่าแปรงฟันทันที
แม้ว่าการรับประทานอาหารที่มีกรดสูงหรืออาหารที่มีสีเข้มจะทำให้ฟันโดนกัดกร่อนและอาจจะทำให้ฟันเหลืองได้ แต่ก็ไม่ควรจะแปรงฟันในทันที เนื่องจากหลังจากการรับประทานอาหารที่มีกรดสูง
ฟันของเราจะบอบบางลง หากแปรงฟันในทันทีก็อาจจะทำให้ผิวเคลือบฟันเสียได้
ควรจะรออย่างน้อย ครึ่งชั่วโมงแล้วค่อยแปรงฟันจะดีกว่านะคะ
2. อย่าลืมแปรงลิ้น
หลายคนเวลาแปรงฟันมักจะชอบลืมแปรงลิ้น เพราะลิ้นเป็นแหล่งสะสมของเสีย
หากคุณไม่แปรงลิ้นด้วย ถึงแม้ว่าจะแปรงฟันสะอาดขนาดไหนฟันของคุณก็จะยังคงเหลืองอยู่ดี
คราวหน้าถ้าแปรงฟันก็อย่าลืมแปรงลิ้นด้วยนะคะ เพราะถ้าลิ้นสะอาดแล้วไม่เพียงแต่ฟันจะขาวแต่กลิ่นปากก็จะยังหอมสดชื่นอีกด้วย
3. ใช้น้ำส้มสายชูหมักแอปเปิล
น้ำส้มสายชูถือเป็นดาบสองคมที่สามารถทำลายผิวเคลือบฟันได้หากรับประทานบ่อย ๆ แต่ก็สามารถทำให้ฟันขาวได้ หากใช้บ้วนปากเดือนละครั้ง ซึ่งความเชื่อนี้เชื่อกันว่าการแปรงฟันด้วยยาสีฟันปกติ
และบ้วนปากด้วยน้ำส้มสายชูหมักแอปเปิลสามารถทำให้ฟันขาวได้ แต่ก็ควรระมัดระวังในการใช้
เพราะหากใช้ในปริมาณที่เข้มข้นเกินไปอาจจะทำให้ผิวฟันถูกกัดกร่อนได้ และควรบ้วนปากด้วยน้ำสะอาดตามด้วยนะคะ
4. รับประทานแอปเปิล เซเลอรี และดอกกะหล่ำ
ถ้าคุณชอบผลไม้ประเภทเบอร์รีเพราะมีวิตามินสูง
แต่กลัวว่าฟันจะเหลือง คราวหน้าก็อย่าลืมรับประทานผลไม้ประเภทแอปเปิลด้วยนะ เพราะแอปเปิลนั้นสามารถช่วยล้างสีของผลไม้ที่มีสีเข้มออกได้
แค่เพียงเคี้ยว แอปเปิลก็จะทำหน้าที่เหมือนแปรงสีฟันชำระล้างสีออกได้ง่าย ๆ นอกจากนี้ผักอย่างเซเลอรีและดอกกะหล่ำที่เรานำมาทำอาหารก็สามารถช่วยได้เช่นกันค่ะ
5. ดื่มน้ำหลังจากรับประทานผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว
ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวทุกชนิดจะมีกรดที่สามารถกัดกร่อนผิวเคลือบฟันได้
ถ้าไม่อยากให้ผิวเคลือบฟันถูกทำลายก็ควรดื่มน้ำตามทุกครั้งทันทีหลัง จากรับประทานผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว
เพื่อน้ำสะอาดจะได้ชำระล้างกรดที่อยู่บนฟันออกไป
6. ไปพบทันตแพทย์ทุก ๆ 6 เดือน
แม้ว่าวิธีต่าง ๆ
ที่นำเสนอมาจะช่วยให้ฟันขาว และป้องกันไม่ให้ฟันเหลืองได้
แต่การไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจฟันทุก ๆ 6 เดือน
ก็เป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะการขัดหินปูนและการเคลือบฟัน จะช่วยทำให้ฟันของเราแข็งแรงและขาวขึ้น
ขณะที่การตรวจสุขภาพช่องปากเป็นประจำนั้นก็สามารถลดปัญหาที่เกิดภายในช่องปากอันเป็นสาเหตุของกลิ่นปากอันไม่พึงประสงค์ได้อีกด้วยนะ
สุขภาพช่องปากเป็นสิ่งที่สำคัญ
เพราะหากเราดูแลสุขภาพช่องปากให้ดี ไม่ว่าจะปัญหาฟันเหลือง
หรือกลิ่นปากก็จะไม่มีมากวนใจ แถมยังเสริมสร้างความมั่นใจให้เราได้อีกด้วย
แหล่งที่มา http://health.kapook.com/view112423.html
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
No comments:
Post a Comment