Friday, February 20, 2015

10 อาหารตัวการฟันเหลือง เลี่ยงได้เป็นดี



          ฟันเหลือง ปัญหาใหญ่ที่ทำลายความมั่นใจให้กับคนจำนวนไม่น้อย บางคนถึงกับกลายเป็นคนไม่ยอมยิ้มเพราะกลัวว่าคนอื่น ๆ จะเห็นฟันเหลือง ๆ ของตัวเองเข้า และอาจจะรู้สึกรังเกียจได้ หลายคนพึ่งวิธีทางการแพทย์ในการขัดฟัน เคลือบฟัน เสียเงินไปก็หลายบาท แต่สุดท้ายก็กลับมาฟันเหลืองอยู่ดี นั่นก็เพราะว่าการรักษาด้วยวิธีเหล่านั้นเป็นเพียงการรักษาที่ป­­­ลายเหตุเท่านั้น ต้นเหตุของฟันเหลืองนั้นจริง ๆ แล้วมาจากอาหารการกินของเราเองต่างหาก 

          อย่างที่เว็บไซต์ Lifehack  ได้นำ 10 อาหารที่เป็นสาเหตุของฟันเหลืองมาฝากกันเพื่อให้ได้ทราบกันว่าอ­­­าหารแล เครื่องดื่มชนิดใดที่ควรเลี่ยง อยากฟันขาว และยิ้มได้อย่างมั่นใจต้องรู้จักเลี่ยงและป้องกันให้ดี 

10 อาหารตัวการฟันเหลือง เลี่ยงได้เป็นดี 

 1. ไวน์แดงและไวน์ขาว 

          ใครที่ชอบดื่มไวน์เป็นประจำนี่ต้องระวังเลย เพราะไม่ว่าจะเป็นไวน์ขาวหรือไวน์แดงก็ส่งผลให้ฟันเหลืองได้ทั­้งนั้น สาเหตุนั่นก็มาจากในไวน์ทั้ง 2 ชนิดนั้นมีสารแทนนินซึ่งเป็นสารที่มีสีเหลือง และสีน้ำตาล แถมเวลาที่ดื่มเข้าไปยังจะทิ้งคราบสกปรกไว้บนฟันของคุณอีกด้วย ดังนั้นถ้าไม่อยากฟันเหลือง หลังจากดื่มไวน์ก็อย่าลืมดื่มน้ำตามเข้าไปสักแก้วนะ 

  
 2. กาแฟ 

            เครื่องดื่มที่ต้องดื่มเป็นประจำทุกเช้าอย่างกาแฟนี้ เป็นตัวการสำคัญเลยล่ะที่ทำให้ฟันเหลือง การดื่มกาแฟเป็นประจำจะทำให้สีของกาแฟเกาะอยู่บนฟันทำให้กลายเป­­­็นสีเหลืองไม่น่ามอง ทางแก้ก็ไม่ยาก แค่เพียงเติมนมลงไปในกาแฟเสียหน่อยให้สีอ่อนลงก็สามารถช่วยได้บ้างค­่ะ 


 3. ชา 

          หลาย คนชอบดื่มชา ยิ่งชาเข้ม ๆ เนี่ย ยิ่งชอบ แต่รู้หรือเปล่าว่าการดื่มชาโดยเฉพาะชาดำ ถ้าเข้มเกินไปก็ทำให้ฟันเหลืองได้ เพราะเจ้าชาเหล่านี้จะไปทำปฏิกิริยาบนเนื้อฟันและเปลี่ยนฟันที่­­­เคยขาวให้ เหลืองจนไม่น่ามองเลยล่ะ ฉะนั้นถ้าไม่อยากฟันเหลืองเพราะชาก็ลดปริมาณความเข้มข้นลงดีกว่­­­านะ 

   
 4. น้ำส้มสายชูบัลซามิก 

          น้ำส้มสายชูเข้มข้นที่มีสีเข้ม ๆ อย่างน้ำส้มสายชูบัลซามิกนี่ล่ะค่ะตัวการกัดกร่อนฟันและทำให้­ฟันเหลืองเลย ล่ะ การรับประทานบ่อย ๆ จะทำให้ฟันเหลืองได้อย่างไม่ต้องสงสัย แต่ถ้ารับประทานเจ้าน้ำส้มชนิดนี้กับสลัดหรือผักโขมละก็ จะทำให้การเป็นกรดของน้ำส้มสายชูลดลงค่ะ 

