มะเขือเทศราชินี
หรือที่เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า มะเขือเทศเชอร์รี (Cherry
tomato) ผลไม้หน้าตาน่ารัก ที่ใครได้รู้จักประโยชน์เป็นต้องร้องว้าวอย่างแน่นอน
ถ้าเอ่ยถึงมะเขือเทศ เชื่อว่าทุกคนคงจะรู้จักมะเขือเทศลูกโต ๆ อย่างมะเขือเทศสีดากันเป็นอย่างดี เพราะเป็นผลไม้ที่นิยมนำมาประกอบอาหาร และยังเปี่ยมล้นไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน และแร่ธาตุต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย อีกทั้งยังช่วยบำรุงผิวได้ดีเยี่ยม แต่ถ้าเอ่ยถึงญาติของมันอย่างมะเขือเทศราชินีล่ะ บางคนอาจจะยังไม่รู้ว่ามะเขือเทศลูกเล็กอย่างมะเขือเทศราชินีนั้นมีประโยชน์ขนาดไหน
วันนี้กระปุกดอทคอมจึงขออาสาพาทุกคนไปทำความรู้จักกับมะเขือเทศราชินีให้มากขึ้น รับรองว่าถ้าคุณได้รู้จักมะเขือเทศราชินีแล้ว คุณจะต้องตกหลุมรักผลไม้ชื่องามสง่านี้อย่างถอนตัวไม่ขึ้นเลยทีเดียว
ถ้าเอ่ยถึงมะเขือเทศ เชื่อว่าทุกคนคงจะรู้จักมะเขือเทศลูกโต ๆ อย่างมะเขือเทศสีดากันเป็นอย่างดี เพราะเป็นผลไม้ที่นิยมนำมาประกอบอาหาร และยังเปี่ยมล้นไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน และแร่ธาตุต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย อีกทั้งยังช่วยบำรุงผิวได้ดีเยี่ยม แต่ถ้าเอ่ยถึงญาติของมันอย่างมะเขือเทศราชินีล่ะ บางคนอาจจะยังไม่รู้ว่ามะเขือเทศลูกเล็กอย่างมะเขือเทศราชินีนั้นมีประโยชน์ขนาดไหน
วันนี้กระปุกดอทคอมจึงขออาสาพาทุกคนไปทำความรู้จักกับมะเขือเทศราชินีให้มากขึ้น รับรองว่าถ้าคุณได้รู้จักมะเขือเทศราชินีแล้ว คุณจะต้องตกหลุมรักผลไม้ชื่องามสง่านี้อย่างถอนตัวไม่ขึ้นเลยทีเดียว
รู้จักมะเขือเทศราชินี
มะเขือเทศราชินี กับ มะเขือเทศเชอร์รี (Cherry tomato) ก็คือผลไม้ชนิดเดียวกัน มีชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์ว่า Solanum lycopersicum L. var. cerasiforme อยู่ในวงศ์ Solanaceae เป็นพืชล้มลุก ลำต้นตั้งตรง มีขนอ่อน ๆ ปกคลุมลำต้น ใบประกอบเป็นแบบสลับ ใบย่อยมีขนาดไม่เท่ากัน บางใบเล็กเรียว บางใบกลมใหญ่ ปลายใบแหลม ขอบใบหยัก คล้ายฟันเลื่อย มีขนอ่อนปกคลุม ดอกมีสีเหลือง ผลมีลักษณะกลมรี หรือทรงรี เมื่อสุกจะมีสีเหลือง สีส้ม หรือสีแดง เนื้อนุ่มฉ่ำน้ำ มีรสเปรี้ยวอมหวาน
มะเขือเทศราชินี กับ มะเขือเทศเชอร์รี (Cherry tomato) ก็คือผลไม้ชนิดเดียวกัน มีชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์ว่า Solanum lycopersicum L. var. cerasiforme อยู่ในวงศ์ Solanaceae เป็นพืชล้มลุก ลำต้นตั้งตรง มีขนอ่อน ๆ ปกคลุมลำต้น ใบประกอบเป็นแบบสลับ ใบย่อยมีขนาดไม่เท่ากัน บางใบเล็กเรียว บางใบกลมใหญ่ ปลายใบแหลม ขอบใบหยัก คล้ายฟันเลื่อย มีขนอ่อนปกคลุม ดอกมีสีเหลือง ผลมีลักษณะกลมรี หรือทรงรี เมื่อสุกจะมีสีเหลือง สีส้ม หรือสีแดง เนื้อนุ่มฉ่ำน้ำ มีรสเปรี้ยวอมหวาน
มีอะไรอยู่ในมะเขือเทศราชินี ?
