Wednesday, April 27, 2016

10 วิธีกำจัดกลิ่นและคราบบนที่นอนให้สะอาดหมดจด




         รวมสุดยอดวิธีทำความสะอาดที่นอนในแบบฉบับแม่บ้านมือโปร เพื่อให้ที่นอนของคุณสะอาดอย่างแท้จริง นอนหลับได้อย่างสบายใจเพราะไม่มีคราบเปื้อนหรือกลิ่นเหม็นใด ๆ มารบกวน

          คุณแม่บ้านมือใหม่ที่ยังไม่เชี่ยวชาญในเรื่องของการทำความสะอาดโดยเฉพาะสิ่ง สกปรกบนที่นอนต้องรีบจดเก็บไว้เลย เพราะนี่คือรวมวิธีทำความสะอาดที่นอนจากสารพัดคราบเปื้อนและกลิ่นเหม็นในแบบ ฉบับที่แม่บ้านมือโปรเขาใช้กัน ซึ่งกระปุกดอทคอมขออาสารวบรวมมาไว้ให้คุณหมดแล้ว ไม่ว่าที่นอนของคุณจะต้องเจอกับคราบเปื้อนและกลิ่นเหม็นหนักหนาขนาดไหนนั้น วิธีเหล่านี้ช่วยจัดการได้ค่ะ
 

1. ทำความสะอาดง่าย ๆ ได้ด้วยเครื่องดูดฝุ่น

          หากใครที่ไม่ค่อยมีเวลาทำความสะอาดที่นอนมากนัก ขอแนะนำให้ใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดทำความสะอาด กำจัดคราบสกปรกและไรฝุ่นต่าง ๆ ให้หมดไป และที่สำคัญใน 1 สัปดาห์ควรถอดผ้าปูที่นอนไปซักด้วย ก็จะช่วยให้ที่นอนสะอาดมากยิ่งขึ้น

2. ดับกลิ่นทั่วไปด้วยเบกกิ้งโซดา

          ปัญหาคราบเหงื่อหรือปัจจัยต่าง ๆ ที่ทำให้ที่นอนมีกลิ่นเหม็นอับจะหมดไป เพียงแค่ผสมเบกกิ้งโซดากับกลิ่นน้ำมันหอมระเหยที่เราชอบให้เข้ากัน จากนั้นโรยไปบนที่นอนให้ทั่ว ใช้แปรงขัด ๆ ถู ๆ อย่างเบามือและเน้นตรงบริเวณที่มีคราบ ทิ้งไว้ 10 นาที แล้วใช้เครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาดเบกกิ้งโซดาออกให้หมด

3. กำจัดคราบเลือดบนที่นอน

          หากมีคราบเลือดบนที่นอนไม่จำเป็นต้องใช้น้ำยาเคมีกำจัดออกให้ยุ่งยาก เพียงแค่ผสมไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ¼ ถ้วยตวง น้ำยาล้างจาน 1 ช้อนโต๊ะ และเกลืออีก 1 ช้อนโต๊ะ คนส่วนผสมทั้งหมดให้เป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นนำไปถูลงบนคราบเลือดและใช้ผ้าสีขาวซับออก สุดท้ายผสมน้ำเย็น 2 ถ้วยตวงผสมกับน้ำยาล้างจาน 1 ช้อนโต๊ะแล้วคนให้เข้ากัน นำฟองน้ำมาชุบแล้วซับลงไปบนคราบและใช้ผ้าแห้งเช็ดออกอีกครั้ง รับรองว่าคราบเลือดที่ฝังแน่นก็หลุดออกอย่างง่ายดาย

4. ล้างคราบปัสสาวะอย่างหมดจด

          บ้านไหนที่มีเด็กน้อยก็ต้องพบเจอปัญหานี้เป็นธรรมดา แต่ไม่ต้องเป็นห่วงเพราะกำจัดออกได้ด้วยการผสมไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ 1 ถ้วยตวง เบกกิ้งโซดา 3 ช้อนโต๊ะ และน้ำยาล้างจานอีก 2 หยด จากนั้นป้ายลงไปบนคราบและรอจนแห้ง แล้วล้างออกด้วยน้ำยาที่ผสมจากผงซักฟอก 3 ช้อนโต๊ะกับน้ำเปล่า 1 ช้อนโต๊ะ จากนั้นค่อย ๆ ป้ายลงบนคราบและอย่าให้เปียก ทิ้งไว้ครึ่งชั่วโมง ใช้ผ้าซับคราบออกพร้อมใช้เครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาดตามอีกรอบ

