บางครั้งการคิดมากก็มีผลดี
ถ้าคุณคือนักธุรกิจพันล้าน แต่ถ้าคนธรรมดา หาเช้ากินค่ำ อย่างเราๆ ไม่ต้องคิดอะไรมากครับ
คนที่คิดมากในสมองก็ไม่ต่างอะไรไปจาก นึกภาพตามนะครับ ขอยกตัวอย่าง 3 ข้อ
คนที่คิดมากในสมองก็ไม่ต่างอะไรไปจาก นึกภาพตามนะครับ ขอยกตัวอย่าง 3 ข้อ
1.ห้องคุณมีของเยอะมาก เยอะจนรกไปหมด จะทำยังไงให้ห้องหายรกดีครับ มันก็ต้องจัดกันหน่อย แล้วเริ่มจากตรงไหนดี
2.เชือกร้อยเส้นหลากสี พันกันมั่วไปหมด
3.สมอง: คิดมากจนปวดหมอง
1.ห้อง: แยกให้ได้ว่าอะไรขยะ อะไรจำเป็นต้องใช้จริงๆ อะไรที่ไม่จำเป็นโยนทิ้งไป อย่าไปเสียดาย
ควรทำอะไรก่อน กวาดก่อนหรือถูก่อนดี กวาดข้างบนก่อนแล้วค่อยกวาดข้างล่างอันนี้น่าจะพอรู้
จัดของทุกอย่างให้เข้าที่ เวลาจะหยิบจับอะไรมันง่ายละครับ ไม่รก และสะดวกที่จะหยิบมาใช้
2.เชือก: ค่อยๆแยกที่ละสี ทีละเส้น ทำเป็นกองๆ ค่อยๆแกะมันออกไม่ต้องรีบเดี่ยวมันจะยิ่งแน่นจนแกะไม่ออก
สมอง: แยกให้ออกว่า
อะไรคือ ปัญหาใหญ่ๆที่จำเป็นต้องแก้ และมีความจำเป็นในการดำเนินชีวิตประจำวัน
อะไรคือ ความคิดไร้สาระ วกวน วนเวียน แก้ไม่ตก เรื่องรกๆที่ไม่มีผลอะไรกับชีวิตและคนรอบข้างมาก
เรื่องอะไรควรทำก่อนหลัง เรื่องอะไรไร้สาระตัดไป อย่าคิดเยอะ อย่าเสียดาย เรื่องที่ควรแก้ก่อนเลยเช่น: เรื่องการเรียน เรื่องที่ทำงาน เรื่องทางบ้าน
ท่องไว้คำเดียว ทิฟฟี่เอาไม่อยู่แน่ๆ งานนี้ต้องทัมใจ"ทำใจ" อะไรจะเป็นยังไง ใครจะเป็นยังไง ทำใจซะ
เราจะทำมันให้ดีที่สุด ผลจะออกมายังไง อย่างน้อยเราก็จะคิดมันอีกทีว่า เราทำดีที่สุดแล้ว
ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย แล้วมานึกเสียใจเสียดายภายหลัง
แต่เทคนิคง่ายๆ ที่ผมใช้ ขึ้นอยู่กับจิตใจ สภาพแวดล้อม ชีวิตที่ผ่าน มันคือ ปล่อยวางบ้างครับ
......ยังไงก็ฝากไว้แค่นี้นะครับ สู้ๆ อย่าคิดมาก ชิวๆๆหน่ะ เอาไรมากกะชีวิต
By...อยู่ที่เราเลือก นัสชิวชิว
http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=3a66f0ef3895e9ec
No comments:
Post a Comment