10 อาหารลดพุง อีกหนึ่งวิธีลดหน้าท้องที่ทำได้ง่าย ๆ แค่เลือกกินให้ถูกหลักความหุ่นดี
ไม่อยากมีพุงเป็นส่วนเกินต้องรีบจัด
เข้าใจว่าไม่มีใครอยากอ้วนและอยากแบกพุงโต ๆ ไว้กับตัวแน่ ๆ แต่บางครั้งการออกกำลังกายก็ไม่ใช่ทางของเราจริงไหมคะ ;p ถ้าอย่างนั้นเอาเป็นว่าเรามาเริ่มต้นลดน้ำหนักด้วยการกินที่น่าจะเป็นทาง ถนัดดีกว่า โดยแนะนำให้กินอาหารลดพุง 10 อย่างนี้ก่อนเลย เอ้า...ลุย !
เข้าใจว่าไม่มีใครอยากอ้วนและอยากแบกพุงโต ๆ ไว้กับตัวแน่ ๆ แต่บางครั้งการออกกำลังกายก็ไม่ใช่ทางของเราจริงไหมคะ ;p ถ้าอย่างนั้นเอาเป็นว่าเรามาเริ่มต้นลดน้ำหนักด้วยการกินที่น่าจะเป็นทาง ถนัดดีกว่า โดยแนะนำให้กินอาหารลดพุง 10 อย่างนี้ก่อนเลย เอ้า...ลุย !
1. ถั่วชนิดต่าง ๆ
ผลการศึกษาจาก Diabetic Medicine พบว่า การรับประทานถั่วชนิดต่าง ๆ ไม่ได้ช่วยบำรุงหัวใจเท่านั้น แต่ยังช่วยลดไขมันในช่องท้องได้อีกด้วย เนื่องจากถั่วเป็นธัญพืชที่มีโปรตีนค่อนข้างสูง จึงมีส่วนช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญของเราให้ทำงานอย่างขยันขันแข็งมากขึ้น ยิ่งหากออกกำลังกายลดพุงร่วมด้วยแล้ว เชื่อเถอะว่าพุงของคุณจะยุบลงได้เร็วขึ้นอีก
ผลการศึกษาจาก Diabetic Medicine พบว่า การรับประทานถั่วชนิดต่าง ๆ ไม่ได้ช่วยบำรุงหัวใจเท่านั้น แต่ยังช่วยลดไขมันในช่องท้องได้อีกด้วย เนื่องจากถั่วเป็นธัญพืชที่มีโปรตีนค่อนข้างสูง จึงมีส่วนช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญของเราให้ทำงานอย่างขยันขันแข็งมากขึ้น ยิ่งหากออกกำลังกายลดพุงร่วมด้วยแล้ว เชื่อเถอะว่าพุงของคุณจะยุบลงได้เร็วขึ้นอีก
2. อะโวคาโด
น้ำมันที่สกัดจากผลอะโวคาโดอุดมไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียว (Monounsaturated Fatty Acid) สูงถึงร้อยละ 70 และมีงานวิจัยจำนวนมากรับรองถึงประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น รายงานจากวารสาร Diabetes Care ที่พบว่า การกินอาหารที่อุดมไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียว (MUFA-Rich Diet) เป็นประจำจะช่วยลดน้ำหนัก ลดไขมันหน้าท้อง และเพิ่มประสิทธิภาพของอินซูลินในการลำเลียงน้ำตาลเข้าสู่เซลล์ได้ และเมื่อให้กลุ่มอาสาสมัครกินอะโวคาโด 1 ผลเป็นประจำทุกวัน ก็พบว่า กลุ่มอาสาสมัครสามารถลดไขมันเลว (LDL) ในเลือดได้ถึง 13.5 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตรเลยทีเดียว
น้ำมันที่สกัดจากผลอะโวคาโดอุดมไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียว (Monounsaturated Fatty Acid) สูงถึงร้อยละ 70 และมีงานวิจัยจำนวนมากรับรองถึงประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น รายงานจากวารสาร Diabetes Care ที่พบว่า การกินอาหารที่อุดมไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียว (MUFA-Rich Diet) เป็นประจำจะช่วยลดน้ำหนัก ลดไขมันหน้าท้อง และเพิ่มประสิทธิภาพของอินซูลินในการลำเลียงน้ำตาลเข้าสู่เซลล์ได้ และเมื่อให้กลุ่มอาสาสมัครกินอะโวคาโด 1 ผลเป็นประจำทุกวัน ก็พบว่า กลุ่มอาสาสมัครสามารถลดไขมันเลว (LDL) ในเลือดได้ถึง 13.5 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตรเลยทีเดียว
3. นมไขมันต่ำ
นมมีโปรตีนสูง ช่วยเสริมสร้างกระดูกและมีส่วนช่วยลดพุงได้ด้วย โดยผลการศึกษาจาก Nutrition เผยว่า คนที่รับพลังงานจากโปรตีนราว 30% หรือ 6-7 หน่วยบริโภคต่อวัน จะสามารถเปลี่ยนไขมันให้กลายเป็นกล้ามเนื้อได้ง่ายขึ้น เนื่องจากนมมีกรดอะมิโนลิวซีน ที่จะคอยดึงไขมันที่อยู่ลึกในชั้นเซลล์ร่างกายออกมาเผาผลาญ ส่งผลให้ไขมันในหน้าท้องถูกเบิร์นมากขึ้น พุงก็ลดลงไปตามลำดับ อีกทั้งกรดอะมิโนตัวนี้ยังคอยช่วยกระตุ้นโกรทฮอร์โมนในร่างกายด้วยนะคะ
นมมีโปรตีนสูง ช่วยเสริมสร้างกระดูกและมีส่วนช่วยลดพุงได้ด้วย โดยผลการศึกษาจาก Nutrition เผยว่า คนที่รับพลังงานจากโปรตีนราว 30% หรือ 6-7 หน่วยบริโภคต่อวัน จะสามารถเปลี่ยนไขมันให้กลายเป็นกล้ามเนื้อได้ง่ายขึ้น เนื่องจากนมมีกรดอะมิโนลิวซีน ที่จะคอยดึงไขมันที่อยู่ลึกในชั้นเซลล์ร่างกายออกมาเผาผลาญ ส่งผลให้ไขมันในหน้าท้องถูกเบิร์นมากขึ้น พุงก็ลดลงไปตามลำดับ อีกทั้งกรดอะมิโนตัวนี้ยังคอยช่วยกระตุ้นโกรทฮอร์โมนในร่างกายด้วยนะคะ
4. โฮลเกรน
Pennsylvania State University ได้ทำการวิจัยโดยนำอาสาสมัครมาเข้าโปรแกรมลดน้ำหนักเป็นเวลา 3 เดือน โดยให้กลุ่มหนึ่งกินแต่อาหารประเภทโฮลเกรนล้วน ๆ ในขณะที่อีกกลุ่มหนึ่งกินอาหารประเภทขัดสีล้วน ๆ และพบว่า กลุ่มอาสาสมัครที่กินโฮลเกรนสามารถลดไขมันในช่องท้องได้มากกว่าอาสาสมัคร อีกกลุ่มหนึ่ง นั่นก็เพราะว่า โฮลเกรนมีแมกนีเซียมสูง แถมยังมีแร่ธาตุที่ช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญของเราได้อีกต่างหาก
Pennsylvania State University ได้ทำการวิจัยโดยนำอาสาสมัครมาเข้าโปรแกรมลดน้ำหนักเป็นเวลา 3 เดือน โดยให้กลุ่มหนึ่งกินแต่อาหารประเภทโฮลเกรนล้วน ๆ ในขณะที่อีกกลุ่มหนึ่งกินอาหารประเภทขัดสีล้วน ๆ และพบว่า กลุ่มอาสาสมัครที่กินโฮลเกรนสามารถลดไขมันในช่องท้องได้มากกว่าอาสาสมัคร อีกกลุ่มหนึ่ง นั่นก็เพราะว่า โฮลเกรนมีแมกนีเซียมสูง แถมยังมีแร่ธาตุที่ช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญของเราได้อีกต่างหาก
