1.
ขนาดของสมองส่วนหน้า
และสมองส่วนอารมณ์
ซึ่งทำหน้าที่เกี่ยวกับการเผชิญกับการแก้ปัญหาและการตอบสนองทางอารมณ์ของผู้หญิงใหญ่กว่าผู้ชาย
จึงทำให้ผู้หญิงแก้ปัญหาต่างๆ และมีทักษะในการใช้ภาษาและอารมณ์ได้ดีกว่า
2.
สมองของผู้หญิงมีการเชื่อมต่อระหว่างสมองสองซีกอยู่เกือบตลอดเวลา
ทำให้ผู้หญิงถนัดนักเรื่องการทำหลายๆ อย่างพร้อมกัน
3.
สมองส่วนลิมบิกของผู้หญิงจะมีหยักลึกใหญ่
ส่งผลให้ผู้หญิงมีความรู้สึกที่ละเอียด จับอารมณ์และความรู้สึกได้เร็วกว่า
แสดงอารมณ์ได้ละเอียดลออ
จึงมีความสามารถในการสร้างความสัมพันธ์หรือประสานความสัมพันธ์ได้ดีกว่า
4.
ผู้หญิงจะใช้สมองทั้งสองซีกในเรื่องการสื่อสารและภาษา ดังนั้น ถ้าสมองซีกซ้ายที่ปกติเป็นส่วนที่ดูแลเรื่องภาษาถูกทำลาย
ผู้หญิงก็ยังจะสามารถใช้สมองซีกขวาในการสื่อสารได้
5.
ผู้หญิงนั้นมีคอร์ปัส คอลโลสลัม
เป็นส่วนที่เส้นประสาทสมองมีการเชื่อมต่อกัน มีขนาดใหญ่กว่าผู้ชาย จึงใช้สมองทั้ง 2 ซีกประสานการทำงานได้ดี
ทำให้ผู้หญิงจัดการความคิดของตัวเองได้รวดเร็วกว่า
6.
ผู้หญิงจะมีสมองส่วนฮิปโปแคมปัส
ขนาดใหญ่กว่าผู้ชาย ทำให้ผู้หญิงจดจำเรื่องราวต่างๆ ได้มากกว่า
และสามารถระลึกถึงเหตุการณ์เก่าๆ ที่สะเทือนจิตใจได้ดีกว่าผู้ชาย
7.
ในสภาวะปกติ สมองผู้หญิงจะหลั่งเซโรโทนิน
เป็นสารที่ช่วยในการควบคุมอารมณ์ยับยั้งความก้าวร้าวมากกว่าผู้ชาย แต่เมื่อเกิดความเครียด
สมองผู้หญิงหลั่งสารนี้ลดลง ทำให้ควบคุมอารมณ์ไม่ค่อยได้ ใจร้อน และวิตกกังวลง่าย
8.
สมองของผู้หญิงขณะมีประจำเดือนจะเปลี่ยนแปลงทุกๆ
วัน และบางบริเวณของสมองอาจเปลี่ยนแปลงได้ถึง 25% : เดือน
บางครั้งผู้หญิงที่มีความมั่นใจ มีความสุข และทำงานเก่ง
อาจเปลี่ยนเป็นคนที่มองโลกในแง่ร้าย ในช่วงก่อนและระหว่างมีประจำเดือนได้
9.
การที่ผู้หญิงใช้สมองทั้ง 2 ด้านไปพร้อมกันในการทำสิ่งต่างๆ
ทำให้ผู้หญิงหลายคนมีปัญหาเรื่องมือขวา-มือซ้าย
โดยพบว่าผู้หญิงราว 50% นึกไม่ออกว่ามือซ้าย หรือมือขวา
ถ้าไม่ได้เหลือบตาลงมอง
10.
สมองผู้หญิงมีการรับรู้ เข้าใจ การแสดงออกทางสีหน้าท่าทาง
จดจำคนได้ดี รับรู้อารมณ์แสดงออกทางเสียงได้ดี
11.