ใครจะไปคาดคิดว่าในมะเขือเทศราชินีลูกเล็ก ๆ จะมีคุณค่าทางอาหารซ่อนอยู่เพียบ เราไปดูกันดีกว่าว่า ในมะเขือเทศราชินี 100 กรัม (ประมาณ 5-7 ลูก) มีคุณค่าทางโภชนาการอะไรบ้าง
- พลังงานประมาณ 18 กิโลแคลอรี
- คาร์โบไฮเดรต 4.2 กรัม
- ไฟเบอร์ 0.8 กรัม
- กลูโคส 2.5 กรัม
- โปรตีน 0.8 กรัม
- โซเดียม 10.8 มิลลิกรัม
- วิตามินเอ 86.3 ไมโครกรัม
- วิตามินซี 34.1 มิลลิกรัม
- แคลเซียม 12.5 มิลลิกรัม
- ธาตุเหล็ก 0.3 มิลลิกรัม
ใครจะไปคาดคิดว่าในมะเขือเทศราชินีลูกเล็ก ๆ จะมีคุณค่าทางอาหารซ่อนอยู่เพียบ เราไปดูกันดีกว่าว่า ในมะเขือเทศราชินี 100 กรัม (ประมาณ 5-7 ลูก) มีคุณค่าทางโภชนาการอะไรบ้าง
- พลังงานประมาณ 18 กิโลแคลอรี
- คาร์โบไฮเดรต 4.2 กรัม
- ไฟเบอร์ 0.8 กรัม
- กลูโคส 2.5 กรัม
- โปรตีน 0.8 กรัม
- โซเดียม 10.8 มิลลิกรัม
- วิตามินเอ 86.3 ไมโครกรัม
- วิตามินซี 34.1 มิลลิกรัม
- แคลเซียม 12.5 มิลลิกรัม
- ธาตุเหล็ก 0.3 มิลลิกรัม
มะเขือเทศราชินี ประโยชน์ดี๊ ดี สรรพคุณเด็ด
+ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
ผลไม้ฉ่ำน้ำ รสเปรี้ยวอมหวานชนิดนี้มีวิตามินซีอยู่ไม่น้อยเลยค่ะ ซึ่งวิตามินซีจะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างเม็ดเลือดขาวเพื่อป้องกันหรือกำจัดเชื้อโรคแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย จึงช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงขึ้น ไม่ป่วยไม่เจ็บง่าย ๆ และโดยทั่วไปแล้ว ผู้หญิงต้องการวิตามินซีวันละ 75 มิลลิกรัม ส่วนผู้ชายต้องการวิตามินซีวันละ 90 มิลลิกรัม ซึ่งมะเขือเทศราชินี 1 ถ้วย (ประมาณ 240 กรัม หรือ 14-15 ลูก) จะให้วิตามินซีราว ๆ 80 มิลลิกรัม ก็ถือว่าเพียงพอกับความต้องการของร่างกายใน 1 วัน
+ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
ผลไม้ฉ่ำน้ำ รสเปรี้ยวอมหวานชนิดนี้มีวิตามินซีอยู่ไม่น้อยเลยค่ะ ซึ่งวิตามินซีจะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างเม็ดเลือดขาวเพื่อป้องกันหรือกำจัดเชื้อโรคแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย จึงช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงขึ้น ไม่ป่วยไม่เจ็บง่าย ๆ และโดยทั่วไปแล้ว ผู้หญิงต้องการวิตามินซีวันละ 75 มิลลิกรัม ส่วนผู้ชายต้องการวิตามินซีวันละ 90 มิลลิกรัม ซึ่งมะเขือเทศราชินี 1 ถ้วย (ประมาณ 240 กรัม หรือ 14-15 ลูก) จะให้วิตามินซีราว ๆ 80 มิลลิกรัม ก็ถือว่าเพียงพอกับความต้องการของร่างกายใน 1 วัน
+ ลดความเสี่ยงโรคร้าย