 5. ผงกะหรี่ 

          เครื่องเทศชนิดนี้ที่มีสี เหลืองเข้ม สามารถทำให้ฟันของคุณเปลี่ยนเป็นสีเหลืองได้อย่างไม่ต้องสงสัย แต่ถ้าคุณไม่รับประทานเจ้าเครื่องเทศชนิดนี้บ่อย ๆ ก็วางใจได้ค่ะ แต่ถ้าคุณกลัวว่าการรับประทานผงกะหรี่ของคุณในคราวหน้าอาจจะทำใ­­­ห้ฟันเหลืองได้ ก็ลองเติมผักโขมลงไปในอาหารที่มีผงกะหรี่ด้วยก็ดีนะคะ เพราะผักโขมจะช่วยป้องกันไม่ให้เคลือบฟันของคุณถูกจู่โจมด้วยสี­­­เหลืองจากผงกะหรี่ค่ะ 


 6. ซอสมะเขือเทศ 

           สำหรับหลาย ๆ คน ซอสมะเขือเทศอาจจะเป็นซอสชนิดโปรดที่นำมาใส่ในอาหารหรือไว้จ­ิ้มกับของทอด ใช่ไหมล่ะคะ แต่รู้หรือเปล่าว่าการรับประทานซอสมะเขือเทศบ่อย ๆ อาจจะทำให้ฟันของคุณเปลี่ยนเป็นสีเหลืองได้ เพราะจริง ๆ แล้วในซอสมะเขือเทศก็มีกรดสูงเช่นกัน ดังนั้นทางที่ดีก็ควรจะหลีกเลี่ยงรับประทานบ่อย ๆ หรือรับประทานคู่กับผักโขมดีกว่านะ 


 7. ผลไม้ตระกูลเบอร์รี 

          ราสป์ เบอร์รี แบลคเบอร์รี และบลูเบอร์รี ล้วนเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญต่อร่างกา­ย ยกเว้นแต่สีของผลไม้เหล่านี้ที่มีสีเข้มจนอาจจะทำให้ติดฟันได้ ซึ่งจะทำให้ฟันเปลี่ยนเป็นสีไม่น่ามองเท่าไร ดังนั้นถ้าหากคุณชอบรับประทานผลไม้ตระกูลเบอร์รีก็อย่าลืมดื่มน­­­้ำตามเข้าไปด้วยหลังจากรับประทานเสร็จ จะได้ช่วยล้างสีจากผลไม้เหล่านี้ออกจากฟันไงล่ะ 



 8. น้ำอัดลมและโซดา 

          น้ำอัดลมและโซดา นอกจากจะทำให้เกิดคราบหินปูนแล้ว ก็ยังส่งผลให้ฟันเหลืองได้ เพราะน้ำอัดลมที่มีสีเข้ม สีของน้ำสามารถดูดซึมเข้าสู่ฟันได้ ยิ่งถ้าเป็นน้ำอัดลมเย็น ๆ ด้วยละก็ไม่ต้องพูดถึงเลย สีจะยิ่งดูดซึมได้มากขึ้นกว่าเดิมเลยเชียว ทางที่ดีที่สุดก็คือห­ลีกเลี่ยงการดื่มน้ำอัดลมดีกว่า แต่ถ้าหากอดไม่ได้ ก็ดื่มนาน ๆ ครั้งจะดีกว่าค่ะ 

  
 9. ซอสถั่วเหลือง 

          การบริโภคซอสถั่วเหลืองมากเกินไปสามารถทำให้ฟันเหลืองได้ แถมยังส่งผลเสียต่อสุขภาพอีกด้วย เพราะซอสถั่วเหลืองบางชนิดใช้กรดเพื่อช่วยให้ถั่วเหลืองที่หมัก­­­เปลี่ยน เป็นซอสถั่วเหลืองเร็วขึ้น และกรดเหล่านั้นก็จะยังคงหลงเหลืออยู่จนถึงพวกเราที่เป็นผู้บริ­­­โภค ดังนั้น ถ้าไม่อยากฟันเหลือง ก็ควรใช้ให้น้อยลง จะได้ฟันไม่เหลือง แถมไม่ต้องกังวลกับปริมาณโซเดียมอีกด้วยค่ะ 

 10. หัวบีท 

          หลายคนอาจจะชอบดื่มน้ำบีทรูทหรือไม่ก็นำหัวบีทมาทำอาหาร ซึ่งสีแดงเข้มของหัวบีท ทำให้อาหารน่ารับประทานมากขึ้น แต่การรับประทานบ่อย ๆ ก็อาจจะทำให้ได้ของแถมเป็นฟันเหลือง ๆ แทน ฉะนั้นคราวหน้าถ้าจะนำหัวบีทมาใช้ ควรล้างให้สะอาดก่อนเพื่อชำระล้างสีจากหัวบีท และถ้าหากดื่มเป็นน้ำ ก็ควรดื่มน้ำตามมาก ๆ ด้วยนะคะ ไม่อย่างนั้นสีของหัวบีทอาจติดฟันไม่น่ามองได้นะ 


แหล่งที่มา  http://health.kapook.com/view112423.html
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

No comments:

Post a Comment