ยุคนี้ใคร ๆ ก็เครียดเพราะเรื่องงาน เรื่องเงิน เรื่องสุขภาพ และอีกหลาย ๆ เรื่องหยุมหยิม แต่ทราบไหมคะว่าใครที่คิดเอาเองว่าตัวเองเครียด หรือพยายามหาเรื่องเครียดใส่ตัว นั่นกลับยิ่งทำให้ตัวเองเครียดหนักและส่งผลร้ายตัวสุขภาพมากกว่าการเครียดเองจริง ๆ เสียอีก
เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้นค่ะ
เราแบ่งต้นตอความเครียดออกเป็น 3 ที่มาด้วยกัน
1. เครียดจริงเพราะสิ่งที่เกิดกับตัวเอง
หรือมีเรื่องให้เครียด ไม่ว่าจะเรื่องของตัวเองหรือเรื่องรอบตัว
2. เครียดจริงเพราะเอาเรื่องของคนอื่นมาคิด
3. เครียดเพราะพยายามหาเรื่องเครียดให้ตัวเอง
หรือคิดเอาเองว่าตัวเองต้องเครียด
ข้อ
3 นี่แหละค่ะที่มีทีมนักวิจัยเผยแพร่ข้อมูลการศึกษาที่น่าสนใจไว้ใน American
Journal of Cardiology ว่า ทั้งที่เรามีชีวิตปกติดีแล้ว แต่กลับคิดเอาเองว่าตัวเองกำลังเครียด
คิดหาเรื่องเครียดใส่ตัว
เป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจสูงถึง 27% เชียวค่ะ
ตัวอย่างที่เห็นชัด
ๆ เช่น เจ้านายให้งานเพิ่มทำให้เราคิดไปก่อนแล้วว่างานเยอะ งานหนัก ทำไม่ไหว
ทำไม่ทัน แล้วเกิดความเครียดล่วงหน้าทั้งที่จริง ๆ แล้วยังไม่เห็นงานหรือยังไม่ได้ลงมือทำ
หรือ คนในครอบครัวกำลังมีปัญหา เราก็คิดและเครียดนำไปก่อน
โดยที่ยังไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไร เรื่องใหญ่แค่ไหน แก้ปัญหายังไง
จะแก้ปัญหาได้หรือไม่
ทีมนักวิจัยกล่าวว่าตอนนี้หลายคนมีอาการเสพติดความเครียด
คือ เครียดจนชินแต่พอเข้าสู่ภาวะปกติจะรู้สึกอยู่ไม่ได้ เพราะไม่มีเรื่องให้คิด ไม่มีเรื่องให้กังวล
จึงต้องพยายามหาเรื่องเครียด ๆ มาคิด หรือคิดไปเองว่าตัวเองกำลังเครียดนั่นเอง
การบำบัดอาการนี้ไม่ยากค่ะ
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำการนั่งสมาธิ สูดลมหายใจเข้าและออกลึก ๆ ช้า ๆ และลองมองหาของสวย
ๆ งาม ๆ หรือของที่ทำให้อารมณ์ดีมาไว้ในระยะสายตาตลอดก็จะช่วยลดอาการนี้ได้ค่ะ
ใครจะไปคิดล่ะคะว่าแค่คิดเอาเองว่ากำลังเครียด
ทั้งที่ไม่ได้เครียดเลยมันกลับทำให้เราเครียดจริง แถมยังร้ายต่อหัวใจเราอีก
ระวังกันไว้นะคะว่า
"อย่าคิดไปเอง"
แหล่งที่มา Momypedia, http://health.kapook.com
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
No comments:
Post a Comment