มีมะเขือเทศราชินีที่ไหน มีไลโคปีน (Lycopene) ที่นั่นค่ะ เชื่อว่าทุกคนคงจะเคยผ่านหูผ่านตากับชื่อของไลโคปีนกันมาบ้างแล้ว ซึ่งไลโคปีนก็คือ สารต้านอนุมูลอิสระในกลุ่มแคโรทีนอยด์ (Carotenoid) ที่จะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคต่าง ๆ อันมีสาเหตุมาจากเซลล์ถูกทำลายได้ อย่างเช่น โรคมะเร็ง ยืนยันโดยงานวิจัยที่ถูกตีพิมพ์ลงในวารสาร "Canadian Medical Association Journal"
นอกจากในมะเขือเทศราชินีจะเป็นแหล่งไลโคปีนแล้ว ในมะเขือเทศราชินียังมีสารประกอบฟีนอลิก (Phenolic compounds) ที่จะช่วยป้องกันโรคมะเร็ง โรคหัวใจและหลอดเลือดได้เป็นอย่างดี โดยจากการศึกษาของคณะทรัพยากรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน เขตพระนคร ร่วมกับ คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เรื่อง "ผลของสายพันธุ์ต่อความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระและฤทธิ์การต้านออกซิเดชั่นของมะเขือเทศราชินี" ในมะเขือเทศราชินีสุก 4 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์ 12005 12034 C40 และ G50 พบว่ามะเขือเทศราชินีสายพันธุ์ C40 มีสารประกอบฟีนอลิก(Phenolic compounds) และมีความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระสูงที่สุด ที่จะช่วยป้องกันโรคมะเร็ง โรคหัวใจและหลอดเลือดได้ ฉะนั้นถ้าเรากินมะเขือเทศราชินีเป็นประจำ ก็จะช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งและโรคหัวใจได้
+ แก้ปวดและต้านการอักเสบ
ใครที่เป็นโรคข้ออักเสบ แนะนำให้กินมะเขือเทศราชินีค่ะ เพราะในมะเขือเทศราชินีมีสารไบโอฟลาโวนอยด์ (bioflavonoid) และแคโรทีนอยด์ช่วยบรรเทาอาการปวด อาการอักเสบ และชะลอโรคให้ช้าลง ส่วนใครที่ยังไม่ได้เป็นโรคข้ออักเสบมะเขือเทศราชินีก็ช่วยป้องกันโรคไขข้ออักเสบได้ด้วยนะ
มีมะเขือเทศราชินีที่ไหน มีไลโคปีน (Lycopene) ที่นั่นค่ะ เชื่อว่าทุกคนคงจะเคยผ่านหูผ่านตากับชื่อของไลโคปีนกันมาบ้างแล้ว ซึ่งไลโคปีนก็คือ สารต้านอนุมูลอิสระในกลุ่มแคโรทีนอยด์ (Carotenoid) ที่จะช่วยลดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคต่าง ๆ อันมีสาเหตุมาจากเซลล์ถูกทำลายได้ อย่างเช่น โรคมะเร็ง ยืนยันโดยงานวิจัยที่ถูกตีพิมพ์ลงในวารสาร "Canadian Medical Association Journal"
