Monday, January 26, 2015

สดชื่นดับร้อนด้วยวิตามินซี



           ผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงซึ่งส่วนใหญ่มีรสเปรี้ยวจี๊ดได้ ใจ แถมยังมีคุณประโยชน์มากมายทั้งป้องกันหวัด คลายเครียด และยังทำให้ผิวสวยใสด้วยเริ่ดขนาดนี้ไม่กินไม่ได้แล้ว

สตรอว์เบอร์รี

          ผลไม้สีแดงรสเปรี้ยวอมหวานชนิดนี้จะกินสด ๆ หรือกินคู่กับไอศกรีมหรือขนมหวานอะไรก็เข้ากั๊น-เข้ากัน หากกินสตรอว์เบอร์รี 100 กรัม คุณจะได้รับวิตามินซีถึง 66 มิลลิกรัม มีการศึกษาพบว่าเมื่อเทียบน้ำหนักที่เท่ากัน พลังในการต้านอนุมูลอิสระของสตรอว์เบอร์รีสูงกว่าส้มถึงหนึ่งเท่าครึ่ง และสูงกว่าและมะเขือเทศถึงเจ็ดเท่าว้าว!

 
มะละกอสุก

          เนื้อสีส้มอมแดงที่มีรสหวาน 100 กรัมก็มีวิตามินซีถึง 70 มิลลิกรัมแล้ว แต่เวลาปอกเปลือกไม่ควรปอกหนานะคะ นักวิจัยออสเตรียพบว่า เมื่อมะละกอสุกงอม คลอโรฟิลล์ในมะละกอจะเปลี่ยนเป็นสารไม่มีสีที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระอย่าง เยี่ยมยอดสะสมอยู่บริเวณเปลือกและใต้ผิวเปลือก


กีวี

          หน้าตาภายนอกอาจไม่ค่อยน่ากินเท่าไหร่ แต่แค่เอามีดผ่ากลางลงไปก็จะเจอกับเนื้อสีเขียวสดใส ที่รสชาตินั้นไม่เป็นสองรองใครแน่นอน และยังมีวิตามินซีมากกว่าส้มถึง 2 เท่า (กีวี 100 กรัมให้วิตามินซี 100 มิลลิกรัม) กากใยก็มากกว่าแอปเปิ้ล นอกจากนี้ ยังอุดมไปด้วยโพแทสเซียมด้วย ที่สำคัญตอนนี้กีวีก็ไม่ใช่ผลไม้หายาก หาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าทั่วไปแล้วนะ

 
ฝรั่ง

          แม้จะไม่ได้เปรี้ยวจี๊ดจ๊าด แต่ฝรั่งกลับเป็นผลไม้ที่ให้วิตามินซีสูงมาก แค่ 100 กรัมก็มีวิตามินซีถึง 187 มิลลิกรัม (สูงกว่าส้มประมาณ 4 เท่า) อ้อ! อย่าปอกเปลือกกินนะคะ เพราะแหล่งวิตามินซีก็อยู่ที่เปลือกนี่แหละ

 
เสาวรส

          อากาศร้อน ๆ แบบนี้ แค่ผ่าครึ่งเสาวรสสุก ๆ โรยเกลือป่นนิดนึงแล้วตักกินเนื้อ รสชาติเปรี้ยวอมหวานแสนอร่อยจะช่วยให้คุณรู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันที แถมด้วยปริมาณวิตามินซี 39.1 มิลลิกรัม ต่อเนื้อ 100 กรัม และยังช่วยลดปริมาณไขมันในเส้นเลือดได้ด้วย

 
Note

          ในแต่ละวันร่างกายของเราต้องการวิตามินซีประมาณ 60 มิลลิกรัม หากเป็นผู้ที่สูบบุหรี่ประจำร่างกายจะต้องการวิตามินซีเพิ่มขึ้นอีก 40 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นแค่กินผลไม้ วิตามินเสริมก็ไม่จำเป็นแล้วล่ะ

          ข้อควรระวัง ก็คือวิตามินซีจะสลายได้ง่ายเมื่อสัมผัสกับอากาศ แสงโลหะ น้ำ หรือความร้อนดังนั้น เพื่อให้ได้วิตามินครบถ้วนจึงควรให้ความสำคัญกับทุกขั้นตอนในการเตรียมและปรุงอาหาร เช่น ล้างให้เรียบร้อยก่อนหั่น และอย่าแช่ผลไม้ทิ้งไว้ในน้ำนาน ๆ หากจะคั้นน้ำก็ควรคั้นแล้วรับประทานทันทีไม่ตั้งทิ้งหรือแช่ตู้เย็นเก็บไว้ แต่ถ้าจะเก็บจริง ๆ ก็อย่าให้เกิน 2 วันก็แล้วกันนะ

แหล่งที่มา  Lisa, http://health.kapook.com/view63618.html
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

No comments:

Post a Comment