Thursday, February 9, 2017

10 อาหารเย็นที่ควรเลี่ยง ถ้าอยากผอม และนอนให้หลับ




         อาหารที่ควรเลี่ยงในมื้อเย็น ไม่ใช่เพราะกินแล้วอ้วนอย่างเดียว แต่อาจทำให้นอนไม่หลับ หรือลุกมาเข้าห้องน้ำกลางดึกบ่อย ๆ ได้

          อย่างที่เคยเตือนกันเป็นประจำว่า การเลี่ยงมื้อเย็นไม่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพหรือรูปร่างเราเลย ดังนั้นเราก็ไม่ควรอดมื้อเย็นด้วยประการทั้งปวง แต่การรับประทานมื้อเย็นแบบไม่ให้กระทบสุขภาพก็มีหลักที่ควรปฏิบัติด้วยเช่นกัน อย่างวันนี้ที่เราจะมาแนะนำเมนูอาหารที่ไม่ควรกินเป็นมื้อเย็น ด้วยหลากหลายเหตุผลที่ควรเลี่ยง เพราะบางเมนูก็แคลอรีสูงเกิน หรือมีคาเฟอีนและกรดจนทำให้นอนไม่หลับได้ เอาล่ะ ! มาดูกันว่าเมนูอาหารเย็นเพื่อรูปร่างและสุขภาพที่ดี เราควรเลี่ยงอะไรบ้าง

1. อาหารย่อยยาก

          อาหารประเภทของมัน ของทอด เนื้อสัตว์ติดมัน นอกจากจะเป็นอาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูง เป็นต้นเหตุของภาวะไขมันสะสมจนทำให้อ้วนได้แล้ว ยังเป็นอาหารที่ร่างกายต้องใช้เวลาในการย่อยค่อนข้างนานพอสมควร ดังนั้นหากเรากินอาหารประเภทนี้ในมื้อเย็น กระบวนการย่อยอาหารอาจเลยเถิดไปถึงช่วงการนอนพักผ่อน จนทำให้ร่างกายตื่นตัวและนอนไม่หลับได้

2. แอลกอฮอล์ทุกชนิด

          ไม่ว่าจะเป็นเบียร์ เหล้า หรือแม้แต่ไวน์ทุกสี ก็ล้วนแต่มีฤทธิ์กระตุ้นเมตาบอลิซึมให้ทำงานเร็วขึ้นจนหัวใจเต้นแรงไปด้วย ซึ่งอาจทำให้สะดุ้งตื่นเป็นพัก ๆ ได้ และที่แย่ไปกว่านั้น แอลกอฮอล์ยังเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้นอนกรนด้วยนะคะ ดังนั้นพยายามหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มเหล่านี้ในมื้อเย็นจะดีกว่า

3. ไอศกรีม และมันฝรั่งทอด

          ไอศกรีมหรือสแนคตบท้ายมื้อเย็นเป็นสวรรค์ของใครหลายคน แต่ทราบไหมคะว่า การที่คุณกินอาหารที่เปี่ยมไปด้วยคอเลสเตอรอลขนาดนี้ ระบบการย่อยของร่างกายจะต้องทำโอทีจนคุณรู้สึกปั่นป่วนในขณะนอนหลับ คราวนี้ก็ตื่นกลางดึกกันเป็นว่าเล่นเลยทีเดียว

4. ชา กาแฟ และน้ำอัดลม
          ดร.ทิโมที โรเออร์ นักวิทยาศาสตร์อาวุโสที่ทำงานวิจัยให้กับสถาบันวิจัยเฮนรีฟอร์ดในดีทรอยท์ บอกให้รู้ว่า ฤทธิ์ของคาเฟอีนในชา กาแฟ และน้ำอัดลม ไม่ใช่ย่อย ๆ เลยล่ะ ฉะนั้นหากดื่มเครื่องดื่มเหล่านี้เข้าไปในมื้อเย็น เตรียมตัวตาค้างค่อนคืนได้เลย อ้อ ! นอกจากนี้แล้วก็ควรระวังเครื่องดื่มชูกำลังที่มีฤทธิ์กระตุ้นการทำงานของร่างกายด้วยนะ

