คงมีคนจำนวนไม่น้อยที่ชอบกลิ่นฝน
เพราะกลิ่นนี้ช่วยทำให้เรารู้สึกอารมณ์ดี
นอกจากนี้ยังทำให้เรารู้สึกสดชื่นขึ้นได้อีกด้วย
มีนักวิทยาศาสตร์หลายคนเชื่อว่า
เราถูกถ่ายทอดความชื่นชอบในกลิ่นของฝนมาจากบรรพบุรุษของเรา ซึ่งในอดีตบรรพบุรุษของเราได้พึ่งพาฝนเพื่อการดำรงชีวิต
นักวิทยาศาสตร์จึงให้ความสนใจที่จะค้นหาว่า เพราะเหตุใดกลิ่นฝนจึงทำให้เรารู้สึกอารมณ์ดี
และกลิ่นเหล่านั้นมีที่มาจากอะไร
ทั้งนี้
ฝนที่ตกลงมาทำให้เกิดกลิ่นมากมาย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือกลิ่นที่มีชื่อเรียกว่า
"เพทริคอร์" ซึ่งมีที่มาจากชื่อนักวิทยาศาสตร์ 2 คนที่ค้นพบกลิ่นนี้
โดยกลิ่นนี้มักจะเกิดขึ้นช่วงฝนหยุดตกใหม่ ๆ เกิดได้จาก 2 สาเหตุ
ได้แก่ สาเหตุแรก มาจากน้ำมันลึกลับบางชนิดที่พืชได้สร้างขึ้นและสะสมเอาไว้ในช่วงที่ฝนไม่ตก
และเมื่อฝนตกลงมาน้ำฝนก็จะชะล้างน้ำมันเหล่านั้นให้ฟุ้งไปในอากาศ
ส่วนอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดกลิ่น
"เพทริคอร์" ก็คือสารเคมีบางชนิดซึ่งอยู่ในแบคทีเรีย
"แอคติโนมายซีตส์" ที่อาศัยอยู่ในดิน
โดยแบคทีเรียชนิดนี้จะลอยสู่อากาศเมื่อฝนตก และเมื่อกลิ่นทั้งสองชนิดลอยขึ้นสู่อากาศแล้วเกิดการรวมตัวกันก็ทำให้เกิดกลิ่น
"เพทริคอร์" ซึ่งเป็นกลิ่นที่หลาย ๆ คนชอบนั่นเอง โดยกลิ่นชนิดนี้มีความหอมซึ่งจะให้ความรู้สึกสดชื่น
กระปรี้กระเปร่าค่ะ
นอกจากนี้
กลิ่นของ "โอโซน" ก็เป็นอีกกลิ่นหนึ่งที่ทำให้เรารู้สึกสดชื่นกระชุ่มกระชวย เมื่อเราออกไปสู่ที่โล่งหลังฝนตก
โดยกลิ่นของโอโซนนั้น มาจากภาวะฝนฟ้าคะนอง ฟ้าแลบ ฟ้าร้อง ซึ่งประจุไฟฟ้าที่อยู่ในบรรยากาศเหล่านั้นจะแยกโมเลกุลของออกซิเจนและไนโตรเจนออกจากกัน
และโมเลกุลที่ถูกแยกออกจากกันก็จะรวมตัวกับสารเคมีอื่น ๆ ที่อยู่ในอากาศกลายเป็นโอโซน
ซึ่งโอโซนนั้นมีกลิ่นคล้าย ๆ กับ คลอรีน ที่ช่วยสร้างความรู้สึกกระชุ่มกระชวย
และสดชื่นให้กับคนเรา
นอกจากนี้ ยังมีการรายงานจากนิตยสาร Smitsonian
ถึงการวิจัยเกี่ยวกับกลิ่นฝนอีกว่า กลิ่นฝนที่เกิดในช่วงบ่ายของฤดูร้อนนั้นเป็นหนึ่งในกลิ่นฝนที่หอมที่สุดอีกด้วย
โดยการวิจัยเผยให้เห็นว่า สีเขียวของธรรมชาติและการเจริญเติบโตของพืชต่าง ๆ นั้นทำให้มนุษย์รู้สึกเพลิดเพลินกับกลิ่นของฝนมากขึ้นเป็นพิเศษ
สรุปได้ว่า กลิ่นฝนสามารถสร้างความรู้สึกกระชุ่มกระชวยกระปรี้กระเปร่าได้ มิน่าล่ะ
หลังฝนตกทีไรรู้สึกสดชื่นแบบบอกไม่ถูกเลยเนอะ แต่อย่างไรก็ตาม ฝนก็ยังคงเป็นสาเหตุที่ทำให้เราเจ็บป่วยได้
เพราะฉะนั้น เราควรจะหลีกเลี่ยงการตากฝน และอย่าลืมพกร่มกันด้วยนะคะ
No comments:
Post a Comment