นอกจากในมะเขือเทศราชินีจะเป็นแหล่งไลโคปีนแล้ว ในมะเขือเทศราชินียังมีสารประกอบฟีนอลิก (Phenolic compounds) ที่จะช่วยป้องกันโรคมะเร็ง โรคหัวใจและหลอดเลือดได้เป็นอย่างดี โดยจากการศึกษาของคณะทรัพยากรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน เขตพระนคร ร่วมกับ คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เรื่อง "ผลของสายพันธุ์ต่อความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระและฤทธิ์การต้านออกซิเดชั่นของมะเขือเทศราชินี" ในมะเขือเทศราชินีสุก 4 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์ 12005 12034 C40 และ G50 พบว่ามะเขือเทศราชินีสายพันธุ์ C40 มีสารประกอบฟีนอลิก(Phenolic compounds) และมีความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระสูงที่สุด ที่จะช่วยป้องกันโรคมะเร็ง โรคหัวใจและหลอดเลือดได้ ฉะนั้นถ้าเรากินมะเขือเทศราชินีเป็นประจำ ก็จะช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งและโรคหัวใจได้
+ แก้ปวดและต้านการอักเสบ
ใครที่เป็นโรคข้ออักเสบ แนะนำให้กินมะเขือเทศราชินีค่ะ เพราะในมะเขือเทศราชินีมีสารไบโอฟลาโวนอยด์ (bioflavonoid) และแคโรทีนอยด์ช่วยบรรเทาอาการปวด อาการอักเสบ และชะลอโรคให้ช้าลง ส่วนใครที่ยังไม่ได้เป็นโรคข้ออักเสบมะเขือเทศราชินีก็ช่วยป้องกันโรคไขข้ออักเสบได้ด้วยนะ
+ ควบคุมความดัน ป้องกันโรคหัวใจ
โพแทสเซียมเป็นแร่ธาตุสำคัญที่ช่วยเป็นเกราะกำบังโรคหลอดเลือดและหัวใจค่ะ ซึ่งมะเขือเทศราชินี เป็นแหล่งโพแทสเซียมชั้นดีเลย เพราะมะเขือเทศราชินี 1 ถ้วย ให้โพแทสเซียมมากกว่า 350 มิลลิกรัม ทานเป็นประจำจะช่วยควบคุมความดันโลหิตให้เป็นปกติ และป้องกันโรคหัวใจได้
+ แก้ท้องผูก บูทระบบขับถ่าย
ในมะเขือเทศราชินีอุดมไปด้วยเส้นใยอาหารที่ไม่ละลายน้ำ จึงช่วยทำความสะอาดทางเดินอาหาร และช่วยเพิ่มกากอาหาร ทำให้ขับถ่ายสะดวกขึ้น จึงเป็นอาหารที่เหมาะกับคนที่ปัญหาระบบขับถ่ายโดยเฉพาะท้องผูกประจำ ต้องหม่ำมะเขือเทศราชินีให้ไวเลย
โพแทสเซียมเป็นแร่ธาตุสำคัญที่ช่วยเป็นเกราะกำบังโรคหลอดเลือดและหัวใจค่ะ ซึ่งมะเขือเทศราชินี เป็นแหล่งโพแทสเซียมชั้นดีเลย เพราะมะเขือเทศราชินี 1 ถ้วย ให้โพแทสเซียมมากกว่า 350 มิลลิกรัม ทานเป็นประจำจะช่วยควบคุมความดันโลหิตให้เป็นปกติ และป้องกันโรคหัวใจได้
+ แก้ท้องผูก บูทระบบขับถ่าย
ในมะเขือเทศราชินีอุดมไปด้วยเส้นใยอาหารที่ไม่ละลายน้ำ จึงช่วยทำความสะอาดทางเดินอาหาร และช่วยเพิ่มกากอาหาร ทำให้ขับถ่ายสะดวกขึ้น จึงเป็นอาหารที่เหมาะกับคนที่ปัญหาระบบขับถ่ายโดยเฉพาะท้องผูกประจำ ต้องหม่ำมะเขือเทศราชินีให้ไวเลย
+ ลดน้ำหนักก็ได้