5. อาหารรสจัด

          สำหรับคนที่ชอบกินอาหารรสจัดในมื้อเย็น โปรดทราบเลยค่ะว่า ความเผ็ดร้อนของเครื่องเทศและสมุนไพรต่าง ๆ อาจไปกระตุ้นให้ระบบย่อยอาหารระบบขับถ่าย และระบบหายใจตื่นตัว ทำให้ค่ำคืนนั้นเป็นอีกคืนหนึ่งที่คุณนอนหลับอย่างกระสับกระส่าย ยิ่งหากกินอาหารรสจัดแกล้มกับอาหารที่มีไขมันสูงด้วยแล้ว โป๊ะเช๊ะเลยว่าตื่นมาได้กลายเป็นหมีแพนด้าแน่

6. ดาร์กช็อกโกแลต

          ช็อกโกแลตเป็นอาหารที่ควรกินยามบ่ายต้น ๆ มากกว่าในมื้อเย็นค่ะ เพราะในดาร์กช็อกโกแลตหรือแม้แต่โกโก้ที่มีความเข้มข้นสูง ก็แอบแฝงปริมาณคาเฟอีนไว้พอสมควรเลย ยกตัวอย่างเช่น ดาร์กช็อกโกแลต 1 บาร์ ขนาด 1.55 ออนซ์ ก็มีปริมาณคาเฟอีนมากถึง 12 มิลลิกรัม เทียบเท่ากับปริมาณคาเฟอีนในกาแฟถึง 3 แก้ว ! อื้อหือ ไม่ต้องเดาเลยว่าถ้ากินดาร์กช็อกโกแลตเข้าไปในมื้อเย็น ร่างกายจะคึกคักตื่นตัวขนาดไหน

7. ผักสีเขียว

          เข้าใจไม่ผิดหรอกค่ะว่า ผักสีเขียวมีประโยชน์กับร่างกาย ทว่าผักสีเขียวบางชนิด เช่น บรอกโคลี กะหล่ำปลี ต้นหอม เป็นทั้งผักที่มีเส้นใยสูง และมีผลทำให้กระบวนการย่อยอาหารทำงานช้าลง ซึ่งอาจทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะมารบกวนการนอน ทำให้นอนหลับไม่สบายได้นั่นเอง

8. เกลือ

          คิดว่าคงไม่มีใครกินเกลือเล่น ๆ หรอกค่ะ แต่เชื่อไหมว่าหลายมื้ออาหาร เราก็กินเกลือไปเกินขนาดที่ร่างกายจะขับออกได้หมด โดยเฉพาะในมื้อเย็น การรับประทานอาหารที่มีโซเดียมสูง เช่น อาหารปรุงสำเร็จ ขนมกรุบกริบ ไข่เค็ม ปลาเค็ม ปูเค็ม ปลาแดดเดียว กุนเชียง แฮม เบคอน ไส้กรอก ผลไม้ดอง และอาหารที่ผ่านกระบวนการแปรรูปอื่น ๆ ซึ่งอาจทำให้ร่างกายเกิดภาวะโซเดียมสูง จนก่อให้เกิดการบวมน้ำ ความดันโลหิตไม่ปกติ และอาจปวดปัสสาวะบ่อยในตอนกลางคืน

9. เผือก มันเทศ มันสำปะหลัง

          อาหารประเภทหัวเหล่านี้มีปริมาณคาร์โบไฮเดรสค่อนข้างสูง ดังนั้นหากใครไม่อยากมีไขมันสะสม หรือกำลังไดเอตอยู่ พยายามหลีกเลี่ยงอาหารประเภทนี้ในมื้อเย็นเถอะค่ะ

0. ขนมหวานและอาหารที่มีน้ำตาลสูง

          นอกจากไอศกรีม ชา กาแฟ แล้ว มื้อเย็นก็ไม่ควรกินขนมหวาน เบเกอรี่ หรืออาหารที่มีรสหวานจัดทุกชนิด เนื่องจากน้ำตาลที่มากเกินไป อาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูง จนรบกวนการนอนหลับได้ อีกทั้งความอ้วนยังเตรียมมาเยือนคุณด้วยนะคะ หากรับประทานขนมหวาน ๆ หลังมื้อเย็นเป็นประจำอย่างนี้


          ทั้งหมดนี้ก็เป็นอาหารเย็นที่ควรเลี่ยงให้ไกล ถ้าไม่อยากน้ำหนักตัวขึ้นพรวด ๆ ลุกมาเข้าห้องน้ำบ่อย ๆ ตอนกลางคืน หรือนอนไม่หลับเอาซะเลย

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
MODERNMOM
เครดิตภาพ  https://health.kapook.com/view127936.html

No comments:

Post a Comment