5. พริกหวานสีแดง
สีแดง ๆ จากพริกหวานมีทั้งไลโคปีน เบต้าแคโรทีน ซึ่งเป็นสารต้านอนมูลอิสระที่สำคัญต่อร่างกาย โดยมีสรรพคุณช่วยกำจัดไขมันเลวที่สะสมในช่องท้อง นอกจากนี้พริกหวานสีแดงยังอุดมไปด้วยวิตามินซี สารประกอบสำคัญของการเบิร์นไขมันในร่างกายอีกด้วยล่ะ
สีแดง ๆ จากพริกหวานมีทั้งไลโคปีน เบต้าแคโรทีน ซึ่งเป็นสารต้านอนมูลอิสระที่สำคัญต่อร่างกาย โดยมีสรรพคุณช่วยกำจัดไขมันเลวที่สะสมในช่องท้อง นอกจากนี้พริกหวานสีแดงยังอุดมไปด้วยวิตามินซี สารประกอบสำคัญของการเบิร์นไขมันในร่างกายอีกด้วยล่ะ
6. น้ำมันคาโนลา
น้ำมันคาโนลาเป็นน้ำมันปรุงอาหารเพื่อสุขภาพที่กลุ่มคนเฮลธ์ตี้รู้จักเป็น อย่างดี และผลการวิจัยจากประเทศบราซิลก็ย้ำสรรพคุณของน้ำมันคาโนลาในเรื่องลดพุงมา ว่า น้ำมันคาโนลาเป็นน้ำมันสกัดจากธรรมชาติที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 สูงมาก จึงช่วยลดระดับอินซูลินในร่างกาย ส่งผลให้การสะสมไขมันในช่องท้องลดลงได้ และแน่นอนว่าก็ช่วยลดพุงด้วย
น้ำมันคาโนลาเป็นน้ำมันปรุงอาหารเพื่อสุขภาพที่กลุ่มคนเฮลธ์ตี้รู้จักเป็น อย่างดี และผลการวิจัยจากประเทศบราซิลก็ย้ำสรรพคุณของน้ำมันคาโนลาในเรื่องลดพุงมา ว่า น้ำมันคาโนลาเป็นน้ำมันสกัดจากธรรมชาติที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 สูงมาก จึงช่วยลดระดับอินซูลินในร่างกาย ส่งผลให้การสะสมไขมันในช่องท้องลดลงได้ และแน่นอนว่าก็ช่วยลดพุงด้วย
7. วอลนัท
สารต้านอนุมูลอิสระและคุณสมบัติต้านการอักเสบในวอลนัทเป็นส่วนสำคัญที่จะ ช่วยต่อต้านความเสี่ยงโรคอ้วนลงพุงได้ อีกทั้งโปรตีนและไฟเบอร์ในวอลนัทยังจะช่วยให้เรารู้สึกอิ่มท้อง ทำให้เราคุมอาหารได้ดีขึ้น พิชิตพุงโต ๆ ให้เรียบแบนได้ดีขึ้นนั่นเอง
สารต้านอนุมูลอิสระและคุณสมบัติต้านการอักเสบในวอลนัทเป็นส่วนสำคัญที่จะ ช่วยต่อต้านความเสี่ยงโรคอ้วนลงพุงได้ อีกทั้งโปรตีนและไฟเบอร์ในวอลนัทยังจะช่วยให้เรารู้สึกอิ่มท้อง ทำให้เราคุมอาหารได้ดีขึ้น พิชิตพุงโต ๆ ให้เรียบแบนได้ดีขึ้นนั่นเอง
8. ไข่ขาว
ไข่ขาวมีโปรตีนสูง ไขมันต่ำ และเป็นอาหารลดพุงที่หากินได้ง่าย แถมยังมีราคาไม่แพง ดังนั้นใครอยากลดพุงแนะนำให้กินไข่ขาวเป็นประจำทุกวัน วันละ 1 ฟองก็ยังดี เพื่อให้โปรตีนในไข่ขาวช่วยเปลี่ยนไขมันในช่องท้องให้เป็นกล้ามเนื้อ และช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญของร่างกาย
ไข่ขาวมีโปรตีนสูง ไขมันต่ำ และเป็นอาหารลดพุงที่หากินได้ง่าย แถมยังมีราคาไม่แพง ดังนั้นใครอยากลดพุงแนะนำให้กินไข่ขาวเป็นประจำทุกวัน วันละ 1 ฟองก็ยังดี เพื่อให้โปรตีนในไข่ขาวช่วยเปลี่ยนไขมันในช่องท้องให้เป็นกล้ามเนื้อ และช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญของร่างกาย
