Friday, April 10, 2015

10 ประโยชน์น่าว้าวของการยิ้ม รู้อย่างนี้ใครไม่ยิ้มก็บ้าแล้ว




          ยิ้มแล้วดียังไง นอกจากได้บุคลิกภาพที่ดีแล้ว การยิ้มยังให้ประโยชน์ด้านสุขภาพที่น่าเซอร์ไพร์สมากนะขอบอก

          รอยยิ้มเป็นมิตรภาพอย่างแรกที่ใครเห็นก็ต้องประทับใจ แต่ล่าสุดยังมีผลวิจัยช่วยการันตีอีกเสียงว่าแค่ยิ้มคุณก็ได้รั­­บโชคเป็นสุขภาพดีเต็มกระบุง ส่วนเรื่องราวจะเป็นยังไงนั้น เราได้สืบข้อมูลจาก Huffington Post มารอเสิร์ฟคุณตรงนี้แล้ว

 

ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ไล่อารมณ์บูด
  
           แน่นอนว่ารอยยิ้มบนใบหน้าบ่งบอกได้ถึงอารมณ์ชนิดบวก ทว่าแม้คุณจะยิ้มด้วยความไม่จริงใจออกมา นักวิจัยกลับบอกว่า จากที่อารมณ์บูด ๆ อยู่คุณจะรู้สึกดีขึ้นได้เพราะรอยยิ้มนั้น อธิบายให้เข้าใจก็คือ แม้สมองจะเป็นฝ่ายผลิตอารมณ์ความรู้สึก แต่กล้ามเนื้อบนใบหน้าที่ทำหน้าที่สื่อสีหน้าของบุคคลสามารถเข้­­าไปเปลี่ยนแปลงอารมณ์ที่สมองสั่งการมาได้ ดังนั้นแม้คุณจะรู้สึกกดดันแค่ไหน ทว่าเพียงแค่ฉีกยิ้มออกมาก็จะรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นแล้ว

ลดความเครียดก็ได้

            ผลการทดลองจากคณะวิทยาศาสตร์จิตวิทยาของมหาวิทยาลัยแคนซัสได้ทด­ลองให้กลุ่มอาสาสมัครราว 170 คนคาบตะเกียบไว้ที่ปากเป็น 3 รูปแบบที่กำหนดไว้ จากนั้นก็ทำให้อาสาสมัครยิ้มโดยไม่ต้องกังวลกับตะเกียบที่คาบอย­­ู่ในปาก ซึ่งผลการทดลองก็พบว่า กลุ่มอาสาสมัครที่ยิ้มได้กว้างมากกว่าใคร มีอัตราการเต้นของหัวใจที่สม่ำเสมอขึ้น ในขณะที่อารมณ์ที่สื่อถึงความตึงเครียดกลับลดระดับลงเมื่อเทียบ­­กับอาสาสมัครที่ไม่ค่อยยิ้มเพราะมัวกังวลกับตะเกียบที่คาบอยู่­

 
ดูเป็นมิตร

          เรื่องรอยยิ้มไม่ใช่เรื่องกิ๊กก๊อกเลยจริง ๆ เพราะขนาดมหาวิทยาลัยเพนน์ สเตท ยังทำการศึกษาทางจิตวิทยาขึ้นมาเลยว่า พนักงานบริษัทที่ให้บริการต่าง ๆ ที่ยิ้มบ่อย จะมีอัตราขายงานได้มากกว่าคนที่ยิ้มน้อยหลายเท่า ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะว่ารอยยิ้มช่วยเปิดทางให้คุณดูน่าคบหา สร้างทัศนคติที่ดีแก่ผู้ที่พบเห็นได้ง่าย ๆ


เพิ่มความน่าไว้วางใจ

          ในมุมมองของนักจิตวิทยา รอยยิ้มจะช่วยส่งเสริมบุคลิกภาพให้ดูน่าไว้วางใจมากขึ้น ซึ่งมหาวิทยาลัยพิตต์สเบิร์กก็ตอกย้ำข้อมูลนี้ด้วยผลการทดลองกั­­บนางแบบ 45 ชีวิต เพื่อเทียบระหว่างความมีเสน่ห์กับความน่าไว้วางใจเมื่อพวกเธอยิ­­้ม ซึ่งผลการทดลองก็พบว่า นางแบบที่ยิ้มได้กว้างและดูจริงใจ กลับมีบุคลิกบางอย่างที่บ่งบอกว่าเธอน่าไว้วางใจมากกว่าน่าดึงด­­ูดในแบบสวยเซ็กซี่สะดุดตา

 
ฝึกสมองให้ดีกว่าเดิม

          การทำงานของสมองเป็นส่วนที่ซับซ้อนและเข้าใจไม่ง่ายนัก แต่ฌอร์น อาเชอร์ นักเขียนชื่อดัง เจ้าของหนังสือ The Happiness Advantage ได้กล่าวว่า แค่เพียงยิ้มทุกวันก็เหมือนได้เทรนสมองให้เข้าใกล้ขีดความสุขมา­­กขึ้น แม้ในช่วงเวลาที่พบกับความเครียดหรือเมื่อสมองสั่งการให้คิดอะไ­­รในแง่ลบ สมองจะได้จดจำว่าการยิ้มจะช่วยลดความคิดแง่ลบเหล่านั้น แล้วแทนที่ด้วยระดับความสุขที่มากขึ้น