มะเขือเทศราชินีเป็นผลไม้ที่คู่ควรกับคนที่กำลังลดน้ำหนักจริง ๆ ค่ะ เนื่องจากมีปริมาณน้ำและเส้นใยอาหารมาก กินแล้วอิ่มท้อง คนที่กำลังไดเอตอย่าลืมหามะเขือเทศราชินีมาวางไว้ใกล้ตัวนะคะ หิวเมื่อไรจะได้หยิบกินได้สะดวก
+ บำรุงสายตา
ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจค่ะ ถ้าใครอยากมีสายตาดี ต้องกินมะเขือเทศราชินีที่มีสารเบต้า-แคโรทีน (Beta-carotene) สูงมาก การันตีจากการศึกษาเรื่อง "องค์ความรู้เรื่องปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระในผลไม้เพื่อส่งเสริมสุขภาพ (วิตามินซี วิตามินอี และเบต้า-แคโรทีน) ในผลไม้" โดยสำนักโภชนาการ กรมอนามัย พบว่ามะเขือเทศราชินีสีเหลืองมีเบต้า-แคโรทีน สูงเป็นอันดับ 2 ในบรรดาผลไม้ทั้งหมด 10 ชนิดที่นำมาทดสอบ (ผลไม้อื่น ๆ ได้แก่ มะม่วงน้ำดอกไม้สุก มะละกอสุก กล้วยไข่ มะม่วงยายกล่ำ มะปรางหวาน แคนตาลูปเนื้อเหลือง มะยงชิด มะม่วงเขียวเสวยสุก และสับปะรดภูเก็ต) ซึ่งเจ้าเบต้า-แคโรทีนนี่ล่ะค่ะที่ช่วยบำรุงสายตา ทำให้เรามองเห็นได้ดีในที่มืด แถมยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต้อกระจกอีกด้วย
มะเขือเทศราชินีเป็นผลไม้ที่คู่ควรกับคนที่กำลังลดน้ำหนักจริง ๆ ค่ะ เนื่องจากมีปริมาณน้ำและเส้นใยอาหารมาก กินแล้วอิ่มท้อง คนที่กำลังไดเอตอย่าลืมหามะเขือเทศราชินีมาวางไว้ใกล้ตัวนะคะ หิวเมื่อไรจะได้หยิบกินได้สะดวก
+ บำรุงสายตา
ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจค่ะ ถ้าใครอยากมีสายตาดี ต้องกินมะเขือเทศราชินีที่มีสารเบต้า-แคโรทีน (Beta-carotene) สูงมาก การันตีจากการศึกษาเรื่อง "องค์ความรู้เรื่องปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระในผลไม้เพื่อส่งเสริมสุขภาพ (วิตามินซี วิตามินอี และเบต้า-แคโรทีน) ในผลไม้" โดยสำนักโภชนาการ กรมอนามัย พบว่ามะเขือเทศราชินีสีเหลืองมีเบต้า-แคโรทีน สูงเป็นอันดับ 2 ในบรรดาผลไม้ทั้งหมด 10 ชนิดที่นำมาทดสอบ (ผลไม้อื่น ๆ ได้แก่ มะม่วงน้ำดอกไม้สุก มะละกอสุก กล้วยไข่ มะม่วงยายกล่ำ มะปรางหวาน แคนตาลูปเนื้อเหลือง มะยงชิด มะม่วงเขียวเสวยสุก และสับปะรดภูเก็ต) ซึ่งเจ้าเบต้า-แคโรทีนนี่ล่ะค่ะที่ช่วยบำรุงสายตา ทำให้เรามองเห็นได้ดีในที่มืด แถมยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต้อกระจกอีกด้วย
+ บำรุงผิวพรรณ
