กระทรวงสาธารณสุขแนะวิธีกินข้าวโพดฝักให้ได้สุขภาพ
ควรกินสลับมื้อกับข้าว เพื่อให้ได้สารอาหารที่หลากหลาย พร้อมบอกวิธีเลือกซื้อข้าวโพดเพื่อให้ได้คุณค่าเต็มเมล็ด
วันที่ 28 มกราคม 2558 ดร.นพ.พรเทพ
ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า ข้าวโพดเป็นอาหารกลุ่มข้าว-แป้ง
มีสารอาหารคาร์โบไฮเดรตเป็นหลัก และก็ยังมีสารอาหารอื่น ๆ ที่สำคัญต่อร่างกายด้วย
เช่น ใยอาหาร วิตามินเอ รวมถึงแร่ธาตุชนิดต่าง ๆ ด้วย โดยสารอาหารที่มีคุณค่าต่อร่างกายเหล่านี้จะแตกต่างกันไปตามสีของฝักข้าวโพด
เช่น ข้าวโพดสีเหลืองจะมีวิตามินเอสูง เบต้าแคโรทีน และคาร์โบไฮเดรต ข้าวโพดสีม่วงจะมีแอนโทไซยานินสูง
และคาร์โบไฮเดรต ซึ่งมีคุณสมบัติในการต่อต้านสารอนุมูลอิสระ เป็นต้น ซึ่งข้าวโพดฝักทุกสีมักจะมีสารอาหารคาร์โบไฮเดรตเป็นหลักอยู่แล้ว
เราจึงไม่ควรกินชนกับเมนูคาร์โบไฮเดรตอื่น ๆ ในมื้อเดียวกันอีก เช่น ข้าวสวย
ข้าวเหนียว ขนมจีน เส้นก๋วยเตี๋ยว กลอยและแป้งชนิดต่าง ๆ ควรกินในรูปแบบอาหารระหว่างมื้อ
มิเช่นนั้นร่างกายจะได้รับพลังงานจากคาร์โบไฮเดรตมากเกินความจำเป็น
ดร.นพ.พรเทพ กล่าวต่อไปว่า การเลือกซื้อข้าวโพดและการเก็บรักษาคุณค่าของเมล็ดข้าวโพดก็เป็นสิ่งสำคัญ
เพราะถ้าหากบริโภคฝักข้าวโพดที่ดี ร่างกายก็จะได้รับคุณค่าอาหารอย่างเต็มเปี่ยม
หลักการเลือกข้าวโพดสุกที่ต้ม นึ่ง ปิ้ง นั้นต้องเลือกข้าวโพดที่มีเมล็ดแต่งตึงไม่ลีบแบน
เมล็ดไม่แก่เกินไป โดยสังเกตจากสีของเมล็ดข้าวโพด หากเมล็ดข้าวโพดที่แก่มีสีเหลืองเข้ม
เมล็ดจะแข็ง และจะมีเปลือกหุ้มเมล็ดข้าวโพดที่แข็ง ที่สำคัญคือ ควรซื้อข้าวโพดในปริมาณที่เพียงพอจะประกอบอาหารในแต่ละครั้งเท่านั้น
หากใช้ไม่หมดก็ควรนำไปนึ่งหรือต้มให้สุกนาน 10 นาที
แล้วทิ้งให้เย็น ฝานเอาแต่เมล็ด เก็บใส่ภาชนะที่มีฝาปิดสนิท นำเข้าช่องแช่แข็ง ไม่ควรเก็บข้าวโพดดิบที่ซื้อมาไว้ในตู้เย็นนานเกินไป
เพราะเมล็ดข้าวโพดจะลีบแบนเพราะสูญเสียน้ำ
ทั้งนี้ หลักการกินอาหารเพื่อสุขภาพที่ดีของคนไทยคือ
ควรกินข้าวเป็นอาหารหลัก และสลับกินกับแป้งเป็นบางมื้อ
และถ้าหากมื้อไหนกินข้าวโพดแล้ว ก็ควรลดข้าว-แป้งลงประมาณครึ่งทัพพี เพราะข้าวโพดครึ่งฝักนั้นก็เทียบได้กับการกินข้าวสวยประมาณ
1 ทัพพีแล้ว หากเน้นหลักการกินแบบนี้จะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วนและเพียงพอกับความต้องการในแต่ละวัน
อีกทั้งยังทำให้น้ำหนักตัวไม่เพิ่มขึ้นด้วย นอกจากนี้แล้วยังต้องออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอด้วย
ก็จะทำให้มีสุขภาพดี
No comments:
Post a Comment