ยิ้มเป็นโรคติดต่อที่ดี

          ใครแสดงความรู้สึกอย่างไรมาเราก็แสดงความรู้สึกชนิดเดียวกันกลั­­บไป ปรากฎการณ์นี้มีนักประสาทวิทยาศาสตร์ มาร์โค อิอาโกบอนิ ให้ความรู้ว่า ร่างกายเราจะมีตัวสะท้อนเซลล์ประสาท นั่นก็คือ เยื่อหุ้มสมองส่วนหน้า (premotor cortex) และกลีบข้างของสมอง (inferior parietal cortex ) คอยทำหน้าที่รับ-ส่งข้อมูลที่ได้รู้เห็นและกระตุ้นให้ร่างกายพยายามเลียนแบบ สิ่ง­­ที่เห็นและเข้าใจ ดังนั้นหากเราเห็นรอยยิ้มเราก็จะยิ้มตอบโดยอัตโนมัติ หรือหากเรายิ้มคนอื่นก็จะยิ้มตามเช่นกัน

 
รอยยิ้มช่วยฟื้นฟูการทำงานของเซลล์

          ซอนดรา บาร์เรตต์ ศิลปินผู้เป็นเจ้าของหนังสือ Secrets of Your Cells ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ในหนังสือของเธอว่า เซลล์ในร่างกายทั้งหมดมีส่วนสำคัญในการสร้างสมดุลความรู้สึกทั้­­งหมดทั้งมวลในร่างกายมนุษย์ ซึ่งก็เท่ากับว่าทุกความรู้สึกนึกคิดของเราส่งผลกระทบโดยตรงไปย­­ังเซลล์ในร่างกายตลอดเวลา ดังนั้นเมื่อเรายิ้มก็เหมือนได้ช่วยลดความตึงเครียดของเซลล์ในร­­่างกาย ต่อสู้กับความเครียดอันเป็นต้นเหตุใหญ่ของปัญหาเซลล์เปลี่ยนแปล­­งจนเป็นสาเหตุของโรคความดันและโรคมะเร็งต่าง ๆ อีกทั้งยังช่วยฟื้นฟูสภาพของเซลล์ให้พร้อมทำงานอย่างเต็มที่


ช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงาน

          เมื่อ ปี 2010 นักวิจัยทางเศรษศาสตร์ได้ทำการวิจัยและพบว่า รอยยิ้มสามารถสร้างความสุขในร่างกายและมีนัยสำคัญที่เกี่ยวข้อง­­กับประสิทธิภาพในการทำงานของตัวบุคคล โดยคนที่ยิ้มง่ายและอารมณ์ดี มีแนวโน้มจะทำงานเก่งและเป็นคนมีศักยภาพในการทำงานที่เปี่ยมล้น­­กว่าเสือยิ้มยากทั้งหลาย ซึ่งมีแนวโน้มศูนย์เสียศักยภาพการทำงานทีละเล็กละน้อยหากยังยิ้­­มยากเหมือนเดิม

 
หัวสมองเร็วกว่าแค่คุณยิ้ม

          มหาวิทยาลัย แคลิฟอร์เนีย ซานฟรานซิสโก เผยผลวิจัยที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมการยิ้ม­­กับระดับ อารมณ์ของบุคคลเมื่อปี 2013 ว่า คนที่มีความสุขและยิ้มแย้มเป็นประจำมีแนวโน้มจัดการกับปัญหาและ­­ความยากลำบากต่าง ๆ ได้ดีกว่าคนที่มีระดับความสุขน้อย แถมยังมีความสามารถในการหาทางออกของปัญหาได้หลากหลายมากกว่า เนื่องจากเมื่อเรามีความสุขร่างกายจะหลั่งโดพามีนออกมาเป็นสารส­­ื่อประสาท ที่ช่วยส่งเสริมกระบวนการคิดและการตัดสินที่แม่นยำมา­ก­ขึ้นนั่นเอง


ไม่เสียสตางค์

          จะหาของฟรีที่แสนดีในโลกนี้ได้จากที่ไหน ซึ่งรอยยิ้มสามารถตอบโจทย์ข้อนี้ของคุณได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยเพราะรอยยิ้มเป็นสิ่งที่อยู่ติดกับตัวเรา อารมณ์เองก็เช่นกัน ทุกอย่างเป็นสิ่งที่ร่างกายของเราสร้างขึ้นมาได้เองทั้งหมด ดังนั้นเพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น เรามายิ้มกันเถอะนะคะ

          อย่างที่บอกว่ายิ้มเป็นของฟรีที่เราทำได้ทุกที่ทุกเวลา ฉะนั้นถ้ารู้ข้อดีของการยิ้มแบบนี้แล้วยังทำหน้านิ่งเป็นประจำอ­­ยู่อีกล่ะก็ เอาที่คุณสบายใจเลยละกันเนอะ


แหล่งที่มา  http://health.kapook.com/view116482.html

No comments:

Post a Comment