สาว ๆ ที่อยากมีผิวขาวใส อมชมพู แก้มแดง โดยไม่ต้องพึ่งแอพฯ ขอแนะนำให้กินมะเขือเทศราชินีค่ะ เพราะในมะเขือเทศราชินีมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอวัย ลดริ้วรอย บำรุงผิวพรรณให้สดใส ชุ่มชื้น ส่วนคนที่มีปัญหาหน้ามัน ผิวมันบ่อย ๆ หยิบมะเขือเทศราชินีในครัวขึ้นมาหั่นบาง ๆ แล้วโปะลงบนหน้าสักพัก จากนั้นค่อยล้างออก ทำเป็นประจำทุกเช้าและก่อนนอน ก็จะช่วยให้หน้าใส ไร้ความมันมากวนใจ
สาว ๆ ที่อยากมีผิวขาวใส อมชมพู แก้มแดง โดยไม่ต้องพึ่งแอพฯ ขอแนะนำให้กินมะเขือเทศราชินีค่ะ เพราะในมะเขือเทศราชินีมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยชะลอวัย ลดริ้วรอย บำรุงผิวพรรณให้สดใส ชุ่มชื้น ส่วนคนที่มีปัญหาหน้ามัน ผิวมันบ่อย ๆ หยิบมะเขือเทศราชินีในครัวขึ้นมาหั่นบาง ๆ แล้วโปะลงบนหน้าสักพัก จากนั้นค่อยล้างออก ทำเป็นประจำทุกเช้าและก่อนนอน ก็จะช่วยให้หน้าใส ไร้ความมันมากวนใจ
+ รักษาสิว
ช่วงวัยรุ่นเป็นวัยที่ฮอร์โมนกำลังเปลี่ยนแปลง จึงมีปัญหาสิวกวนใจได้ง่าย แต่ถ้าใครมีมะเขือเทศราชินีอยู่ใกล้ ๆ ตัว ก็ลองหยิบมะเขือเทศราชินีมารักษาสิวดูสิคะ ในมะเขือเทศราชินีมีวิตามินอี จึงมีสรรพคุณช่วยรักษาสิวได้ วิธีการก็คือ เฉือนมะเขือเทศราชินิให้เป็นชิ้นบาง ๆ และวางไว้บริเวณที่มีสิวขึ้นสัก 30 นาที แล้วล้างหน้าให้สะอาด เพียงเท่านี้สิวก็จะลดลง ผิวหน้าก็จะชุ่มชื้น มีน้ำมีนวลขึ้น อย่างเห็นได้ชัด
+ ป้องกันผมร่วง
ปัญหาผมร่วงคงเป็นปัญหาใหญ่สำหรับใครหลาย ๆ คนใช่ไหมคะ เพราะส่งผลต่อบุคลิกของเรา นี่ถ้าใครผมร่วงมาก ๆ อาจถึงขั้นสูญเสียความมั่นใจในตัวเองไปเลยแต่อย่าเพิ่งกังวลไปค่ะ เพราะในมะเขือเทศราชินีมีวิตามินเอ ที่จะช่วยให้สุขภาพผมแข็งแรงขึ้น เพียงแค่เราคั้นน้ำมะเขือเทศราชินี แล้วนำมาสระผมแทนชมพู ผมของเราก็จะมีสุขภาพดีขึ้นได้ แต่อย่าลืมล้างผมให้สะอาดด้วยนะ ไม่อย่างนั้นละก็ผมจะเหนียวและดูรุงรังมากขึ้นไปอีก
ช่วงวัยรุ่นเป็นวัยที่ฮอร์โมนกำลังเปลี่ยนแปลง จึงมีปัญหาสิวกวนใจได้ง่าย แต่ถ้าใครมีมะเขือเทศราชินีอยู่ใกล้ ๆ ตัว ก็ลองหยิบมะเขือเทศราชินีมารักษาสิวดูสิคะ ในมะเขือเทศราชินีมีวิตามินอี จึงมีสรรพคุณช่วยรักษาสิวได้ วิธีการก็คือ เฉือนมะเขือเทศราชินิให้เป็นชิ้นบาง ๆ และวางไว้บริเวณที่มีสิวขึ้นสัก 30 นาที แล้วล้างหน้าให้สะอาด เพียงเท่านี้สิวก็จะลดลง ผิวหน้าก็จะชุ่มชื้น มีน้ำมีนวลขึ้น อย่างเห็นได้ชัด
+ ป้องกันผมร่วง
ปัญหาผมร่วงคงเป็นปัญหาใหญ่สำหรับใครหลาย ๆ คนใช่ไหมคะ เพราะส่งผลต่อบุคลิกของเรา นี่ถ้าใครผมร่วงมาก ๆ อาจถึงขั้นสูญเสียความมั่นใจในตัวเองไปเลยแต่อย่าเพิ่งกังวลไปค่ะ เพราะในมะเขือเทศราชินีมีวิตามินเอ ที่จะช่วยให้สุขภาพผมแข็งแรงขึ้น เพียงแค่เราคั้นน้ำมะเขือเทศราชินี แล้วนำมาสระผมแทนชมพู ผมของเราก็จะมีสุขภาพดีขึ้นได้ แต่อย่าลืมล้างผมให้สะอาดด้วยนะ ไม่อย่างนั้นละก็ผมจะเหนียวและดูรุงรังมากขึ้นไปอีก