5. ทำความสะอาดคราบธรรมดาทั่ว ๆ ไป

          แม้จะสำรวจแล้วว่าคราบสกปรกนั้นไม่ใช่คราบหนักอะไร แต่เราก็ต้องรีบทำความสะอาดก่อนที่คราบนั้นจะเกาะแน่นติดทนนาน ด้วยสูตรสบู่แห้งที่มีส่วนผสมดังนี้ ผสมน้ำยาล้างจาน ¼ ถ้วยตวง กับน้ำเปล่า 2-3 ช้อนชา ให้ได้เนื้อโฟมหนา ๆ จากนั้นป้ายเนื้อโฟมลงไปบนคราบเปื้อน ใช้แปรงขนนุ่มขัดคราบให้หลุดออก แล้วทิ้งไว้ให้แห้งก่อนใช้ผ้าเช็ดส่วนผสมออก

6. กำจัดคราบและกลิ่นบุหรี่

          ทั้งคราบขี้บุหรี่และกลิ่นควันบุหรี่อาจจะดูเป็นเรื่องยากในการกำจัด แต่ถ้าหากลองใช้สูตรนี้แล้วจะกลายเป็นเรื่องง่ายขึ้นมาทันที ก่อนอื่นต้องรีบถอดผ้าปูที่นอนไปซัก จากนั้นผสมเบกกิ้งโซดา 1 ส่วนกับน้ำเย็น 2 ส่วนแล้วขัดลงบนคราบและทิ้งไว้ 30 นาที จากนั้นใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ ซับออกให้เกลี้ยง

7. กำจัดเหล่าเชื้อราและรอยด่างดำ

          เริ่มจากยกที่นอนออกมาตากแดด แล้วใช้เครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาดให้ทั่ว นำฟองน้ำไปชุบลงในส่วนผสมที่มีแอลกอฮอล์และน้ำอุ่นในปริมาณที่เท่า ๆ กัน จากนั้นซับลงไปบนที่นอนเน้นจุดที่เป็นคราบเชื้อรา เพื่อให้มั่นใจว่าเชื้อราตายสนิทแน่นอน

8. คราบเครื่องดื่มนานาชนิด

          ไม่ว่าจะเป็นคราบกาแฟ น้ำผลไม้ หรือแม้กระทั่งน้ำนม ก็ไม่เกินความสามารถของแม่บ้านอย่างเรา ๆ แน่นอน แค่ใช้น้ำยาทำความสะอาดสูตรมะนาวหรือน้ำส้มสายชูเทลงในขวดสเปรย์ แล้วฉีดลงไปบนคราบเครื่องดื่มหรือจะใช้ผ้าสะอาด ๆ ชุบแอลกอฮอล์แล้วซับลงไปโดยตรงเลยก็ได้เลยค่ะ

9. คลุมที่นอนด้วยผ้าปูไวนิล

          ไม่เพียงแต่วิธีทำความสะอาดที่เราต้องนำมาใช้นั้น ยังมีวิธีป้องกันที่นอนจากสิ่งสกปรกด้วยการเลือกใช้ผ้าปูที่นอนและปลอกหมอน แบบไวนิลมาสวมรองก่อนสวมปลอกหมอนหรือผ้าปูที่นอนจริงอีกต่างหาก เจ้าผ้าปูไวนิลนี้ทำจากเส้นใยโพลีเอสเตอร์ช่วยป้องกันไม่ให้สิ่งสกปรกสัมผัส เข้าถึงที่นอนและหมอนยังไงล่ะคะ

10. ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศเพื่อกำจัดฝุ่น

          สาเหตุหลัก ๆ ของสิ่งสกปรกบนที่นอนนั้นมาจากสภาพอากาศชื้น ๆ และไรฝุ่นในห้องนอน ดังนั้นเราควรตัดปัญหาตั้งแต่ต้นลมด้วยการติดตั้งเครื่องฟอกอากาศ ซึ่งสามารถช่วยลดความชื้นได้ถึง 30-50% เลยทีเดียว

          ในเมื่อรู้สารพัดวิธีทำความสะอาดที่นอนอย่างนี้แล้ว ก็อย่ามองว่าคราบเปื้อนบนที่นอนเป็นเรื่องไม่สำคัญ มิเช่นนั้นคราบสกปรกเหล่านี้จะส่งผลกระทบในด้านลบต่อการนอนหลับของคุณเอง

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Housewifehowtos และ Wikihow
http://home.kapook.com/view142825.html

No comments:

Post a Comment