ในสมองมีบริเวณหนึ่งที่เรียกว่า Anterior Cingulate
Cortex ซึ่งเป็นส่วนสำคัญต่อการคาดการณ์การตัดสินใจ การควบคุม
และตอบสนองต่อความเครียด ซึ่งผู้หญิงจะมีสมองส่วนนี้ใหญ่กว่าผู้ชาย
อีกทั้งกระตุ้นได้ง่ายกว่า ผู้หญิงจึงมักมีความกังวลต่อเรื่องต่างๆ ได้มากกว่า
12.
จากการสแกนสมองพบว่า
บริเวณที่เกี่ยวข้องกับสัญชาตญาณหรือลางสังหรณ์
ในสมองผู้หญิงนั้นมีขนาดใหญ่กว่าและตอบสนองไวกว่าในผู้ชาย
คงจะช่วยยืนยันคำกล่าวที่ว่า “ผู้หญิงมีสัญชาตญาณและลางสังหรณ์ดีกว่าผู้ชาย” ได้เป็นอย่างดี
13.
สมองผู้หญิงจะหดเล็กลงในช่วงตั้งครรภ์
แต่ไม่ได้สูญเสียเซลล์สมอง หากมีการเปลี่ยนแปลงในกระบวนการเผาผลาญ
และเกิดการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างของสมองแทน
14.
ช่วงรอยต่อก่อนเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน (2-9 ปีก่อนหมดประจำเดือน) อาจเป็นช่วงเปราะบางต่อการเกิดอารมณ์ปรวนแปรและหงุดหงิดง่าย
เพราะสมองมีความไวของการตอบสนองต่อฮอร์โมนเอสโตรเจน
และการรับรู้ความเครียดมากกว่าเดิม
15.
เซลล์สมองของผู้หญิงจะตอบสนองต่อการสื่อสารการพูดมากกว่าผู้ชาย
เพราะทำให้สมองหลั่งสารเคมีที่ทำให้รู้สึกเคลิบเคลิ้มแบบเดียวกับความรู้สึกของคนเสพเฮโรอีน
16.
ผู้หญิงควรนอนหลับพักผ่อนมากกว่าผู้ชายเฉลี่ย 20 นาที
เพื่อให้สมองฟื้นฟูและซ่อมแซมตัวเอง
เนื่องจากผู้หญิงใช้สมองส่วนที่ควบคุมการทำงานหลายอย่างในเวลาเดียวกัน
17.
ผู้หญิงมีความสามารถในการจับโกหกได้เก่ง
ด้วยสมองของผู้หญิงจะวิเคราะห์การแสดงออกทางสีหน้า
และภาษาท่าทางที่แสดงออกมากกว่าถ้อยคำที่พูดออกมา
18.
ผู้หญิงมีประสิทธิภาพการได้ยินดีกว่าผู้ชายถึง 2 เท่า
เพราะเซลล์ประสาทสมองทั้ง 2 ข้างจะถูกกระตุ้นขณะฟัง
จึงทำให้แยกประสาทการรับฟังการสนทนาได้ดีกว่า
19.
การจิบกาแฟทำให้สมองผู้หญิงกระปรี้กระเปร่าขึ้น
เมื่อต้องทำงานร่วมกับผู้อื่น แต่กลับบั่นทอนความสามารถในการจดจำ
และการตัดสินใจของผู้ชายช้าลง
ที่ว่าผู้หญิงเข้าใจยาก.....ส่วนหนึ่งก็มาจากที่สมองของผู้หญิงและผู้ชายมีการทำงานที่ต่างกัน
ทำให้เรื่องที่ผู้หญิงทำและคิด ยากที่ผู้ชายจะเข้าใจเท่านั้นเอง
แหล่งที่มา วารสารเผยแพร่ความรู้ รพ. วิภาวดี
ฉบับประจำเดือน กรกฏาคม – กันยายน
2556
No comments:
Post a Comment