ข้อควรระวังในการทานมะเขือเทศราชินี
ถึงแม้ว่ามะเขือเทศราชินีจะมีประโยชน์มากขนาดไหน แต่ใช่ว่าทุกคนจะกินมะเขือเทศราชินีได้นะคะ เพราะยังมีคนบางกลุ่มที่ควรระวังในการกินมะเขือเทศราชินี อย่างเช่น
+ คนที่มีภาวะกรดไหลย้อน
คนที่มีภาวะกรดไหลย้อน ถ้ากินมะเขือเทศราชินีมากเกินไป จะทำให้โรคกำเริบได้ เนื่องจากมะเขือเทศราชินีมีคุณสมบัติเป็นกรดอ่อน ๆ
+ คนที่เป็นโรคไตและผู้ที่มีภาวะโพแทสเซียมในเลือดสูง
คนที่เป็นโรคไตและคนที่มีภาวะโพแทสเซียมในเลือดสูงไม่ควรกินมะเขือเทศราชินีค่ะ เนื่องจากมะเขือเทศราชินีมีโพแทสเซียมสูงอยู่แล้ว ถ้าร่างกายขับโพแทสเซียมออกมาไม่หมด จะทำให้ระบบกล้ามเนื้อ ระบบประสาท ระบบหัวใจและหลอดเลือดเกิดความผิดปกติ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อหัวใจที่อาจหยุดเต้นจนเสียชีวิตได้เลย
เมื่อได้รู้ประโยชน์ของมะเขือเทศราชินีแบบนี้แล้ว ก็อย่ารอช้า รีบไปจัดมะเขือเทศราชินีโดยด่วนเลยนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
วารสารข่าวการเกษตรชลประทาน
สำนักโภชนาการ กรมอนามัย
inetarticle
healthyliving
healthyandnaturallife
eatthismuch
ถึงแม้ว่ามะเขือเทศราชินีจะมีประโยชน์มากขนาดไหน แต่ใช่ว่าทุกคนจะกินมะเขือเทศราชินีได้นะคะ เพราะยังมีคนบางกลุ่มที่ควรระวังในการกินมะเขือเทศราชินี อย่างเช่น
+ คนที่มีภาวะกรดไหลย้อน
คนที่มีภาวะกรดไหลย้อน ถ้ากินมะเขือเทศราชินีมากเกินไป จะทำให้โรคกำเริบได้ เนื่องจากมะเขือเทศราชินีมีคุณสมบัติเป็นกรดอ่อน ๆ
+ คนที่เป็นโรคไตและผู้ที่มีภาวะโพแทสเซียมในเลือดสูง
คนที่เป็นโรคไตและคนที่มีภาวะโพแทสเซียมในเลือดสูงไม่ควรกินมะเขือเทศราชินีค่ะ เนื่องจากมะเขือเทศราชินีมีโพแทสเซียมสูงอยู่แล้ว ถ้าร่างกายขับโพแทสเซียมออกมาไม่หมด จะทำให้ระบบกล้ามเนื้อ ระบบประสาท ระบบหัวใจและหลอดเลือดเกิดความผิดปกติ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อหัวใจที่อาจหยุดเต้นจนเสียชีวิตได้เลย
เมื่อได้รู้ประโยชน์ของมะเขือเทศราชินีแบบนี้แล้ว ก็อย่ารอช้า รีบไปจัดมะเขือเทศราชินีโดยด่วนเลยนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
วารสารข่าวการเกษตรชลประทาน
สำนักโภชนาการ กรมอนามัย
inetarticle
healthyliving
healthyandnaturallife
eatthismuch
เครดิตภาพ https://health.kapook.com/view168485.html
No comments:
Post a Comment