9. บรอกโคลี
บรอกโคลีเป็นผักที่มีแคลอรีต่ำประมาณ 34 กิโลแคลอรี และยังเปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการสูง ได้แก่ เส้นใยอาหาร เบต้าแคโรทีน ที่มีส่วนช่วยละลายไขมันเลว วิตามินซี วิตามินเค ซึ่งมีส่วนช่วยกระตุ้นการเผาผลาญไขมันในร่างกาย และสารไฟโตนิวเทรียนท์ที่มีคุณสมบัติต้านมะเร็ง
บรอกโคลีเป็นผักที่มีแคลอรีต่ำประมาณ 34 กิโลแคลอรี และยังเปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการสูง ได้แก่ เส้นใยอาหาร เบต้าแคโรทีน ที่มีส่วนช่วยละลายไขมันเลว วิตามินซี วิตามินเค ซึ่งมีส่วนช่วยกระตุ้นการเผาผลาญไขมันในร่างกาย และสารไฟโตนิวเทรียนท์ที่มีคุณสมบัติต้านมะเร็ง
10. เมล็ดแฟลกซ์
เมล็ดแฟลกซ์เป็นซูเปอร์ฟู้ดที่ช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดเลวได้ เพราะมีไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำที่จะช่วยจับไขมันชนิดเลวในร่างกายและพาออกมาใน รูปของเสียตอนเราขับถ่าย อีกทั้งในเมล็ดแฟลกซ์ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระคอยช่วยกระตุ้นการเผาผลาญไขมัน ชนิดเลวในช่องท้องได้ดีขึ้นด้วย
จุด เริ่มต้นของการลดพุงที่ทำได้ง่าย ๆ และสามารถทำได้ทุกคนแน่ ๆ ก็แค่เลือกกินอาหารเหล่านี้ และถ้าอยากลดพุงได้เร็วขึ้น เห็นผลชัดเจนขึ้นอีก ก็แนะนำให้ออกกำลังกายร่วมด้วยนะคะ โดยอาจแกว่งแขนลดพุงสักหน่อยก็ยังดี
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
เมล็ดแฟลกซ์เป็นซูเปอร์ฟู้ดที่ช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดเลวได้ เพราะมีไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำที่จะช่วยจับไขมันชนิดเลวในร่างกายและพาออกมาใน รูปของเสียตอนเราขับถ่าย อีกทั้งในเมล็ดแฟลกซ์ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระคอยช่วยกระตุ้นการเผาผลาญไขมัน ชนิดเลวในช่องท้องได้ดีขึ้นด้วย
จุด เริ่มต้นของการลดพุงที่ทำได้ง่าย ๆ และสามารถทำได้ทุกคนแน่ ๆ ก็แค่เลือกกินอาหารเหล่านี้ และถ้าอยากลดพุงได้เร็วขึ้น เห็นผลชัดเจนขึ้นอีก ก็แนะนำให้ออกกำลังกายร่วมด้วยนะคะ โดยอาจแกว่งแขนลดพุงสักหน่อยก็ยังดี
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ชีวจิต
eatingwell
bodybuilding
eatingwell
bodybuilding
http://health.kapook.com/view153291.html
เครดิตภาพ http://health.kapook.com/view153291.html
No comments:
Post a Comment